JIN KIM หนุ่มไอทีชาวเกาหลีใต้ วัย 28 ปี คือ ผู้ร่วมก่อตั้งเทคโนโลยี AI ‘LinqAlpha’ เขาบอกว่า นี่คือ AI ระดับแถวหน้าของวงการ เพราะช่วยย่นเวลาการค้นคว้าข้อมูลบริษัทกว่า 60,000 แห่งใน 80 ตลาด และต้องใช้ถึง 20 ภาษา กลั่นกรองข้อมูลปริมาณมหาศาลเพื่อตอบโจทย์นักลงทุน
เดือนพฤษภาคมปี 2024 ที่ผ่านมา Jin Kim จับมือกับ Subeen Pang วัย 32 ปี และศิษย์เก่า Forbes Under 30 อย่าง Hojun Choi วัย 31 ปี (รุ่นปี 2023) กับ Chanyeol Choi วัย 33 ปี (รุ่นปี 2021) จัดทำข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพื่อนำเสนอให้ถึงมือบรรดานักลงทุน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบรรดาผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์
แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบสมาชิกของพวกเขานำ AI เข้ามาช่วยย่นระยะเวลาการค้นคว้าข้อมูลบริษัทกว่า 60,000 แห่งใน 80 ตลาด ซึ่งใช้ถึง 20 ภาษา และต้องกลั่นกรองข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ รายงานทางการเงินและผลกำไรสุทธิ บันทึกการสนทนาในที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมถึงไฟล์ทั้งรูปแบบข้อความ PDF และข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ “สิ่งที่เราทำคือ การนำอัลกอริทึมมาจำลองกระบวนการคิดของนักวิเคราะห์ในกองทุนเฮดจ์ฟันด์" Kim กล่าว
LinqAlpha มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Seoul และมีสาขาที่ New York สามารถระดมทุนรอบ seed ได้ 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว จากนักลงทุน เช่น บริษัท VC สัญชาติเกาหลีใต้ อย่าง Atinum, InterVest, Kakao Ventures และ Smilegate Investment อดีตนักวิจัยเชิงปริมาณที่สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านวิศวกรรมการเงินจาก University of California, Berkeley อย่าง Kim รับหน้าที่หัวหน้าทีมวิศวกรรมวิจัยพื้นฐานของ LinqAlpha
สตาร์ทอัพแห่งนี้ที่อ้างว่า ลูกค้ามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญ ต้องเผชิญการแข่งขันอย่างหนักหน่วงในตลาดการวิเคราะห์วิจัยข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ซึ่งคู่แข่งมียักษ์ใหญ่ด้านข้อมูลทางการเงินอย่าง Bloomberg รวมอยู่ด้วย Kim กล่าวว่า LinqAlpha โดดเด่นกว่าโมเดล AI ที่เน้นการใช้งานด้านตราสารทุนอื่นๆ ตรงที่ครอบคลุมบริษัทนอกสหรัฐฯ มากกว่า และยังปรับแต่งการค้นคว้าข้อมูลได้ตามความต้องการของลูกค้าเพื่อให้เหมาะกับกลยุทธ์ของแต่ละราย "ถือว่าเราเป็นแถวหน้าของวงการนี้" เขาสำทับ
เรียบเรียงโดย : John Kang
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จากมือเทียม สู่อาณาจักรหุ่นยนต์ ผลงาน Yi Gang สตาร์ทอัพชาวจีน
