ส่งออกรถยนต์ฟื้น 1 ล้านล้านบาท ส่วนในประเทศยังลุ้น หลังกำลังซื้อติดหล่มหนี้ครัวเรือน - Forbes Thailand

ส่งออกรถยนต์ฟื้น 1 ล้านล้านบาท ส่วนในประเทศยังลุ้น หลังกำลังซื้อติดหล่มหนี้ครัวเรือน

ส่งออกรถยนต์ไทยฟื้นตัวใกล้เคียงก่อนโควิด ยอด 10 เดือนปีนี้ กว่า 9 แสนคัน มูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท คาดทั้งปีทะลุ 1 ล้านล้านบาท ตลาดหลักกลับมาขยายตัวดี ทั้งสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ยุโรป อังกฤษ ปี 2567 ขึ้นฮับอีวี ขณะที่ตลาดในประเทศยังลุ้น กำลังซื้อติดหล่มหนี้ครัวเรือน ฉุดยอดขายรถกระบะวูบเกือบแสนคัน หวัง 2 เดือนสุดท้าย มอเตอร์ เอ็กซ์โปหนุน


    สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือน ต.ค.ว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค. – ต.ค. 2566 ไทยมีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 927,625 คัน เพิ่มขึ้น 15.86%

    ขณะที่มีมูลค่า 859,350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าทั้งปียอดส่งออกจะทะลุเป้าหมาย 1.05 ล้านคัน และมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท กลับมาฟื้นตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19



    “สำหรับการส่งออกรถยนต์ของไทยมีทิศทางที่ดีมาก ตลาดส่งออกหลักกลับมาขยายตัวได้ดี ทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป อังกฤษ รวมถึงจีน ส่วนตลาดที่ลดลง เช่น ที่เวียดนาม สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่ฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะการส่งออกรถกระบะ สวนทางกับตลาดในประเทศที่กำลังซื้อไม่ค่อยดีนัก จากการที่ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับสูงที่ 90.6% ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น” สุรพงษ์กล่าว

    นอกจากนี้ มองว่าการส่งออกในปี 2567 มีแนวโน้มที่ดีเช่นเดียวกัน จากการที่ไทยเป็นฐานผลิตของรถยนต์ทั้งสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในปีหน้าจะเริ่มมีการผลิตเพื่อส่งออกมากขึ้น ตามเงื่อนไขของมาตรการ EV 3 ปัจจุบันไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก และเป็นผู้ส่งออก 1 ใน 10 ของโลก โดย 35 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการส่งออกรถยนต์ไปแล้วกว่า 17.5 ล้านคัน


ตลาดในประเทศยังลุ้น

    สำหรับการผลิตรถยนต์ในช่วง 10 เดือน มีจำนวน 1,544705 คัน เพิ่มขึ้น 0.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 7.51% โดย ส.อ.ท.ได้ปรับเป้าหมายยอดขายจาก 9 แสนคัน เหลือ 8 แสนคัน จากยอดขายรถกระบะที่ลดลง 29.75% หรือหายไปเกือบ 1 แสนคัน จากการที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ จากปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากเดิมอยู่ที่ 0.25% ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5%

    โดยยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศช่วง 10 เดือนหากแบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง รถยนต์สันดาปลดลง 19.15% รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มขึ้น 702% รถ PHEV ลดลง 13.66% และรถ HEV เพิ่มขึ้น 44.67%



    โดยรถ HEV ที่เพิ่มขึ้น เพราะค่ายรถยนต์ได้มีการปรับราคาให้เข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อรถ HEV เพราะผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังมีความกังวลกับการใช้รถ BEV ในเรื่องของสถานีชาร์จที่ยังมีจำนวนไม่มาก และอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ยอดผลิตรถยนต์สันดาปคิดเป็นสัดส่วน 77% จากตลาดรถยนต์รวม ลดลงอย่างมากจากปี 2565 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 85% และแนวโน้มปี 2567 ยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น ตามมาตรการ EV 3 ที่กำหนดให้ค่ายรถยนต์ที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามาจำหน่ายต้องผลิตภายในประเทศ


ยอดรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง

    ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ (ป้ายแดง) ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือน ต.ค. มีจำนวน 7,628 คัน เพิ่มขึ้น 527% รวม 10 เดือน มีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ 57,628 คัน เพิ่มขึ้น 717% ทำให้ยอดรถยนต์ไฟฟ้าสะสม ณ สิ้นเดือน ต.ค. แบ่งตามประเภทต่างๆ ดังนี้ รถยนต์นั่ง BEV 70,927 คัน เพิ่มขึ้น 543% รถยนต์นั่ง HEV 320,886 คัน เพิ่มขึ้น 33% รถยนต์นั่ง PHEV 52,609 คัน เพิ่มขึ้น 29%

    ส่วนรถประเภทอื่น ๆ เช่น รถกระบะ BEV มีจำนวน 202 คัน รถจักรยานยนต์ BEV 34,248 คัน รถสามล้อไฟฟ้า 770 คัน รถบรรทุก 281 คัน เป็นต้น



    นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีรถไฮโดรเจนของค่ายโตโยต้าที่นำมาทดลองอีก 2 คัน ซึ่งในอนาคตหากมีการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนมากขึ้น และมีราคาลดลง เชื่อว่ารถยนต์ไฮโดรเจนจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของรถพลังงานสะอาดที่สามารถใช้เดินทางได้ในระยะทางที่ไกลกว่ารถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่

    “รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา มีส่วนสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเติบโต นับตั้งแต่ปี 2503 เป็นต้นมา ปัจจุบันไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์สันดาป และฐานผลิตของรถอีวีในภูมิภาคนี้ ที่มีข่าวว่ารัฐบาลกำลังเจรจากับเทสลาเพื่อให้มาลงทุนในประเทศไทย ถ้าเป็นไปได้จะทำให้ไทยมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 และ 2 ของโลก คือเทสลา และบีวายดี และดึงการลงทุนชิ้นส่วนต่างๆ ตามมาอีกมาก ทำให้การลงทุนในประเทศไทยขยายตัวขึ้นได้” สุรพงษ์กล่าว




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตลาดสินเชื่อยานยนต์ปี 2567 G.A.M.E. ใหม่ของ “กรุงศรี ออโต้”

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine