โกยกำไรจากธุรกิจจัดหากิ๊ก - Forbes Thailand

โกยกำไรจากธุรกิจจัดหากิ๊ก

FORBES THAILAND / ADMIN
03 Mar 2015 | 04:34 PM
READ 3789
เรื่อง: ADAM TANNER เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา

คุณอาจพูดจาดูถูก สั่งห้าม ระงับการเข้าใช้งาน หรือนำธุรกิจนี้ไปเปรียบกับ Tinder แต่เมื่อเปิดดูตัวเลขงบการเงินของบริษัทจะเห็นว่า Ashley Madison ทำเงินและดำเนินไปได้ด้วยดี

Noel Biderman มักไม่พูดความจริงเมื่อเพื่อนร่วมเดินทางบนเครื่องบินถามว่าเขาประกอบอาชีพอะไร เขาจะตอบไปว่าเขาเป็นทนายความ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่นอกจากนั้น Biderman ยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำรายได้เข้ากระเป๋าปีละมากกว่า 5 ล้านเหรียญ ทว่า หากเอ่ยชื่อบริษัทของเขาก็อาจทำให้บทสนทนาที่กำลังดำเนินไปด้วยดีชะงักลง Biderman คือผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Ashley Madison เว็บไซต์ที่ช่วยสานสัมพันธ์รักและเรื่องบนเตียงกับกิ๊กหรือชู้ “มีบางครั้งที่ผมตอบตามความจริง ซึ่งคำนั้นจะกลายเป็นคำพูดสุดท้ายของบทสนทนา”
ความสนใจและเงินทุนที่หลั่งไหลสู่เว็บไซต์หาคู่อย่าง Tinder กระตุ้นให้ Biderman เปิดเผยข้อมูลทางการเงินของ Avid Life Media มากขึ้น บริษัทโฮลดิ้งนอกตลาดจาก Toronto แห่งนี้ถือหุ้นใน Ashley Madison, CougarLife และธุรกิจเว็บไซต์สานสัมพันธ์รักอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง Biderman ออกมาเพื่อพิสูจน์ว่าธุรกิจของเขายังอยู่รอดเติบโตได้ดีแม้จะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับหาคู่แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่าง Tinder และ OkCupid ทั้งนี้ Tinder ซึ่งมีอัตราเติบโต 600% ในเวลา 12 เดือน ณ ข้อมูลเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการมากกว่า 30 ล้านราย โดยบรรดาสมาชิกเข้าไปดูข้อมูลเพื่อนใหม่ที่สนใจรวมกันกว่า 1.5 พันล้านครั้ง หรือคิดเป็น 17,000 ครั้งต่อวินาที แอพดังกล่าวยังกินส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทในเครืออย่าง Match.com (ทั้งสองบริษัทถือหุ้นโดย IAC) ที่มีอัตราขยายตัวเพียง 5% ในปี 2014 ในทางตรงกันข้าม Ashley Madison ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ข้อมูลทางภาษีรวมถึงตัวเลขจาก Biderman เผยว่า Avid Life Media ทำรายได้ 115 ล้านเหรียญในปี 2014 เพิ่มขึ้นจาก 78 ล้านเหรียญเมื่อปี 2013 และพุ่งขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปี 2010 Biderman ให้ข้อมูลว่าตัวเลขกำไรก่อนภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 55 ล้านเหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นอัตรากำไรตามปกติของธุรกิจนี้ ในตลาดโลก เว็บนี้มีสมาชิกผู้ใช้ทั้งหมด 31 ล้านรายนับตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยที่ 6.8 ล้านรายจากจำนวนดังกล่าวได้เข้าไปใช้บริการในช่วง 90 วันก่อนหน้า ณ ข้อมูลเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
Biderman ยอมรับ Tinder เป็นคู่แข่ง แต่รีบอธิบายต่อว่า Avid Life เคยเป็นเจ้าของ HotorNot.com แต่ได้ขายออกไปก่อนหน้านี้ ผู้ใช้บริการสามารถโหวตตัดสินคนอื่นๆ ว่าพวกเขาดูดีน่าสนใจหรือไม่จากรูปที่เห็น แต่ไม่สามารถตอบรับหรือส่งข้อความพูดคุยได้ ซึ่งเมื่อไม่ได้รับอนุมัติให้ขายบนร้าน App Store ของ Apple Biderman จึงตัดสินใจขายธุรกิจทิ้งไป “การจัดอันดับตัดสินคนอื่นนั้นดูรุนแรง แต่การเลือกตอบรับความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ยอมรับได้” เขากล่าว “ผมเสียดายที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ก่อน แต่ก็ยินดีกับพวกเขาด้วย”
ลูกค้าของ Ashley Madison มีอายุมากกว่าและมีฐานะดีกว่าสมาชิกผู้ใช้ Tinder แต่ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะแชร์ข้อมูลความเคลื่อนไหวของตนมากนัก “ผู้ชายวัย 40-50 ปีที่แต่งงานแล้วจะไม่ล็อกอินเข้าไปเล่น Facebook” เขากล่าว
Biderman อดีตทนายความด้านกีฬาเริ่มธุรกิจ Ashley Madison กับหุ้นส่วนเมื่อปี 2002 โดยลงขันกันคนละ 500,000 เหรียญ ซึ่งกินเวลานาน 5 ปีกว่าจะมีสมาชิกครบ 1 ล้านคนแรก แต่อัตราเติบโตเริ่มทะยานสูงขึ้นเมื่อการเลิกจ้างงานช่วงปี 2008 หลังเกิดวิกฤติการเงินทำให้บรรดาหนุ่มๆ มีเวลาว่างมากขึ้น Ashley Madison นำเอารูปแบบธุรกิจไนต์คลับมาเป็นแนวคิดในช่วงแรก เนื่องจากสังเกตเห็นว่าผู้ชายในสถานที่เที่ยวจะเป็นผู้เริ่มปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงก่อน 99.6% ในการใช้งานเว็บไซต์พวกสาวๆ ไม่ต้องจ่ายอะไร แต่จะคิดค่าบริการสำหรับผู้ชายสำหรับการติดต่อสร้างความสัมพันธ์ในแต่ละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะใช้เงินประมาณ 200-300 เหรียญต่อปีสำหรับบริการของเว็บไซต์ และถ้าหากต้องการลบประวัติการใช้งานบนเว็บไซต์ของตัวเองทั้งหมดจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 19 เหรียญ
แม้จะอยู่ในยุคที่พบเห็นเว็บไซต์ประเภทล่อแหลมอยู่ทั่วไป แต่เว็บที่ยุยงส่งเสริมความสัมพันธ์กับชู้ (หนึ่งในข้อบัญญัติ 10 ประการของศาสนาคริสต์ ซึ่งอยู่ถัดจากข้อห้ามการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต) ยังคงถูกระงับและถือเป็นเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายในบางประเทศ ทั้งนี้ Ashley Madison โดนแบนในเกาหลีใต้และสิงคโปร์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์กล่าวว่าเธอก็จะดำเนินการสกัดกั้นเว็บนี้เช่นเดียวกัน แม้ว่า Avid Life ตั้งงบประมาณโฆษณาของปี 2014 ในมูลค่ามหาศาลถึง 34 ล้านเหรียญ แต่ Bing เว็บให้บริการค้นหาข้อมูลของ Microsoft จะยังคงปฏิเสธและไม่รับลงโฆษณาบนพื้นที่ของตน ขณะที่ Google ตกลงรับโฆษณา สถานีโทรทัศน์หลายแห่งในสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ABC และสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งของอังกฤษยืนยันไม่ฉายโฆษณาของบริษัท ส่วนทางด้าน Cisco ระบุให้ Ashley Madison อยู่ในกลุ่มเว็บสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับแผนกไอทีที่จะบล็อคเว็บไซต์ไม่ให้พนักงานเข้าใช้ ขณะที่ Ryanair ปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 120,000 ยูโรจาก Biderman สำหรับการพ่นโลโก้โฆษณา Ashley บนตัวเครื่องบินที่จะบินไปยังสเปน (สถานที่จุดหมายของนักท่องเที่ยว) แต่ Biderman สามารถจับมือกับสื่ออื่นๆ หลายแห่งที่ยินดีทำธุรกิจด้วย อันรวมถึง MSNBC, CNN และ Fox News
เขาเริ่มมุ่งทำตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่สร้างอัตราเติบโตให้กับ Avid Life Media บริษัทได้เปิดให้บริการเว็บไซต์ที่อิสราเอล ฮ่องกง ตุรกีและอินเดียในปี 2014 กำลังจะเปิดให้บริการที่ประเทศไทย และมีแผนที่จะบุกตลาดในรัสเซีย ยูเครนและไนจีเรีย นอกจากนี้ Biderman ยังมองถึงโอกาสเติบโตในบริการส่งข้อความและอีเมลส่วนตัว และพัฒนาบริการส่งข้อความเสียงด้วย
Biderman กล่าวว่าบริษัทของเขามีมูลค่าราว 1 พันล้านเหรียญ แต่นักวิเคราะห์ (ไม่ประสงค์ออกนาม) ให้ความเห็นว่าตัวเลขนี้สูงเกินจริงแต่ก็ค่อนข้างใกล้เคียง บทวิเคราะห์เมื่อเดือนตุลาคมโดย Bank of America Merrill Lynch ระบุว่า Match.com มีมูลค่าประมาณ 3.8 พันล้านเหรียญจากการคำนวณด้วยอัตราส่วนราคาต่อประมาณการกำไรจากการดำเนินงานปี 2015 ที่ 12 เท่า ส่วนมูลค่าประเมิน Tinder อยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญ จากอัตราส่วนราคาต่อประมาณการผลกำไรที่ 18 เท่า ขณะที่การประเมินมูลค่าของ Ashley Madison ที่ทำรายได้ 55 ล้านเหรียญจะใช้อัตราส่วนในกรอบล่างเพราะถูกคิดหักลดจากการทำธุรกิจสีเทา ทว่า Biderman ไม่เห็นด้วย “ถ้าจะมีธุรกิจไหนที่ใช้มูลค่าประเมินที่ p/e 18-20 เท่า ก็ควรจะเป็นธุรกิจแบบเดียวกับเรา ซึ่งได้พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วเกือบสิบปี”
รายได้ที่เข้ามาสู่บริษัทจะทำเงินให้กับ Biderman อย่างมากมายแต่ไม่ถึงกับมหาศาล ปัจจุบันเขาถือหุ้นบริษัทมากกว่า 10% เล็กน้อยหลังจากขายหุ้นส่วนใหญ่ไปในการระดมทุนมูลค่า 40 ล้านเหรียญเมื่อปี 2007 ผู้เข้ามาลงทุนในบริษัทประกอบด้วยนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแคนาดา และบางรายมาจากอเมริกาและเยอรมัน แต่ Biderman ก็มีความสุขดี เขาขับ Maserati Ghilbi รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งในฐานะกรรมการบริษัท ใส่ Calatrava นาฬิกาแบรนด์หรูจาก Patek Philippe ที่ภรรยาซื้อให้ และมีบ้านพักตากอากาศริมทะเลใน Fort Lauderdale แต่เขากล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายมีครอบครัวพร้อมลูกสองอย่างเขายังไม่เคยลองก็คือกิจกรรมสัมพันธ์นอกบ้านแบบที่เว็บไซต์บริษัทเขาเปิดให้บริการ “ผมเข้าใจปัญหาของการมีคู่ครองคนเดียวและเข้าใจคนที่ต้องการใช้บริการเว็บของผม ผมคิดว่าได้สร้างธุรกิจบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้”