“Camparino Masterclass” ครั้งแรกในไทยที่พาคุณไปเปิดโลกแห่ง Campari และท่องประวัติศาสตร์แบรนด์ ตั้งแต่ Caffe Campari แหล่งกำเนิดของ Aperitivo จนถึง Camparino ณ Galleria บาร์ผู้ครองรางวัล World’s 50 Best Bars
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Tommaso Cecca บาร์เทนเดอร์มากประสบการณ์จากอิตาลี และผู้จัดการ Camparino บาร์ระดับตำนานอายุ 107 ปีใน Galleria ห้างใจกลางเมือง Milan ประเทศอิตาลี เมืองแห่งวัฒนธรรม Aperitivo (การดื่มสังสรรค์ยามเย็นหลังเลิกงาน) ได้มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟให้แก่เหล่าบาร์เทนเดอร์ และผู้อยู่หลังบาร์ทั้งหลายได้สัมผัสกับประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟ ณ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok
Tommaso วัย 38 จากเมือง Bari เริ่มทำงานบริเวณแคว้น Puglia ตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก และหลังจากได้ฝึกฝีมือที่กรุง London จนเก่งกาจ เขาก็ได้เดินทางกลับมายังประเทศอิตาลีและเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการบาร์ที่ Cafe Trussardi ในเมือง Milan เป็นเวลามากกว่า 13 ปี และในวันนี้ที่เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์มามากกว่า 3 ปี เขานับเป็นจิตวิญญาณแห่ง Camparino ณ Galleria
โดยบาร์แห่งนี้ที่รองรับลูกค้ามากถึง 1,500 รายต่อวัน และมีลูกค้าในโลกออนไลน์ที่มีส่วนร่วมในทุกช่องทางออนไลน์ของทางบาร์มากถึง 90 ล้านคนเฉพาะแค่ภายในปีที่แล้วปีเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จอันยาวนาน, ชื่อเสียงระดับโลกด้านการบริการที่เป็นมิตร, คุณภาพที่ไม่มีวันลดลง และทีมงานมากความรู้ที่พร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่
“ผู้คนไม่ได้ไปยังบาร์และภัตตาคารเพียงเพื่อทานอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น” Tommaso กล่าว “ลูกค้าทั้งหลายต้องการมากกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาก็มีความรู้มาก สิ่งที่เรามุ่งนำเสนอคือ แน่นอน เครื่องดื่มที่ดี และประสบการณ์ที่เราหยิบยื่นให้ ทีมงานของเราถูกฝึกให้มีไหวพริบในการให้บริการลูกค้าอย่างถูกต้อง และสามารถอ่านใจลูกค้า รวมไปถึงตัดสินใจแทนลูกค้าด้วยในบางครั้ง การทำงานเป็นทีมและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมากในการรังสรรค์เครื่องดื่มใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าคือหัวใจสำคัญของการทำงานของเรา ไม่ว่าเราจะละทิ้งสิ่งเก่าหรือนำสิ่งใหม่เข้ามา ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับลูกค้าของเรา”
สำหรับ Tommaso แล้ว Camparino คล้ายกับ Campari อย่างมาก ทั้งในแง่ความโด่งดังระดับโลก และความเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ในขณะที่ฟีเจอร์บาร์อันตำนานยังคงถูกรักษาไว้อย่างทรงเกียรติ ทั้งสองก็ได้พร้อมอ้าแขนรับกลิ่นอายความร่วมสมัยเพื่อดึงดูดลูกค้ารุ่นหนุ่มสาวทั้งจากอิตาลี, ยุโรป และทั่วทุกมุมโลก
“เดิมที ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะอายุราวๆ 60 ปี แต่ตอนนี้มีกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลงมากขึ้น แน่นอนว่าเราเลือกไม่ได้หรอกว่าจะให้บาร์อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง Camparino ดึงดูดใครบ้าง แต่เราก็สามารถลองสิ่งต่างๆ ได้” หัวหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มอิตาเลียนกล่าว
“เราเปลี่ยนเพลงที่เปิดคลอในร้าน และเปิดตัวค็อกเทลที่มีความสะดุดตามากขึ้น โดยใช้สีแดง และสีสันสดใสแทนที่จะใช้แต่สีน้ำตาลเหมือนก่อน และมันก็ได้ผล เราสามารถคงความสมดุลในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าได้ ลองนึกถึง Negroni ดูสิ มันเป็นเครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค แต่มันก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่ตอนนี้เป็นที่นิยมมากกว่าเคยเสียอีก”
Tommaso ผู้มองการณ์ไกลยังเผยด้วยว่าทางแบรนด์กำลังเสาะหาช่องทางขยายความยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปในมุมโลกอื่นๆ โดยจุดหมายต่อไปอาจจะเป็นเอเชียนี้นี่เอง
“คงจะเหมือนฝันหากเราได้ส่งมอบบางอย่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความเป็นอิตาเลียนไปยังเมืองใหม่ๆ ความเป็นอิตาเลียนอยู่ในจิตวิญญาณของเราก็จริง แต่เราก็มีความเป็นสากลด้วย ทีมงานของเรามีผู้มีความสามารถจากทั่วยุโรปและจากดินแดนไกลโพ้น นับเป็นสถานที่ทำงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสุดสดชื่น อีกทั้ง การครองอันดับที่ 27 ในการจัดอันดับ World’s 50 Best Bars ปีล่าสุดนี้ยังหมายความว่าเรามีอีกมากที่ยังคงต้องทำ และกลุ่มลูกค้าอีกมากที่ต้องเข้าถึงให้ได้” เขากล่าว
งานดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ ที่แวะทวีปเอเชียแค่ 2 ครั้ง ซึ่งก็คือกรุงเทพกับสิงคโปร์เท่านั้น โดยมาสเตอร์คลาสยามบ่ายนี้มีทั้งเหล่าบาร์เทนเดอร์ และผู้หลงใหลในวัฒนธรรรมค็อกเทลจากทั่วกรุงเทพตบเท้าเข้าร่วม นอกจากนี้ หลังจากจบงานดังกล่าว ยังมีการจัดงานชิมค็อกเทลสุดชิค Aperol Spritz Sunset Lounge อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: Forbes Travel Guide 2022: เที่ยว พัก ทาน อย่างเหนือระดับ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine