"เนสกาแฟ ไทย" เทิร์นอะราวด์ รายได้พุ่งที่ 1 ของโลก - Forbes Thailand

"เนสกาแฟ ไทย" เทิร์นอะราวด์ รายได้พุ่งที่ 1 ของโลก

เนสกาแฟ ประเทศไทย กลับมาเติบโตอีกครั้งในรอบ 3 ปี พร้อมทำรายได้สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงจีน ฟิลิปปินส์ ดึงตลาดรวมกาแฟปรุงสำเร็จ 2.1 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 2%

นาริฐา วิบูลยเสข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของ เนสกาแฟ ประเทศไทย ที่สามารถกลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจาก 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จสำหรับบริโภคในบ้านไม่เติบโตและหดตัวลง เนื่องจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหันไปดื่มกาแฟนอกบ้านมากขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟเติบโตสูง โดยปัจจุบันผู้บริโภคคนไทยดื่มกาแฟอย่างน้อย 300 แก้วต่อคนต่อปี

ขณะที่ตลาดรวมกาแฟปรุงสำเร็จในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 2% แบ่งเป็นกาแฟซองแบบ 3 อิน 1 มูลค่า 16,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77% ของมูลค่าตลาดรวมกาแฟปรุงสำเร็จ อีก 23% เป็นกาแฟสำหรับชงเอง ซึ่งเนสกาแฟมีส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ โดยปี 2562 มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม และสามารถทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเนสกาแฟทั่วโลก

เทรนด์การดื่มกาแฟนอกบ้านเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตกาแฟสำหรับชงเองที่บ้านประสบปัญหา ตลาดรวมหดตัวลงหลายปี แต่เนสกาแฟ ประเทศไทย กลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ในปีที่ผ่านมา และทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 แซงจีนและฟิลิปปินส์ จากปีที่ผ่านมาไทยอยู่ในอันดับ 3 ถือว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจของเรามาถูกทางนาริฐากล่าว

(ซ้าย) นาริฐา วิบูลยเสข

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เนสกาแฟ ประเทศไทย กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง มาจากการพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และปรับปรุงรสชาติให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ เช่น การออกผลิตภัณฑ์กาแฟดำ สูตรไม่มีน้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย กาแฟชงแบบเย็น เป็นต้น ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่น และได้รับการตอบรับที่ดี จนสำนักงานของเนสท์เล่ในประเทศอื่นนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาตลาดของประเทศนั้นๆ

นอกจากนี้ ได้พัฒนากิจกรรมทางการตลาดที่แตกต่าง และเข้าถึงอินไซต์ของผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ได้เปิดตัวอินเตอร์แอคทีฟ อาร์ต สเตชั่น ที่ MRT วัดมังกร ในเดือนสิงหาคม 2562 สร้างกระแสความสนใจในหมู่ผู้บริโภคอย่างสูง เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่มียอดผู้ใช้บริการและเยี่ยมชมกว่า 5 ล้านคน สร้างกระแสการพูดถึงทางโซเชียลมีเดียกว่า 1 ล้านครั้ง เป็นต้น

เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ลิมิเต็ดเอดิชั่น สินค้าบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่รับตรุษจีน

สำหรับปีนี้ เนสกาแฟยังคงเดินหน้าพัฒนาโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกสินค้าใหม่และจัดกิจกรรมการตลาดที่แตกต่าง ประเดิมด้วยแคมเปญชงโชครับตรุษจีนสไตล์อินเตอร์แอคทีฟต่อยอดสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยีเออาร์สำหรับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ลิมิเต็ดเอดิชั่น บรรจุภัณฑ์ดีไซน์เฉพาะเทศกาลตรุษจีน และโปรโมชั่นแจกทองทุกสัปดาห์ โดยใช้งบการตลาดรวม 200 ล้านบาท

เชื่อว่ากิจกรรมการตลาดดังกล่าวจะผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ทำให้เราไม่รู้สึกกังวลกับร้านกาแฟนอกบ้านอีกต่อไป และจะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคต่อไปนาริฐากล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ ภายใต้แบรนด์เนสกาแฟสร้างรายได้มากกว่า 50% ให้กับบริษัท เนสท์เล่ (ไทย)

  อ่านเพิ่มเติม  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine