ธาพิดา นรพัลลภ เจนฯ 3 จิราธิวัฒน์ ดึง 6 ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาดังร่วม 2 มหกรรมดังประจำปี 2019 “นาฬิกา-จิลเวลรี่” ตั้งเป้าเจาะกลุ่มนักช้อปชาวไทยด้วยโปรโมชั่น และข้อมูลจาก Big Data พร้อมเจาะตลาด นักช้อปชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยจากเทศกาลหยุดยาว Golden Week
ห้างเซ็นทรัล เตรียมจัดมหกรรมนาฬิกาประจำปี 2019 ได้
ธาพิดา นรพัลลภ ออมนิ-แชนนอล เมอร์ชั่นไดซิ่ง ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เป็นโต้โผใหญ่ พร้อมดึง 4 ค่ายนาฬิกาหรู ร่วมในมหกรรมนาฬิกาเป็นครั้งแรก โดยประกาศจัดเป็น 2 งานต่อเนื่องคืองานนาฬิกาหรูและนาฬิกาบวกจิวเวลรี่ ภายใต้งาน
“เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” ครั้งที่ 21 ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม และ งาน
“เดอะ เวิร์ล พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“งานครั้งนี้เป็นการปรับรูปแบบการนำเสนองานและกลยุทธ์การตลาดในรอบ 20 ปี โดยเตรียมงบประมาณราว 80 ล้านบาท สำหรับทั้งสองงาน โดยรวมมูลค่าระหว่างนาฬิกาและจิลเวลรี่มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท จากนั้นเดิมที่เราจัดขึ้นเพียงที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมเท่านั้น ในครั้งนี้เราเปลี่ยนกลยุทธ์เพิ่มการจัดงานที่ศูนย์กลางค้าเซ็นทรัลเวิลด์โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน” ธาพิดา กล่าวและเสริมว่า
“สำหรับงานมหกรรมนาฬิกาเราเตรียมส่วนลดและโปรโมชั่นอาทิการผ่อนศูนย์เปอร์เซ็นต์ เพื่อส่งเสริมการขาย รวมถึงการนำคอลเลคชั่นใหม่และ ลิมิเตด เอดิชั่น จาก 180 แบรนด์ดัง ในงานแสดงนาฬิการะดับโลก คือ บาเซิลเวิลด์ และ เอสไอเอชเอช โดยในปีนี้เราได้พันธมิตร 6 ผู้จำหน่ายนาฬิกาในประเทศไทย เข้าร่วมและทั้ง 4 พันธมิตรได้นำเสนอ คอลเลคชั่นใหม่และลิมิเตด เอดิชั่น โดยเราตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 800 ล้านบาท”
สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์
ธาพิดา เตรียมวางแผนสื่อสารตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถือบัตร The1 ชาวไทย และสมาชิก The1 จากประเทศเวียดนาม 1 หมื่นราย รวมไปถึงกลุ่มลูกค้า CLMV ที่เดินทางมายังประเทศไทยในช่วงปลายปี โดยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศกัมพูชาเป็นผู้จับจ่ายสูงสุด โดยเมื่อต้นปีที่มียอดการใช้จ่ายที่ห้างเซ็นทรัลสูงขึ้นถึง 10%
ในขณะที่ งาน
“เดอะ เวิร์ล พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” นั้นเตรียมจัดเต็มพื้นที่ชั้นหนึ่งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยพุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยระหว่างเทศกาลหยุดยาวของชาวจีน หรือ Golden Week
โดยพฤติกรรมหลักๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนคือ
“การกินและช้อปนาฬิกา” ถ้าเปรียบเทียบด้านภาษีนำเข้าไทยได้เปรียบเนื่องประเทศจีนคิดภาษีนำเข้านาฬิการาว 30-50% ในขณะที่ภาษีนำเข้าบ้านเราอยู่ที่ 5% และศูนย์กลางเซ็นทรัลเวิลด์ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งอันดับต้นๆ ที่ชาวจีนเดินทางมาช้อป ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกในการจัดงานจิลเวลรี่กับนาฬิการ่วมกัน
“เรามองว่าจิวเวลรี่เป็นสินค้าในหมวดลักชัวรี่ ซึ่งเป็นหมวดเดียวกับนาฬิกา ที่หลายคนมักซื้อไว้เพื่อสะสมและลงทุน เพราะสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าคงทน และมูลค่าจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้ 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่นิยมซื้อเพชรเพื่อออกงานสังคม และซื้อเพื่อเป็นสินทรัพย์และเป็นการลงทุนทางเลือก”
ธาพิดา กล่าว
6 พันธมิตรร่วมเปิดตัว
ด้าน 6 พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดัง ได้แก่ ทิพานัท เลณบุรี จาก เดอะสวอท์ช กรุ๊ป, ยูมิ เคียงศิริ จาก เพนดูลัม, เตย มหาดำรงค์กุล จาก โทรคาเดโร ไทม์, ศาศวัต ตัณมานะศิริ จาก ที เอส แอลฯ, เทวินทร์ เรศานนท์ บาชโทลด์ ผู้นำเข้า Corum และ ไกรรพ เหลืองอุทัย กรรมการผู้จัดการ จีไอเอส ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาการ์มิน โดยทั้งสีค่าย ได้นำนาฬิกาที่เข้าร่วมมหกรรมครั้งนี้
