Goodmate บุกตลาดนมโอ๊ต ตั้งเป้าแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย - Forbes Thailand

Goodmate บุกตลาดนมโอ๊ต ตั้งเป้าแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย

FORBES THAILAND / ADMIN
03 Apr 2023 | 12:12 PM
READ 6447

Goodmate ผลิตภัณฑ์นมทางเลือกที่ผลิตจากข้าวโอ๊ตธรรมชาติเต็มเมล็ด เดินหน้าลุยตลาดนมโอ๊ตพร้อมขึ้นแท่นผู้นำในไทย พร้อมตั้งเป้าขยายสู่ตลาดเอเชีย โดยคาดการณ์ยอดขายเติบโต 150% ในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 และเตรียมบุกตลาดโลกภายในปี 2567 ตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์นมทางเลือก


    กันต์ กุลปิยะวาจา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ บริษัท ชบาบางกอก จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพและความนิยมด้านการบริโภคอาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก หรือ Plant-Based Diet ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งสำคัญทั้งด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น จะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคสายรักสุขภาพที่หลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงผู้บริโภคที่มีความสนใจและส่งเสริมในเรื่องผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    นอกจากนี้ยังพบว่าผลิตภัณฑ์นมทางเลือกในต่างประเทศมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยภาพรวมตลาดนมจากพืชในปี 2565 มีมูลค่า 19,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าภายในปี 2574 ภาพรวมมูลค่าตลาดนมทางเลือกทั้งหมดจะเติบโตขึ้นถึง 47,200 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท

    ซึ่งในขณะเดียวกันในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์นมโอ๊ตเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมทางเลือกทั้งหมด และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    Goodmate เป็นสินค้าในกลุ่มพรีเมียมที่ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญ เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบเมล็ดโอ๊ตแบบเต็มเมล็ด นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียที่ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกข้าวโอ๊ตที่ดีที่สุดในโลก ทำให้ได้ประโยชน์คุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ได้แก่ The Original Oat milk รสออรินัล, Chocolate Deluxe Oat milk รสช็อคโกแลต และ Oat-Barista Professional

    โดยเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประโยชน์และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมในแบบฉบับเฉพาะตัว ทั้งยังตอบสนองผู้บริโภคที่แพ้นมวัวและมองหาผลิตภัณฑ์มาทดแทน

    นอกจากนี้ยังได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดโดยเร่งขยายกำลังการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมสร้างทีมขายเพื่อกระจายสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงการร่วมมือทางธุรกิจกับแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Dean&Deluca และ Diamond Grain ด้วยการเจาะกลุ่มทั้ง B2B และ B2C ซึ่งถือเป็นการสร้าง Customer Experience ให้แบรนด์สามารถใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น และเพิ่ม Brand Touch Point กับผู้บริโภคในหลายช่องทาง

    นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์ Customer Retention โดยการรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน ควบคู่กับการใช้ Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลความสนใจและพฤติกรรมผู้บริโภค นำไปสู่การวางแผนการตลาดและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์และสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไป

    ในส่วนของการทำตลาดในต่างประเทศแบรนด์วางแผนเจาะตลาดญี่ปุ่น เกาหลี จีน และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์นมทางเลือกสูงและแนวโน้มการเติบโตอย่างน่าสนใจ ขนานไปกับการเดินหน้าทำการตลาดในประเทศไทย

    รองลงมาเป็นตลาด CLMV โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและวางแผนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น อาทิ เน้นผลิตสินค้าขนาดพกพา 180ml.

    นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่ายภายในปีนี้ พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ และร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ไปพร้อมๆ กับขยายการรับรู้ให้ผู้บริโภคไทยหันมานิยมรับประทานนมทางเลือกมากขึ้น และตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 150% ภายในปี 2566

กันต์ กุลปิยะวาจา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ บริษัท ชบาบางกอก จำกัด


    ด้านพรีเซนเตอร์ทางแบรนด์เลือก “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” เป็นแบรนด์พรีเซนเตอร์คนแรก ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลตัวเองเลือกสินค้าที่มีประโยชน์และมีสุขภาพที่ดี พร้อมปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่ล่าสุด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์สุขภาพและเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างเรียลไทม์และครอบคลุม

    รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายและรวดเร็วในการซื้อผลิตภัณฑ์ โดยทุกการสั่งซื้อจะถูกจัดส่งจากโรงงานสู่มือของผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ทางแบรนด์จะมีการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อมองหาผู้แทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต

    “สำหรับครึ่งปีแรก จะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพไปที่ตลาดเอเชียก่อนโดยทำการตลาดเชิงรุกเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคในทุกจุดและวางแผนกลยุทธ์อย่างเข้มข้น เพื่อขยับเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอันดับหนึ่งของไทยและเอเชีย

    พร้อมก้าวสู่ Global Brand ซึ่งปัจจุบันเดินหน้าเต็มกำลัง โดยอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพร่วมขยายตลาดในแต่ละประเทศ ขึ้นแท่นผู้นำตลาดในกลุ่มประเภทนมโอ๊ตต่อไปในอนาคต” กันต์ กุลปิยะวาจากล่าวทิ้งท้าย


กลุ่มทิสโก้ หนุนนวัตกรรมสู้ “มะเร็ง” เดินหน้าแคมเปญ Fighting Cancerอ่านเพิ่มเติม:


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine