Colin Huang ผู้ก่อตั้ง Pinduoduo บริษัทอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน เพิ่งเข้าสู่อันดับมหาเศรษฐีโลก หลังจากนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นครั้งแรกในตลาดหุ้น Nasdaq เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2018
ในวันแรกที่ทำการขาย หุ้น PDD ปิดราคาที่ 26.70 เหรียญสหรัฐฯ ส่งให้บริษัทมีมูลค่า 2.96 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย Colin Huang ยังคงมีหุ้นในบริษัทอยู่ 46.8% คิดเป็นมูลค่า 1.38 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
นั่นทำให้ Huang ผู้ก่อตั้งเทคสตาร์ทอัพวัย 38 ปีรายนี้กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 13 ของจีน และนับเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลด้านเทคโนโลยีที่อายุน้อยที่สุดของแดนมังกร ทั้งนี้ Huang เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาจีนว่า Zheng Huang
ธุรกิจที่ Huang พัฒนาขึ้นคือ Pinduoduo ก็มีอายุน้อยมากเช่นกัน เพราะบริษัทของเขาเพิ่งจะเปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อน ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันรุนแรงของอีคอมเมิร์ซที่ติดตลาดไปก่อนหน้านี้อย่าง Alibaba และ JD.com (อ่านเรื่องราวของ JD.com ได้ที่นี่) อย่างไรก็ตาม Pinduoduo ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากถึง 200 ล้านคนต่อเดือน โดยการเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้ระดับล่างยิ่งกว่าคู่แข่ง
Pinduoduo ใช้กลยุทธ์ Group Buying เป็นจุดขาย นั่นคือการกระตุ้นการซื้อเป็นกลุ่มโดยบริษัทจะให้ส่วนลดเมื่อสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อมีการแชร์สินค้าจาก Pinduoduo ออกไปในแอพพลิเคชั่นอื่น เช่น WeChat เพื่อชวนให้เพื่อนมาซื้อรวมกัน ตัวอย่างสินค้าที่ซื้อเหมาถูกกว่ากับบริษัท เช่น กระดาษชำระราคา 1 เหรียญสหรัฐฯ
บางคนมองว่า Pinduoduo คือโมเดลธุรกิจลูกผสมของ Groupon กับ Facebook แต่ Huang อธิบายบริษัทของตัวเองว่าเป็นส่วนผสมของห้าง Costco กับ Disneyland ที่ซึ่งราคาอันสมเหตุสมผลกับความสนุกสนานมารวมกัน
ก่อนหน้านี้ Pinduoduo ได้รับเงินทุนจากเวนเจอร์แคปิตอล เช่น Sequoia สาขาประเทศจีน, Banyan Partners Funds บริษัทไพรเวทอิควิตี้จีน และยักษ์ใหญ่ Tencent ซึ่งขณะนี้ถือหุ้น 17% อยู่ใน Pinduoduo
PDD ประกาศรายได้ปี 2017 ไว้ที่ 278 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เพียงแค่ไตรมาสแรกของปี 2018 ก็ทำรายได้ไปแล้ว 220 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ดี ไตรมาสแรกนี้ PDD ยังคงขาดทุนสุทธิหลักสิบล้านเหรียญ รวมถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นบนเส้นทางของบริษัทตั้งแต่ก่อนเปิดขายหุ้น IPO จากการที่ Pinduoduo ถูกฟ้องร้องละเมิดสิทธิเครื่องหมายทางการค้าใน New York
เขาปฏิเสธงานที่ Microsoft ลาออกจาก Google เพื่อมาเป็นนักธุรกิจ
Pinduoduo เป็นสตาร์ทอัพบริษัทที่ 4 ที่ Huang ก่อตั้งขึ้น เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทแรกเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อ Ouku.com ในปี 2007 แต่ความชื่นชอบในธุรกิจสตาร์ทอัพของเขาแสดงให้เห็นมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น
Huang ศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Zhejiang University ในมณฑล Hangzhou บ้านเกิดของเขา และศึกษาต่อที่ University of Wisconsin, Madison หลังจากจบการศึกษาในปี 2004 Huang ปฏิเสธตำแหน่งงานที่ Microsoft "ผมมองเห็นได้เลยว่า ผมจะกลายเป็นอะไรที่ Microsoft ในอีกสิบปีให้หลัง" เขาเขียนไว้ในบล็อกส่วนตัวเมื่อปี 2016
เขาเลือกร่วมงานกับ Google แทนในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์ ในเวลานั้น Microsoft มีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ Google ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ Huang ก็เลือกเดินทางไปกับ Google
ในปี 2006 Huang กลับสู่มาตุภูมิในฐานะส่วนหนึ่งของทีมเปิดตลาดเมืองจีนให้กับ Google อย่างไรก็ตาม 1 ปีต่อมา Huang ก็ตัดสินใจตามสัญชาตญาณตัวเองอีกครั้ง เขาเลือกลาออกจาก Google โดยไม่แม้กระทั่งจะรอให้ตัวเองติดอาวุธพร้อมก่อน นั่นคือจุดเริ่มต้นของวิถีผู้ประกอบการของเขา
เขาขายกิจการสตาร์ทอัพแห่งแรก Ouku.com ไปเมื่อปี 2010 ส่วนกิจการที่สองและสามของเขาเป็นบริษัทบริการระบบหลังบ้านของอีคอมเมิร์ซ (ซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินการอยู่) กับบริษัทพัฒนาเกมออนไลน์
Huang มีสายสัมพันธ์กับผู้ทรงอิทธิพลในวงการเทคโนโลยีของจีนจำนวนหนึ่ง ระหว่างที่เขาเรียนมหาวิทยาลัย William Ding ผู้ก่อตั้งบริษัทเกมออนไลน์ NetEase เคยขอความช่วยเหลือด้านปัญหาเชิงเทคนิคจาก Huang
เวลาต่อมา Ding คือคนที่ช่วยแนะนำ Huang ให้รู้จักกับ Duan Yongping ผู้ประกอบการและนักลงทุนเบื้องหลังบริษัทสมาร์ทโฟนอย่าง Oppo และ Vivo ซึ่ง Yongping คือคนที่ชนะประมูลเพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกับ Warren Buffett ในปี 2006 และเขาได้พา Huang ไปด้วย (โครงการประมูลเพื่อทานข้าวกับ Buffett นั้นสร้างขึ้นเพื่อระดมทุนบริจาคให้กับมูลนิธิ Glide Foundation ซึ่งช่วยจัดหาอาหารให้คนยากไร้ -- ผู้แปล)
Huang ยังคงชื่นชม Buffett อยู่จนวันนี้ เขายกย่องความพยายามในงานสาธารณกุศลของ Buffett ผ่านบทความในบล็อกส่วนตัว แรงบันดาลใจนี้สะท้อนให้เห็นผ่านแผนธุรกิจในหนังสือชี้ชวนการลงทุนของ Pinduoduo ที่ Huang ตั้งใจจะมอบสัดส่วนหุ้น 2.3% ของบริษัทให้แก่มูลนิธิการกุศล
แปลและเรียบเรียงจาก IPO of Chinese E-commerce Firm Pinduoduo Mints New Young Billionaire โดย Alex Fang