ในโลกยุคปัจจุบันที่ความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันจึงเกิดเป็นการจัดตั้งโครงการเฉพาะเพื่อบริหารโครงการที่เรียกว่า "PM - PMO"
"PM - PMO" หรือที่เรียกว่า ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) เและ Project Management Office หรือ PMO โดย PM เข้ามาบริหารกิจกรรมของโครงการทั้งหมด แต่ในองค์กรขนาดใหญ่รวมถึงขนาดกลางบางส่วน ก็มีหน่วยงานอีกหน่วยงานหนึ่งที่เรียกว่า Project Management Office หรือ PMO เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันความสำเร็จของโครงการด้วยเช่นกัน คำถามคือแล้วสองบทบาทนี้มีหน้าที่แตกต่างกันอย่างไร ฝ่ายไหนต้องรายงานใคร และทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำไม PMO ถึงจำเป็นสำหรับองค์กร จากสถิติเปิดเผยโดย Pulse of Profession 2021 by PMI ซึ่งสำรวจผู้ทำงานในสายอาชีพผู้จัดการโครงการมากกว่า 3,000 คนทั่วโลก พบว่ามีโครงการมากกว่าร้อยละ 42 ที่ไม่สามารถดำเนินการให้จบภายในระยะเวลาที่กำหนด และมากกว่าร้อยละ 36 ใช้งบเกินกว่าที่ประเมินไว้ โดยสถิตินี้แสดงให้เห็นว่า แม้มีผู้จัดการโครงการบริหารงานอยู่ แต่ไม่ได้การันตีว่าโครงการจะประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้ รวมถึงอาจเกิดปัญหาอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เช่น มีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าที่ระบุไว้หรือความล่าช้าในการนำระบบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งสำหรับหลายองค์กรหมายถึงการสูญเสียโอกาสในการเป็นผู้นำตลาด หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาด และจะส่งผลถึงความสามารถในการทำกำไรในเวลาถัดมา เมื่อการมีแค่ผู้จัดการโครงการ หรือ PM อาจไม่เพียงพอต่อการผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จ ทางแก้ปัญหาคือต้องจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมา เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารโครงการให้ดีขึ้น ซึ่งก็คือหน่วยงาน PMO แล้วมีสัญญาณอะไรบ้างที่บอกให้องค์กรรู้ว่าถึงเวลาต้องจัดตั้ง PMO 1.จำนวนโครงการที่ล่าช้าหรือเกินงบเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 2.ผู้จัดการโครงการแต่ละคนใช้แนวทางของตัวเองในการบริหารโครงการ ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และไม่มีการบันทึกข้อมูลของโครงการไว้อย่างเป็นระบบ 3.โครงการที่ทำสำเร็จไม่ตอบโจทย์ขององค์กร และไม่สนับสนุนกลยุทธ์ที่องค์กรวางไว้ PMO ไม่ใช่ PM ก่อนเริ่มจัดตั้ง PMO องค์กรควรเข้าใจก่อนว่า PMO คืออะไร และทำหน้าที่อะไรกันแน่ เพราะมีองค์กรจำนวนมากยังคงสับสนระหว่าง PMO และ PM ว่าทำหน้าที่เดียวกัน แต่แค่เรียกชื่อต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ขอบเขตการทำงานของทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย นิยามของ Project Manager (PM) ผู้จัดการโครงการคือบุคคลผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและบริหารจัดการข้อจำกัด (constraints) ในโครงการหนึ่งๆ ซึ่งข้อจำกัดในที่นี้รวมถึง ขอบเขต ค่าใช้จ่าย ระยะเวลา ความเสี่ยง และคุณภาพ เป็นต้น โดยหน้าที่หลักของ PM ประกอบด้วย - วางแผนและจัดการทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในโครงการ - ควบคุมและส่งเสริมการทำงานของบุคลากรภายในทีม - วางแผนการทำกิจกรรมๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์โครงการและบริหารเวลาให้เป็นไปตามแผน - ประเมินค่าใช้จ่ายในโครงการและควบคุมค่าใช้จ่าย - สื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียในโครงการด้วยข้อมูล ความถี่ และช่องทางที่เหมาะสม - บริหารจัดการความเสี่ยงในโครงการ - ตรวจสอบและวัดผลความก้าวหน้าในการดำเนินกิจกรรมในโครงการ - จัดส่งและเก็บรักษาเอกสารที่ใช้ในโครงการให้มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน นิยามของ Project Management Office (PMO) หลายคนเข้าใจว่า PMO ย่อมาจาก Project Management Officer ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถูกต้อง แต่ต้องเป็น Project Management Office เพราะหมายถึงกลุ่มบุคคล หรือ หน่วยงาน (Office) ที่สนับสนุนการทำงานของผู้จัดการโครงการให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐาน สำหรับหน้าที่หลักของ PMO ได้แก่ - บริหารจัดการทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันระหว่างโครงการ - กำหนดมาตรฐานแนวทางการทำงาน รูปแบบการทำงาน (Templates) และ Best practice - ให้คำแนะนำ ฝึกอบรม และควบคุมดูแลทีมงาน - ตรวจสอบวิธีการปฏิบัติงานให้มีความสอดคล้องตามมาตรฐานและแนวทางที่วางไว้ - เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างโครงการ PMO มีกี่ประเภท PMO สามารถจัดกลุ่มออกมาได้หลายประเภท ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยเบื้องต้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. แบ่งตามอำนาจในการดูแลโครงการ (Degree of Control and Influence) 2. แบ่งตามระดับของการจัดกลุ่มโครงการ และ 3. แบ่งตามลำดับในองค์กร 1.แบ่งตามอำนาจในการดูแลโครงการ (Degree of Control and Influence)- Supportive PMO
- Controlling PMO
- Directive PMO
- Portfolio Management Office
- Program Management Office
- Project Management Office
- Enterprise: ดูแลในระดับ Organization-wide จะมีหน้าที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับ Portfolio Management Office
- Division: ดูแลในระดับ Division หรือ Region เช่นสำหรับ Multi-national organization อาจมีการจัดตั้ง PMO ที่ดูแลในสาขา Europe จะมีหน้าที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับ Portfolio/Program Management Office
- Business Unit: ดูแลในระดับ Business Unit เช่น IT PMO จะมีหน้าที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับ Program/Project Management Office
- พยายามออกแบบกระบวนการรายงานสถานะของโครงการ ให้สามารถใช้ข้อมูลจาก template
- อัปเดตสถานะโครงการ ปัญหา และความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่าง PM และ PMO อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ PMO เข้าไปช่วยเหลือ PM ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- พยายามลดทอนระยะเวลาของกระบวนการต่างๆ ให้น้อยลง เพราะกระบวนการที่นานจะเป็นอุปสรรคมากกว่าเป็นตัวช่วยในการทำงานของ PM
- แลกเปลี่ยนความรู้ แนวทาง และวัฒนธรรมในการทำงานกับ PM อย่างสม่ำเสมอ ในการสร้าง Community ที่มีวัฒนธรรมในการแลกเปลี่ยน lessons learned และ best practice เพื่อให้ PM กลุ่มนี้เป็นกระบอกเสียงในการนำมาตรฐานใหม่ไปใช้
- สร้างทีม PMO โดยประกอบผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านการสร้างกระบวนการและการสร้างผลลัพธ์ การหมุนเวียน PM มาเป็น PMO ก็เป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้การถ่ายทอดกระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine