บริษัท คาโอ คอร์ปอเรชั่น (Kao) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P. Group) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนแก่ธุรกิจสินค้าอุปโภคและธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสังคมสีเขียวแก่ผู้บริโภคชาวไทย
โยชิฮิโระ ฮาเซเบะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ ธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้แทนในการประกาศความเป็นพันธมิตรเพื่อการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สู่อนาคตที่ยั่งยืน
โยชิฮิโระ ฮาเซเบะ กล่าวว่า “นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของสองบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของคาโอในการ ‘ช่วยปกป้องทุกชีวิตในอนาคต’ ด้วยการนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืน ซึ่งแผนการบริหารงานในระยะกลาง ‘K27’ ของคาโอ มีจุดประสงค์หลักในการสร้างธุรกิจระดับโลก คาโอได้ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (ESG) หรือ Kirei Lifestyle (คิเรอิ ไลฟ์สไตล์) เพื่อส่งเสริมการมีชีวิตที่งดงามทั้งภายในและภายนอกให้กับผู้บริโภคของเราในทุกๆ วัน”
คาโอจะร่วมมือกับซีพี ในการจัดหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจสินค้าอุปโภคและธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทำงานร่วมกันภายใต้แนวทางความยั่งยืนตามหลัก ESG ที่ช่วยปกป้องดูแลสุขอนามัยของผู้บริโภค ผ่านธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในเครือซีพี เป็นการผนึกความเชี่ยวชาญเพื่อเป้าหมายร่วมกันในการสร้างสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมี ยูจิ ชิมิซึ ประธานกรรมการ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหารจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าร่วมงาน
ด้าน สุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้จับมือกับคาโอ พันธมิตรระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านความยั่งยืนในประเทศไทย โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคและเคมีภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับผู้บริโภค สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เครือเจริญโภคภัณฑ์มั่นใจว่าความร่วมมือที่เป็นระดับโลกในครั้งนี้จะสร้างประโยชน์แก่ประชาชนไทย และประเทศไทยอย่างแน่นอน”
ด้าน ธนิศร์ เจียรวนนท์ กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือกับคาโอครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่เครือซีพี ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญและความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มาผสานกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของคาโอ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย และสอดคล้องกับแนวทางที่หลายประเทศให้ความสำคัญ โดยเครือซีพีตั้งเป้าที่จะขยายโอกาสให้ผู้บริโภคไทยสามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ ผ่านเครือข่ายค้าปลีกค้าส่งในเครือฯ อาทิ 7-Eleven โลตัส และแม็คโคร ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับธุรกิจสินค้าอุปโภคและเคมีภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมไทยในระยะยาวอีกด้วย”
ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)
- ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจสินค้าอุปโภคในกลุ่ม House Brand ของเครือเจริญโภคภัณฑ์โดยใช้นวัตกรรมของคาโอ คอร์ปอเรชั่น เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน และสำหรับวางจำหน่ายภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์
- นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากคาโอ คอร์ปอเรชั่น และวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างร้านภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์
- ร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาสังคม และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท
- ขยายโอกาสความร่วมมือทางด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์
- ร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์และพาเลทแบบพร้อมโชว์ (Shelf-Ready Display) เพื่อจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ภายใต้คอนเซปต์ Club Model ที่ แม็คโคร และโลตัสทุกสาขา ภายใต้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า
คาโอ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 60 ปี
ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของคาโอ ประเทศไทย ได้จัดนิทรรศการ คาโอ 60 ปี Saving Future Smiles เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี ในการอยู่เคียงข้างดูแลคนไทย สานต่อเจตนารมณ์ในการ ‘ร่วมสร้างสุขอนามัยคู่รอยยิ้มคนไทย’ ผ่าน 11 แบรนด์ภายใต้คาโอ ที่มุ่งเน้นการปกป้องและดูแลสุขอนามัยในชีวิตประจำวันและเคียงข้างผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน โดยสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การค้า สามย่านมิตรทาวน์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ศูนย์วิจัยฯ ประเมินสินเชื่อบ้านโตต่ำสุดในรอบ 23 ปี ผลเศรษฐกิจฟื้นไม่ทั่ว-หนี้เสียสูง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