ซึ่งทั้ง 6 ผู้จัดจำหน่ายได้นำเสนอนาฬิการุ่นล่าสุดและใกล้เคียงกับเทรนด์นาฬิกาจากบาเซิลเวิลด์ 5 เทรนด์ ที่ประกอบไปด้วย
Vintage Inspired การนำดีไซน์ในตำนานกลับมาสู่คอลเลคชั่นใหม่ๆ
3D Innovation การนำเสนอผลงานของช่างนาฬิกา ที่เกี่ยวข้องกับกลไกและนวัตกรรมใหม่
Infusion of Color การนำออกแบบหน้าปัดด้วยเฉดสี ที่สะท้อนอารมณ์และบุคคลิกของผู้ใส่
Useful Functions นาฬิกาที่ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ของผู้ส่วมใส่และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และ
High-Tech Materials ที่นำวัสดุใหม่ที่แตกต่างและแปลกใหม่จากตลาดนาฬิกาที่มีอยู่
ทิพาณัท เลณบุรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้เรานำเสนอไฮไลท์จากสองแบรนด์ดังในรุ่น LONGINES Master Collection และ TISSOT Seaster 1000 Quartz Chrono อย่างแบรนด์ LONGINES Master Collection นำเสนอดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาพร้อมการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา
ยูมิ เคียงศิริ ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกสื่อสารการตลาด บริษัท เพนดูลัม จำกัด นำเสนอ FRANCK MULLER รุ่น VANGUARD GRAVITY TOURBILLON และ BREITLING รุ่น Navitimer 1 B01 Chronograph 43 Pan Am Edition ร่วมถึงในงานเปิดตัว FRANCK MULLER ที่ออกแบบร่วมกัน ดีไซน์เนอร์ชาวไทย แพร-วทานิกา
เตย มหาดำรงกุล ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด มากับนาฬิกา ORIS 40th Squadron Limited Edition 500 เรือนในโลกซึ่งนำมาจำหน่ายในงานเพียง 20 เรือน ซึ่งเป็นการออกแบบร่วม กองบินเฮลิคอปเตอร์ที่ 40 ทีมค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศเบลเยี่ยม และ GUCCI G-Timeless Automatic ที่ออกแบบโดย Alessandro Michele
ศาศวัต ตัณมานะศิริ บริษัท ที เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตัวแทนจำหน่าย TAG Heuer แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แม้ปีนี้ TAG Heuer ไม่สามารถนำรุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาทันงานมหกรรมนี้ได้ แต่ได้นำนาฬิกา BOMBERG Bolt-68 MAYA ที่สายเปลี่ยนถอดสายเป็นนาฬิกาพกได้ และ Bomberg Bolt-68 racing มาจำหน่ายภายในงาน
เทวินทร์ เรศานนท์ บาชโทลด์ กรรมการบริหาร, ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท บาชโทลด์ จำกัด นำเสนอ CORUM Golden Bridge Rainbow 18 เรือนทั่วโลกและเรือนเดียวในประเทศไทย ที่ออกแบบตัวเรือนด้วยทองคำขาวและล้อมด้วยแซฟไฟร์ในเฉด 7 สีรุ้ง และ PARMIGIANI FIEURIER Kalpagraphe Chronometre Parmigiani Flueurier แบรนด์นาฬิการุ่นใหม่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1996 และถือหุ้น 25% โดย กลุ่ม Hermes
ไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG) ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยของ บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด มากับนาฬิกา GARMIN MARQ Series ทั้ง 5 เรือน ได้แก่ MARQ Driver, MARQ Aviator, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete
ไกรรพ กล่าวว่าด้วยเทรนด์สุขภาพทำให้ตั้งแต่เริ่มทำตลาดนาฬิกาการ์มินในประเทศไทยตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วสามารถจำนวนนาฬิกาแล้วกว่า 1 ล้านเรือน ถือเป็นประเทศอันดับหนึ่งในอาเซียนซึ่งก้าวกระโดดของยอดขายเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยในงานเรานำเสนอลคอลเลคชั่นล่าสุด GARMIN MARQ ใน 5 Series ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับ นักกีฬา, นักแข่งรถ, นักเดินเรือ, นักบิน, นักผจญภัย
โดยทั้ง 5 รุ่นเริ่มจำหน่ายไปแล้วและได้รับความนิยมเนื่องจากทุกรุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานสำหรับผู้รักการออกกำลัง อย่าง GPS หรือการจับสัญญาณชีพจร เป็นต้น ซึ่งผู้ที่รักการออกกำลังกายอาจจะชื่นชอบการเดินเรือจะเลือกซื้อรุ่น MARQ Captain เพื่อบ่งบอกรสนิยมของตัวเอง เป็นต้น ไกรรพ กล่าว