ใช่แล้ว ดูท่าว่าแดนสุขาวดีจะเปิดรับคนดังจำนวนมากเป็นพิเศษในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น
David Bowie, Prince, Arnold Palmer และอีกหลายต่อหลายคน แต่ราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับไปนานโขอย่าง
Michael Jackson ดูจะสุขีกับชีวิตหลังความตายไม่หยอก ครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงของ Sony/ATV โดยเฉพาะคลังเพลงของ
The Beatles มูลค่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ทำให้รายได้ของ MJ ทะยานขึ้นเป็นอันดับหนึ่งทุกปีเหนือคนดังที่เสียชีวิตไปแล้วรายอื่นๆ หักปากกานักวิจารณ์หรือกระทั่งที่ปรึกษาของ King of Pop จำนวนไม่น้อย ที่ตอนนั้นต่างลงความเห็นว่าเป็นการลงทุน ที่ไม่คุ้มค่า เพราะรายได้ต่อปีของ Jacko แซงหน้าคนดังตั้งหลายคนทั้งที่ยังอยู่และจากไปแล้ว
1. Michael Jackson
825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี
เสียชีวิต: 25 มิถุนายน 2009 อายุ: 50 ปี
สาเหตุ: การใช้ยาเกินขนาด / ฆาตกรรม
ปี 1985 Michael จ่ายเงิน 47.5 ล้านเหรียญ (หรือเทียบเท่า 140 ล้านเหรียญในปี 2016) ซื้อลิขสิทธิ์เพลงของ The Beatles จาก ATV สิบปีให้หลัง Sony จ่ายเงิน 115 ล้านเหรียญให้ Jackson เพื่อร่วมลงทุนในลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวในสัดส่วน 50/50 กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคมของปีที่แล้วได้เข้าซื้อส่วนที่เหลือ ทำให้ทรัพย์สินของเขาซึ่งมี John Branca ทนายความ และ John McClain ผู้บริหารธุรกิจดนตรีเป็นผู้ดูแล โดยมีค่าตอบแทนจากการลงทุนถึงร้อยละ 30 ต่อปี
2. Charles Schulz
48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักวาดการ์ตูน
เสียชีวิต:12 กุมภาพันธ์ 2000
อายุ 77 ปี
สาเหตุ: มะเร็งลำไส้
ผู้สร้างสรรค์ตัวการ์ตูน Peanuts ขยับขึ้นมารั้งอันดับสองหลังฟันส่วนแบ่งรายได้จากลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนดังของเขา ซึ่งได้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นรูปแบบ 3 มิติ The Peanuts Movie มาช่วยสร้างกระแสเมื่อปีกลาย
3. Arnold Palmer
40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักกีฬา
เสียชีวิต: 25 กันยายน 2016
อายุ 87 ปี
สาเหตุ: โรคหัวใจ
เขาคงจะไม่ได้ปรากฏอยู่ในโฆษณาสินค้าของ Electronic Arts หรือ Xarelto แต่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Arnold Palmer กว่า 500 แห่งในเอเชีย และเครื่องดื่มชามะนาวของเขาซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 25 ในรัฐ Arizona จะยังช่วยให้ชีวิตหลังความตายของนักกอล์ฟรายนี้สดชื่นดื่มด่ำไปอีกนาน
4. Elvis Presley
27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี/นักแสดง
เสียชีวิต: 16 สิงหาคม 1977
อายุ 42 ปี
สาเหตุ: หัวใจวาย
ราชาร็อคแอนด์โรลยังขายอัลบั้มของเขาได้มากกว่าปีละล้านก็อปปี้แต่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในรูปแบบจับต้องได้อย่างแผ่นเสียงหรือแผ่นซีดี ไม่ใช่ฟอร์แมทดิจิทัล แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับรายได้หลายล้านเหรียญที่มาจากธุรกิจคฤหาสน์ Graceland ของเขา ซึ่งส่วนใหญ่ได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม (อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมารายได้ของ Presley ลดลงร้อยละ 50 เป็นผลจากรายได้การขายบัตร Graceland น้อยลง)
5. Prince
25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี/นักแสดง
เสียชีวิต: 21 เมษายน 2016
อายุ 57 ปี
สาเหตุ: เสพยาเกินขนาด
เจ้าของเพลงดัง Purple Rain จากไปขณะที่ทัวร์คอนเสิร์ตกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ (การแสดงแต่ละครั้งทำรายได้เกือบ 2 ล้านเหรียญ) และยังสามารถขายอัลบั้มได้มากกว่า 2.5 ล้านก็อปปี้ในช่วงปีที่ผ่านมา มากกว่านักดนตรีที่จากไปแล้วคนไหนๆ
6. Bob Marley
