เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัวรถยนต์ The E 350 e 3 รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” ภายหลังการเปิดตัว S Class C Class และ GLA เมื่อต้นปี 2559 ผ่านมา คาดสัดส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไตรมาสสองเติบโตที่ 40%
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมไฟฟ้าที่ครบครันมากที่สุดอีกครั้งด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz อย่าง The E 350 e ยนตรกรรมเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่มาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่ม Contemporary Luxury Sedanให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้เปิดตัว The S 500 e และ The C 350 e ให้คนไทยได้สัมผัสเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา”
ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ของรุ่น The E 350 e อีก 3 รุ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มเป็น 12 รุ่น หลังจากที่ได้เปิดตัว 9 รุ่น อย่าง C 350 e Avantgarde, C 350 e Exclusive, C 350 e AMG Dynamic, C 350 e Estate, S 500 e Executive, S 500 e Exclusive, S 500 e AMG Dynamic, GLE 500 e 4MATIC Exclusive และ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic เมื่อต้นปี 2559
ทั้งนี้ยอดขายในปี 2559 เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำนวน 4,414 คัน ทั้งนี้สำหรับยอดขายเฉพาะเดือนเมษายนที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบกับปี 2559 มีตัวเลขการเติบโตถึง 75% ที่จำนวน 1,236 คัน โดยยอดขายที่มาจากสัดส่วน 65-70% จากตัวแทนจัดจำหน่ายกรุงเทพฯ ปริมณฑล โดยภายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ฯ คาดยอดขายการเติบโตของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอยู่ที่ราว 40%
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแบรนด์
EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ดูแลด้านนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทางด้านนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้ารวมถึงระบบการเชื่อมโยงต่างๆ ผ่านมัลติมีเดียผ่านหน้าจอแสดงผล
ด้านสถานีชาร์ตพลังงานไฟฟ้า
ฟรังค์ กล่าวเพิ่มเติมไว้ว่า ปัจจุบัน
EQ Station ให้บริการ 3 จุด ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลเวิร์ด, สยามพารากอน, พาราไดซ์ พาร์ค และด้วยความร่วมมือกับ 32 ตัวแทนจำหน่ายของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ติดตั้งจุด EQ Station มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ Mercedes-Benz E 350 e นอกจากเครื่องยนต์ที่เป็นส่วนผสมระหว่างพลังานเชื้อเพลิงพื้นฐานและพลังงานไฟฟ้าแล้ว The E 350 e มาพร้อมกับระบบ
“Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด อาทิ รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาที่นำได้ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย โดยราคาเริ่มต้นที่ The E 350 e Avantgarde ราคา 3,490,000 บาท, The E 350 e Exclusive ราคา 3,790,000 บาท และ The E 350 e AMG Dynamic ราคา 4,090,000 บาท