สตรีทฟู้ดแบรนด์ดัง ‘ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว’ เร่งพลิกโฉมแต่งหล่อด้วยการวางแผนรุกตลาดต่างประเทศอย่าง ฟิลิปปินส์ และ ญี่ปุ่น พร้อมดึงธุรกิจอาหารในไทยที่น่าสนใจเก็บเข้าพอร์ตอีก 5-10 แบรนด์ก่อนที่จะทำการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2570 พร้อมตั้งเป้ารายได้ 3 ปีหลังจากนี้แตะ 5,000 ล้านบาท
พันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า บริษัทมีแผนที่จะระดมทุนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อีก 3 ปี หรือภายในปี 2568-2570 จึงได้เตรียมความพร้อมโดยการปรับกลยุทธ์และจัดการกองทัพหลังบ้านเพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผลประกอบการในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 1,117 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเติบโตจากปี 2565 อยู่ที่ 126.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่พุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 121% โดยเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าเดิมและชาญฉลาดมากขึ้น จึงตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่. 1,500 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 20% และ มีจำนวนสาขาแฟรนไชส์ของแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดิม 4,500 สาขา เป็น 6,500 สาขา ส่วนรายได้สำหรับ 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 5,000 ล้านบาท และหวังที่จะเป็น 'เจ้าแห่งสตรีทฟู้ด' มีรายได้แตะหลักหมื่นล้านหลังจากนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุน
“ผมกลัวว่าลูกผมจะทะเลาะกัน ฆ่ากันตาย โลโก้ชายสี่มันแบ่งครึ่งกันไม่ได้ การเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เลยเป็นเรื่องดี ลูกๆ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน และยังสามารถเอาเงินที่ระดมทุนได้มาบริหารจัดการให้ธุรกิจเติบโตแบบยั่งยืนต่อไปได้อีก” พันธ์รบ กล่าว
ด้าน อนุชิต สรรพอาษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดธุรกิจอาหารสตรีทฟู้ดของไทยมีมูลค่าสูงราวๆ 200,000-300,000 ล้านบาท และยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีแบรนด์สตรีทฟู้ดในเครือ รวม 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ชายสี่พลัส ชายใหญ่ข้าวมันไก่ พันปีบะหมี่เป็ดย่าง อาลีหมี่ฮาลาล ไก่หมุนคุณพัน ลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด รวมทุกแบรนด์กว่า 4,500 สาขา และยังมีอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานภายใต้แบรนด์ชายสี่โกลด์ พร้อมด้วยเครื่องปรุงเพื่อจำหน่ายอีกกว่า 200 รายการ
โดยกลยุทธ์ล่าสุดของบริษัทในปีนี้ยังได้เลือกลงทุนแบบ joint venture กับธุรกิจร้านอาหารที่มีศักยภาพจำนวน 2 ราย ได้แก่ ‘เสือร้องไห้’ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อดังจากอยุธยา และ ‘บริกซ์’ แบรนด์เบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ตเพื่อสนับสนุนการเติบโตไปพร้อมๆ กัน และยังมีแผนที่จะลงทุนร่วมกับแบรนด์ร้านอาหารที่น่าสนใจอื่นๆ อีก 5-10 แบรนด์ ภายในปีนี้
นอกจากนี้ อนุชิต ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ขณะนี้บริษัทได้ร่วมทุนกับกลุ่ม Cabalen Group บริษัทอาหารในฟิลิปปินส์ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ คงจะได้เห็นแบรนด์ร้านอาหารสตรีทฟู้ดของไทยเข้าไปขยายสาขาแฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์ รวมถึงที่ประเทศญี่ปุ่นทางบริษัทเองก็อยู่ในะหว่างการพูดคุยหารือกับบริษัทของที่นั่นเพื่อเตรียมจะผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 'ชายสี่' เพื่อส่งขายในร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่นด้วย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ธนจิรา เปิดตัว ‘UNITED ARROWS’ เสริมแกร่งพอร์ตธุรกิจแฟชั่น ประเดิมสาขาแรกที่ The Emsphere
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine