การประชุมผ่านวิดีโอ (Video Conference) กลายเป็นวิถีใหม่ของการทำงานในสถานการณ์โควิด-19 เมื่อหลายคนต้อง work from home การประชุมผ่านอุปกรณ์ไอทีแบบเห็นหน้า จึงเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์และเป็นกระแสที่มาแรง แถมมีแนวโน้มจะอยู่ยาว หลังพบข้อมูลการใช้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ปลายเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมาคนทำงานในกรุงเทพฯ ต้องรับสภาพ work from home จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจำนวนนี้เกินกว่าครึ่งได้สัมผัสกิจกรรมประชุมออนไลน์แบบ Video Conference ซึ่งเรามักได้ยินเสียงบ่นจากคนรอบข้างว่า “work from home มี Con Call ตลอดต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน” จากปากคนทำงานที่ต้องเปลี่ยนบ้านเป็นออฟฟิศ เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมตามนโยบายรัฐบาลตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา
หลายคนมองว่า Video Con. เป็นวิถีใหม่ของคนทำงานที่จะอยู่ต่อเนื่อง แม้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เพราะความสะดวก ประหยัด สามารถแลกเปลี่ยนเนื้อหา และนำเสนอข้อมูลต่างๆ ได้ไม่ต่างจากการประชุมปกติ แต่ลดความสิ้นเปลืองการเดินทาง การสำรองเอกสาร แม้แต่อาหารว่างสำหรับการประชุมก็ไม่จำเป็นต้องจัดหา ทำให้คนยอมรับวิถีการประชุมทางเลือกใหม่ในการทำงาน แม้กระทั่งการอบรมสัมมนากลุ่มย่อย ก็อาจเปลี่ยนจากการจัดงานในโรงแรมหรือสถานที่แบบเดิมๆ มาเป็นห้องสตูดิโอขนาดย่อมหรือห้องประชุมในออฟฟิศแล้วเปิด Video Conference ให้คนลงทะเบียนเข้ารับฟังแบบออนไลน์ได้จากทุกที่
“บางแพลตฟอร์มเปิดให้ใช้ฟรีพร้อมกันได้ถึง 100 คน ทั้งประหยัด สะดวก และเปิดกว้างเชื่อมโยงผู้คนได้ทั่วโลก” จึงไม่น่าแปลกที่ Video Con.จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งทุกวันนี้มีแอปพลิเคชั่นต่างๆ ให้บริการฟรี ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LINE, Zoom, Microsoft team, Youtube รวมถึง hangout ของ Google ก็ไม่ตกเทรนด์เช่นกัน ยอดผู้ใช้ Video Conference ผ่านช่องทางของ Google เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สะท้อนการตื่นตัวของผู้ใช้ที่ตอบรับวิถีใหม่นี้ชัดเจน
ฟีเจอร์ใหม่เจาะเอสเอ็มอี
สายใย สระกวี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ Google ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กลุ่มย่อยผ่าน Google Meet เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่หลายองค์กรยังคงให้พนักงานทำงานที่บ้านด้วยมาตรการ work from home เพื่อเฝ้าระวังในสถานการณ์โควิด-19 โดยเธอบอกว่าในช่วงเดือนเมษายนที่สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงทั่วโลก ฟีเจอร์ที่เป็น Video Conference ของ Google มียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าตัว (จากเดือนมกราคมเป็นต้นมา)
โดยมีการใช้ประมาณ 3,000 ล้านนาที ยอดคนที่เข้าใช้ใหม่เพิ่มขึ้น 3 ล้านคน/วัน และในเดือนเมษายน 2563 มีประชุมในรูปแบบ Video Con. มากกว่า 100 ล้านคนต่อวัน
