ปัจจุบันการลงทุนลักษณะสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือการสะสมนาฬิกา ซึ่งผมขอแบ่งปันความเห็น ‘ส่วนตัว’ ประกอบบทความโดยผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการนำข้อมูลไปใช้ด้วยตนเอง
นาฬิกา: กับดักทางการเงิน?
- สะสมตามแบรนด์หรือยี่ห้อ การสะสมลักษณะนี้จะเริ่มต้นได้ง่ายที่สุดโดยอาจเริ่มจากแบรนด์ที่ชอบและตามมาด้วยรุ่นที่สนใจของแบรนด์นั้น
- สะสมตามรูปแบบการใช้งานหรือแนวทางการออกแบบ เช่นสะสมตามประเภทหลักของนาฬิกาไม่ว่าจะเป็นแนว dress หรือ sport ประเภทรอง เช่น นาฬิกา sport ที่แบ่งเป็นแบบ นักบิน (pilot) และหรือ นักดำน้ำ(divers)
- สะสมตามประเภทของกลไกและความซับซ้อน ซึ่งอาจเก็บตามระบบการทำงานที่เพิ่มเติมจากการบอกเวลา เช่น ระบบทูบิยอง (Tourbillon) ระบบการตีบอกเวลาด้วยเสียง (Minute Repeater) ระบบปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) ระบบจับเวลาแบบแยกวินาที (Split-Second Chronograph) เป็นต้น
- สะสมตามช่วงเวลาและยุคสมัย การสะสมแนวนี้เป็นการสะสมนาฬิกาโบราณซึ่งมีหลายยุคหลายสมัยที่ได้รับความนิยม เช่น ยุคศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) ช่วงปี 1890-1910 ยุคศิลปะอาร์ตเดคโค (Art Deco) ช่วงปี 1920-1930 ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1939-1945 ที่จะเน้นนาฬิกาทหาร หรือนาฬิกายุคปี 1960-1970 ที่มีการออกแบบนาฬิกาเพื่อกิจการในอวกาศและการบิน หรือการออกแบบที่เน้นไปกับกิจกรรมการแข่งขันด้านความเร็วไม่ว่าจะเป็นการแข่งรถหรือเรือ
- แบรนด์ ความซับซ้อน สภาพ รวมถึงเรื่องราวของนาฬิกา ซึ่งถึงแม้ผู้ผลิตจะมีความสำคัญแต่ก็ไม่ได้หมายความว่านาฬิกาแบรนด์เนมทุกยี่ห้อทุกรุ่นของผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงจะมีราคาที่ดีทั้งหมด
- การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ของผู้ขายรวมถึงคุณภาพและเงื่อนไขของสินค้า
- ความครบของกล่อง เอกสารแสดงถึงความเป็นเจ้าของและการรับประกัน
- นาฬิกาที่มีราคาสูงควรซื้อจากคนรู้จักและคุ้นเคย
- ถ้าซื้อออนไลน์ ควรตรวจสอบอ่านกระทู้หรือข้อคิดเห็นที่น่าเชื่อถือ และเวลาซื้อต้องซื้อกับตัวบุคคล
- การประมูลนาฬิกาควรเป็นทางเลือกสุดท้ายนอกจากมีประสบการณ์จริงๆ เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยให้พิจารณามากบนโอกาสที่อาจถูกย้อมแมวสูง
- กำไรจากการเป็นเจ้าของหรือการใช้งานสินทรัพย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะตีค่าอย่างไร พูดง่ายๆ คือความสุขทางใจ
- กำไรจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ โดยราคาตลาด ณ ปัจจุบัน > ราคาที่ซื้อ หรืออาจเทียบเคียงว่าเป็นกำไรทางบัญชี
- กำไรจากการขายสินทรัพย์ โดยราคาที่ขายได้ > ราคาซื้อ + ค่าดูแลรักษา + มูลค่าเงินตามเวลา (time value of money) โดยอาจเรียกได้ว่าเป็น กำไรจากการลงทุนที่แท้จริง