21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี
เสียชีวิต: 11 พฤษภาคม 1981
อายุ 36 ปี
สาเหตุ: มะเร็ง
ยอดขายอัลบั้มไม่ได้ทำให้ Marley ยังรั้งตำแหน่งบนอันดับของเรา แต่เป็นรายได้จากการขายสินค้าประเภทเครื่องเสียงต่างๆ ภายใต้แบรนด์ House of Marley รวมทั้งเครื่องดื่ม Mellow Mood และสินค้าอื่นๆ ที่ทำให้เขายังครองอันดับ 6 ในปี 2016
7. Theodor “Dr. Seuss” Geisel
20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักเขียน
เสียชีวิต: 24 กันยายน 1991
อายุ 87 ปี
สาเหตุ: สิ้นอายุขัย
งานของ Dr. Seuss ยังคงโลดแล่นอยู่ทุกหนแห่ง ในทุกปี Geisel ยังทำยอดขายหนังสือเด็กผลงานสุดล้ำของเขาได้ปีละหลายล้านเล่ม ปีที่ผ่านมา เขาทำรายได้เพิ่มเป็นสองเท่าตัว จากหนังสือ What Pet Should I Get? ที่ตีพิมพ์ในปี 2015 หลังจากที่ไม่เคยถูกตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน
8. John Lennon
12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี
เสียชีวิต: 8 ธันวาคม 1980
อายุ 40 ปี
สาเหตุ: ฆาตกรรม
นักดนตรีชาวอังกฤษยังคงได้รับส่วนแบ่งจากผลงานของ The Beatles เฉพาะในสหรัฐอเมริกา อัลบั้มของสี่เต่าทองทำยอดขายมากกว่า 65 ล้านก็อปปี้ตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ยังไม่นับรวมรายได้จากธุรกิจอื่นๆ อาทิ โชว์ Love! การแสดงใน Las Vegas ที่บริหารดูแลโดย Cirque du Soleil บริษัทสัญชาติแคนาดา
9. Albert Einstein
11.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักวิทยาศาสตร์
เสียชีวิต: 18 เมษายน 1955
อายุ 76 ปี
สาเหตุ: สิ้นอายุขัย
นักฟิสิกส์อัจฉริยะผู้นี้ไม่เพียงเป็นแค่ภาพโปสเตอร์แปะกำแพงห้องนอนตามหอพักมหาวิทยาลัยหรือลายสกรีนบนเสื้อยืดนักศึกษา แต่ยังปรากฏตัวอยู่บนแท็บเล็ตที่ออกแบบโดย Fourier Systems บริษัทไอทีสัญชาติอิสราเอล ทรัพย์สินของเขายังรวมถึงลิขสิทธิ์ชื่อที่ Salesforce นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ AI ชิ้นใหม่
10. Bettie Page
11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นางแบบ
เสียชีวิต: 11 ธันวาคม 2008
อายุ: 85 ปี
สาเหตุ: สิ้นอายุขัย
เสน่ห์เย้ายวนที่ไม่มีวันเสื่อมคลายของเธอเป็นที่มาของการเซ็นสัญญากับชุดชั้นใน ชุดแต่งงาน และกระเป๋าถือที่มีมูลค่ามหาศาล
11. David Bowie
10.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักดนตรี นักแสดง
เสียชีวิต: 10 มกราคม 2016
อายุ 69 ปี
สาเหตุ: มะเร็ง
สร้างสรรค์ผลงานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต Blackstar ผลงานอัลบั้มสุดท้ายบนเส้นทางการเป็นศิลปินวางแผงก่อนที่ศิลปินระดับตำนานผู้นี้จะจากโลกไปเพียงแค่สองวัน ทำให้ในปีที่ผ่านมายอดขายผลงานของเขาช่วยดันขึ้นมาแซงหน้าขาประจำอย่าง MJ และ Presley
12. Steve McQueen
9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักแสดง
เสียชีวิต: 30 พฤศจิกายน 1980
อายุ 50 ปี
สาเหตุ: อาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
ไม่มีใครปฏิเสธบุคลิกสุดเท่ของ Steve McQueen ที่ทำให้ทั้ง Tag Heuer, Porsche, Persol และ Barbour ต่างก็มีดีลสัญญาเซ็นไว้กับเขา
13. Elizabeth Taylor
8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นางแบบ
เสียชีวิต: 23 มีนาคม 2011
อายุ 79 ปี
สาเหตุ: หัวใจวาย
หลายๆ น้ำหอมที่อาศัยชื่อคนดังอาจมีกลิ่นที่เจือจางไปแล้ว แต่กลิ่น White Diamonds ของ Taylor คงจะหอมหวลติดทนนานไปตลอดกาล
ประมาณการรายได้ก่อนหักภาษีตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2015 ถึง 1 ตุลาคม 2016 ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างค่าว่าจ้างตัวแทน ผู้จัดการ และทนายความ
ที่มา: Nielsen SoundScan, Nielsen Bookscan, PollstarPro, IMDB และบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านมรดก
คลิกอ่านฉบับเต็ม "คนดังทำเงินได้แม้ลาโลกแล้ว" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ กุมภาพันธ์ 2560