10 สถาบันการศึกษายอดนิยมของมหาเศรษฐีอเมริกันจาก Forbes 400 - Forbes Thailand

10 สถาบันการศึกษายอดนิยมของมหาเศรษฐีอเมริกันจาก Forbes 400

FORBES THAILAND / ADMIN
23 Feb 2018 | 10:20 AM
READ 19078

มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน 400 อันดับแรกของสหรัฐฯ จบการศึกษาจากที่ไหนกันบ้าง? นี่คือโผการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ปั้นเศรษฐีจำนวนมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยนับเฉพาะการศึกษาระดับปริญญาตรีเท่านั้น

อันดับ 1 University of Pennsylvania (18 คน)

ศิษย์เก่าที่จบจากที่นี่ เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump (รวมถึงลูกๆ ของเขา คือ Donald Trump Jr., Ivanka และ Tiffany ล้วนจบจาก UPenn เช่นกัน) และยังมี Steve Cohen มหาเศรษฐีเจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์, Elon Musk ซีอีโอแห่ง Tesla และ SpaceX, Steve Wynn เจ้าพ่อวงการคาสิโน ส่วน Warren Buffett ตำนานนักลงทุนเคยเรียนที่ UPenn 2 ปี ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่ University of Nebraska ที่รัฐ Omaha บ้านเกิดของเขา  

อันดับ 2 Stanford University (13 คน)

Stanford พุ่งขึ้นมาบนโผนี้จากสถานที่ที่ใกล้ชิดกับ Silicon Valley มหาวิทยาลัยแห่งนี้ผลิตมหาเศรษฐีจากธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมาก เช่น Brian Acton ผู้ถูกปฏิเสธจาก Facebook และไปร่วมก่อตั้ง Whatsapp, Bobby Murphy ผู้ร่วมก่อตั้ง Snapchat เมื่อปี 2011 พวกเขาทั้งคู่เคยเดินอยู่ในโถงมหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์  

อันดับ 3 Yale University (13 คน)

อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยจาก Ivy League มีมหาเศรษฐีที่จบจากที่นี่ เช่น Stephen Schwarzman ซีอีโอของ Blackstone, Fred Smith ผู้ก่อตั้ง FedEx ซึ่ง Smith เริ่มออกแบบธุรกิจชิปปิ้งสไตล์ FedEx ตั้งแต่เรียนปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัย แต่ศาสตราจารย์ที่ปรึกษาของเขากลับไม่เห็นด้วยและไม่ให้เกรดเอกับเขา อย่างไรก็ตาม ช่วงสิ้นปีงบประมาณ 2017 FedEx ทำรายได้พุ่งเกินกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกไปเรียบร้อยแล้ว  

อันดับ 4 University of Southern California หรือ USC (11 คน)

USC มีบัณฑิตที่กลายเป็นเศรษฐีที่แตกต่างหลากหลายมากที่สุด ย้อนไปในปี 1966 George Lucas ผู้สร้าง Star Wars จบการศึกษาจากที่นี่ในสาขาศิลปะภาพยนตร์ 20 ปีต่อมา Mark Benioff ผู้ก่อตั้ง Salesforce จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ และไม่กี่ปีต่อมา Mark Stevens ซึ่งปัจจุบันเป็นนักลงทุนเวนเจอร์แคปิตอลแห่ง Silicon Valley ก็จบปริญญาตรีควบ 2 ใบในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและเศรษฐศาสตร์  

อันดับ 5 Harvard University (11 คน)

เศรษฐีที่ติดอันดับส่วนใหญ่จบปริญญาโทจาก Harvard แต่ในมุมของการศึกษาระดับปริญญาตรีนั้นอาจจะมีไม่มากเท่า 4 อันดับด้านบน โดยมีเศรษฐีอเมริกันที่จบปริญญาตรีจาก Harvard เช่น Nathan Blecharczyk ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb, Steve Ballmer อดีตซีอีโอของ Microsoft รวมถึงมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง Bill Gates และ Mark Zuckerberg (ที่ขอลาออกไปกลางทาง)  

อันดับ 6 Columbia University (8 คน)

ทำเนียบศิษย์เก่าผู้ร่ำรวยของที่นี่ เช่น Robert Kraft เจ้าของทีม New England Patriots และ Jerry Speyer เศรษฐีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท Tishman Speyer ของเขาคือเจ้าของตึกอันโด่งดังอย่าง Rockefeller Center และตึก Chrysler ใน Manhattan โดยเขาจบจาก Columbia เมื่อปี 1962 ในสาขาภาษาเยอรมัน  

อันดับ 7 University of Michigan (7 คน)

เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลชายฝั่งแห่งเดียวที่ไต่อันดับมาขนาดนี้ ศิษย์เก่าที่รวยที่สุดของ Michigan คือ Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เขาจบปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมศาสตร์เมื่อปี 1995 ก่อนจะเรียนต่อจนจบปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Stanford อีกหนึ่งเศรษฐีชื่อดังคือ Stephen Ross เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลอย่าง Miami Dolphins โดยเขาจบสาขาบริหารธุรกิจ  

อันดับ 8 Dartmouth College (7 คน)

Leon Black ผู้ร่วมก่อตั้ง Apollo Global Management จบจากที่นี่ในสาขาปรัชญาเมื่อปี 1973 และในปีเดียวกันนั้นเอง Trevor Rees-Jones ผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจน้ำมันและก๊าซก็เรียนจบในสาขาประวัติศาสตร์  

อันดับ 9 Duke University (6 คน)

เศรษฐีคนดัง เช่น J.B.Pritzker จบจาก Duke ในปี 1987 ในสาขารัฐศาสตร์ และเขายังคงใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างเต็มที่เพราะเขากำลังทำแคมเปญหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ Illinois หวังว่าการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2018 จะทำให้ตัวเขาจากพรรคเดโมแครตเอาชนะผู้ว่าฯ คนก่อนคือ Bruce Rauner จากพรรครีพับลิกันได้ เศรษฐีคนอื่นๆ ที่เป็นศิษย์เก่ายังมี Marijke Mars ทายาทของอาณาจักรขนมหวาน Mars และ David Rubenstein ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไพรเวทอิควิตี้ Carlyle Group  

อันดับ 10 Cornell University (6 คน)

Cornell ต้องขอบคุณ SC Johnson ยักษ์ใหญ่วงการอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เข้ามาเรียนที่นี่ เพราะหลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็มาเรียน Cornell กันหมด ได้แก่ลูกของเขาทั้งสามคน และน้องชายคนเล็ก Winifred Johnson-Marquart ก็ด้วย แม้ว่าจะขอพักการเรียนไปก็ตาม   และมีเศรษฐีอเมริกันที่เรียนในมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีก 218 คน เก็บสถิติจากฐานข้อมูลจากจำนวนสมาชิก 318 คนของ Forbes 400  
คลิกอ่านบทความทางธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ใน นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มกราคม 2561 ในรูปแบบ E-Magazine