“Google เชื่อว่าฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์ work from home และเป็นช่องทางที่ใช้ติดต่อคนอื่นๆ ได้ง่าย เราจึงเปิดให้ใช้ฟรี และพยายามโปรโมทให้คนรู้จักกว้างขึ้น” จากเดิมที่ Google Meet ให้บริการรวมอยู่ใน G Suite ซึ่งเป็นลูกค้าองค์กรที่ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวน 6 ล้านรายซึ่งมีสิทธิ์ใช้งาน Google Meet อยู่แล้ว เพียงแต่แอดมินต้องเปิดใช้ Google Meet ตามขั้นตอนในศูนย์ช่วยเหลือของ G Suite ซึ่งมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการเข้าใช้งาน Google Meet สำหรับลูกค้าองค์กรที่มีอยู่ในปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้
โดยลูกค้า G Suite ทุกรายสามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงของ Google Meet ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และกลุ่มลูกค้าเดิมจะได้รับใบอนุญาตในการใช้งาน Google Meet เพิ่มฟรีโดยไม่ต้องแก้ไขสัญญา และลูกค้าองค์กรใหม่สามารถใช้งาน G Suite Essentials ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ Google ยังมี G Suite for Education ซึ่งเป็นชุดแอปพลิเคชั่นฟรีของ Google ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อสถาบันศึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งให้บริการมานานแล้ว ปัจจุบันมีนักเรียนและครูผู้สอนกว่า 170 ล้านรายทั่วโลกที่ใช้ Google Meet เพื่อจัดการเรียนการสอนออนไลน์ประสิทธิภาพสูง ตลอดจนการประชุมผู้ปกครอง การสอนพิเศษ และแม้แต่งานสังคมของโรงเรียน
โดยการตอบรับค่อนข้างดีและในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องทำงานที่บ้าน หรือที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ออฟฟิศ Google มองว่าแพลตฟอร์มนี้ตอบโจทย์ จึงเปิดให้ใช้ฟรี ซึ่งมั่นใจว่าดีกว่าหลายๆ แพลตฟอร์ม เพราะ Google Meet สามารถใช้ประชุมพร้อมกันได้ 100 คน ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ตัด
“เรามองเอสเอ็มอีน่าจะเกิดประโยชน์กับตรงนี้ ใช้อะไรคุยกับลูกค้าซึ่งมันตอบโจทย์ จุดขายของ Google Meet คือเป็น performance upscale ในแพลตฟอร์มให้คนจำนวนมากใช้อยู่แล้ว เรามั่นใจว่า infrastructure เราแข็งแรง รองรับคนเข้ามาพร้อมกัน 2 พันล้านนาที” สายใย ยืนยัน และว่า จำนวนคนใช้ใหม่ 3 ล้านคน ระบบยังรองรับได้โดยไม่กระทบต่อการใช้งานรวม และ Google ยังมี Google Cloud ที่แข็งแรงและเป็นจุดขายทางเลือกให้กับลูกค้าองค์กร ซึ่งสามารถอัพเกรดโซลูชั่นให้รองรับการใช้จำนวนมากได้
นอกจากนี้ G Suite Google ยังได้เปิดตัว G Suite เวอร์ชั่นใหม่ที่ชื่อว่า G Suite Essentials ซึ่งประกอบด้วย Google Drive เพื่อการเข้าถึงไฟล์ที่ง่ายและปลอดภัยสำหรับทีมงาน รวมทั้ง Google Docs, Google Sheets และ Google Slides สำหรับการสร้างเนื้อหาและการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงของ Google Meet เช่น ฟีเจอร์การใช้เบอร์โทรศัพท์สำหรับการโทรเข้าร่วมประชุม การประชุมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และการบันทึกการประชุม โดย Google จะเปิดให้ใช้ G Suite Essentials และฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้ได้ฟรีไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน โดยผู้สนใจใช้งาน G Suite Essentials สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อกับฝ่ายขายของ G Suite ได้โดยตรง
จุดขายหลัก “ข้อมูลปลอดภัย”
ผู้บริหาร Google ย้ำว่า จุดแข็งที่สำคัญของ Google Meet คือระบบความปลอดภัย “ไม่มีใครสามารถมาดูวิดีโอที่ประชุมได้ถ้าเจ้าของไม่ยินยอม ฉะนั้นปลอดภัยแน่นอน เรามี industries leading enterprise เป็นเจ้าของวิดีโอที่ใช้ ตั้งแต่เปิด meet มายังไม่มี report hijack เข้ามาโดยไม่อนุญาต” เบื้องหลังความปลอดภัยมาจากการกำหนด meeting code ที่เยอะมากมี code กว่า 10 ตัวและ combination 25 แบบทำให้เดาสุ่มยาก การจะเข้า meeting มีการยืนยันค่อนข้างเยอะ การ down in เว็บไซต์มือถือก็ต้องมี code มาก่อน และต้องมีบัญชีใน Gmail ทั้งหมดนี้เพื่อปกป้องผู้ใช้สามารถเข้า meeting ได้อย่างปลอดภัย
ถึงแม้จะมีกำแพงหลายขั้นตอน แต่การเข้าใช้ก็ไม่ยาก เริ่มจาก host ยอมรับก็สามารถเข้าร่วมประชุมออนไลน์ได้ทันที จากนั้นการจะใช้ข้อมูลใน meeting ยังมีมาตรฐานการป้องกันสูงที่ใช้กับทั่วโลก รองรับกฎหมายจากยุโรปเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ใช่ใครจะเข้าได้ง่ายต่อให้เป็นวิศวกรกูเกิลก็เข้าไม่ได้
Google มีบริการออนไลน์มีตติ้งแบบนี้มานานแล้ว ส่วนมากผู้ใช้คือบริษัทขนาดใหญ่จะเป็น Video Conference แบบ HD ภาพเสียงคมชัด และมี building translation ถ้าเป็นภาษาอังกฤษมีคำบรรยายให้ด้วย ใครฟังไม่รู้เรื่องก็อ่านคำบรรยายตามได้ ซึ่งบริการนี้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) แปลงเสียงเป็นคำบรรยายสามารถขึ้นข้อความได้เลยทันที
“มันอยู่บน Google Cloud ซึ่งมีทั้งความเสถียร และได้ scale ด้วย อีกอย่างเราไม่เคยขายดาต้า Google Meet Cloud ปลอดภัย เราค่อนข้างมั่นใจตรงนี้” ตัวแทน Google ประเทศไทยยืนยัน
“หากระบบล่มทำอย่างไร” ผู้บริหาร Google ไทยยกตัวอย่างคำถามที่มีเข้ามาพร้อมอธิบายว่า “เรามีที่ปรึกษาในการ meeting 200 คนพร้อมกัน และ live stream ได้ 100 คน เสียงกับภาพจะเป็น HD คมชัดและความปลอดภัยสูง ไม่เคยล่ม 99.9%”
Google ค่อนข้างมั่นใจว่ามีระบบรองรับที่ดี มีความปลอดภัยให้บริการกว่า 2,000 ล้านชั่วโมง และการเปิดให้คนได้ใช้บริการฟรีสำหรับการประชุม 100 คน ถ้าองค์กรไหนต้องการใช้เกินนั้น เช่น 500-600 คน ทาง Google ก็มีบริการโดยเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งระบบที่มีตอนนี้รองรับได้มากสุดแบบประชุมเห็นหน้า 250 คน และ live ได้ 100,000 คน ส่วน hangout ใช้ได้ 25 คน ช่วงนี้เปิดบริการให้ลองใช้ฟรีในแบบพื้นฐานการประชุม 100 คนโดยไม่กำหนดเวลาได้ถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้
สถิติและบริการของ Google Meet
-ปัจจุบันลูกค้าองค์กรในกว่า 150 ประเทศทั่วโลกเลือกใช้ Google Cloud
-ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา จำนวนผู้ใช้งาน Google Meet ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นถึง 30 เท่า
-เดือนเมษายนที่ผ่าน Google Meet ได้รองรับการประชุมทางวิดีโอไปแล้วถึง 3,000 ล้านนาที และยอดผู้ใช้เพิ่มสูงขึ้นถึง 3 ล้านคน/วัน
-ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน มีผู้คนเข้าร่วมประชุมผ่าน Google Meet ต่อวันมากกว่า 100 ล้านคน
-โรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษา สำหรับผู้สอน และนักเรียน นักศึกษา ปัจจุบันใช้ Google Meet กว่า 120 ล้านคนทั่วโลก (รวมอยู่ใน G Suite for Education อยู่แล้วซึ่งเป็นชุดแอปพลิเคชั่นฟรีของ Google ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อสถาบันศึกษาโดยเฉพาะ)
-Google Meet ให้บริการในการวิดีโอคอลฟรีสูงสุด 100 คน
-Live streaming บน Google Meet สามารถรองรับได้ถึง 100,000 คน
- อ่านเพิ่มเติม Zoom แอพวิดีโอแชทผู้เป็นแชมเปี้ยนแห่งการประชุม
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine