SMART โชว์งบ Q2/66 กวาดรายได้ 182.66 ล้านบาท กำไรพุ่ง 648.63% มองครึ่งปีหลังโตต่อ ตามความต้องการสินค้ารักษ์โลก - Forbes Thailand

SMART โชว์งบ Q2/66 กวาดรายได้ 182.66 ล้านบาท กำไรพุ่ง 648.63% มองครึ่งปีหลังโตต่อ ตามความต้องการสินค้ารักษ์โลก

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Aug 2023 | 04:00 PM
READ 653

SMART เผยผลประกอบการไตรมาส 2/66 รายได้รวม 182.66 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.64 ล้านบาท โต 648.63% ปัจจัยหนุนความต้องการใช้อิฐมวลเบางานโครงการเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ โครงการ EEC ภาคเอกชนขานรับอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งคุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เร่งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ความต้องการตลาดอสังหาฯรักษ์โลก ขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ปรับปรุงต้นทุนกระบวนการผลิต ดันรายได้โตตามเป้า


    รังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร รวมถึงงานผนังตกแต่ง เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 182.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 128.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.46 % และมีกำไรสุทธิ 21.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 648.63%

    ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 355.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 265.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.60% และมีกำไรสุทธิ 46.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 313%

    ทั้งนี้ ผลประกอบการในส่วนของรายได้และกำไรปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการลงทุนต่อเนื่องของโครงการภาครัฐ อาทิ งานโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานของหน่วยงานราชการ อาคารสำนักงานงานโครงการรถไฟฟ้า งานอาคารโรงพยาบาล รวมถึงงานก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( EEC) อาทิ นิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้ง การทยอยฟื้นตัวของโครงการอสังหาฯทั้งแนวราบ-แนวสูง หนุนความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้าง อิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่ง คุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น

    “ทิศทางธุรกิจช่วงต่อจากนี้ของบริษัทจะสามารถเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้าง ที่มีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนภาคก่อสร้าง ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเทรนด์ของผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีนวัตกรรม ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยบริษัทเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ อิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงปรับปรุงกระบวนการผลิตนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาG4 SMART BLOCK เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ได้รับรองเครื่องหมาย “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์” อย่างเป็นทางการจากองค์กรการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

    นอกจากนี้ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกแนะนำสินค้า ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook , Line@ , Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เจ้าของบ้าน สถาปนิก ผู้รับเหมา บริษัทรับสร้างบ้าน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง กระตุ้นการตัดสินใจซื้อผลักดันรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” รังสีกล่าว

    

    อ่านเพิ่มเติม : KTIS โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 66 ที่ 482.8 ล้านบาท โตกระฉูด 3,330% ปริมาณการขายเติบโตในทุกสายธุรกิจ

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine