ในปี 2023 สถานการณ์สายเทคยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ ยิ่งใหญ่มากก็ยิ่งเสียมาก หลังการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่เคยรุ่งโรจน์เมื่อปี 2021 ตอนนี้บรรดามหาเศรษฐีสายเทคของโลกยังคงต้องเผชิญกับอีกปีอันยากลำบาก ลดลงทั้งตัวเลขและสินทรัพย์โดยรวมอ้างอิงจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2023 ของ Forbes
ในปีนี้ Forbes พบว่ามีมหาเศรษฐี 313 รายที่ร่ำรวยจากเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 332 คน ความมั่งคั่งสุทธิของพวกเขาทั้ง 313 คนคิดเป็นมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2 แสนล้านเหรียญจากปีที่ผ่านมาที่ 2.1 ล้านล้านเหรียญ
จำนวนตัวเลขที่น้อยลงสะท้อนตลาดเทคที่กำลังปรับตัวลดลงจากที่ทะยานแตะจุดสูงสุดในปี 2021 ซึ่ง Forbes คำนวณรวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีสายเทค 365 คนคิดเป็นมูลค่า 2.5 ล้านล้านเหรียญ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
แต่ทางภาคเทคโนโลยีก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไม่มีภูมิต้านทานความวิตกกังวลวงกว้างเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และความกลัวเศรษฐกิจถดถอย นี่ยังไม่รวมถึงความพยายามของรัฐบาลในการขัดแข้งขัดขาเหล่าผู้ทรงอิทธิพลด้านเทคโนโลยีทั้งหลายของจีน
งานนี้ไม่มีใครสูญเสียมากไปว่า Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ซึ่งจนลงกว่าปีก่อน 5.7 หมื่นล้านเหรียญอันเป็นผลมาจากหุ้นบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่เขาครอบครองตกฮวบ 38 เปอร์เซ็นต์ ทาง Amazon ซึ่งเคยเร่งจ้างพนักงานเพิ่มให้เพียงพอต่อการเติบโตในช่วงโควิด-19 ระบาดกลับพลิกมาปลดพนักงานออก 27,000 คนตามที่มีประกาศในช่วงต้นปี 2023
ด้าน อดีตภรรยาของเขา MacKenzie Scott ซึ่งได้รับส่วนแบ่งหุ้นของ Bezos จำนวนหนึ่งในสี่จากการหย่าร้างในปี 2019 และได้ใช้เงินมหาศาลในเวลาเพียงสั้นๆ ก็สูญทรัพย์ไปมากเช่นกัน โดยคิดเป็นมูลค่า 1.92 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหมดไปกับการบริจาคให้องค์กรการกุศลต่างๆ
ยักษ์ใหญ่สายเทครายอื่นๆ ที่มูลค่าทรัพย์สินดิ่งหนักยังมี Larry Page และ Sergey Brin แห่ง Google ที่ลดลง 3.18 หมื่นล้านเหรียญและ 3.1 ล้านเหรียญตามลำดับ เช่นเดียวกับ Bill Gates และ Steve Ballmer แห่ง Microsoft ที่สินทรัพย์ลดลง 2.5 หมื่นล้านเหรียญและ 1.07 หมื่นล้านเหรียญตามลำดับ
โดยต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ทาง Microsoft มีการประกาศลดพนักงาน 10,000 คน ส่วน Alphabet บริษัทแม่ของ Google ก็ประกาศลดพนักงานมากถึง 12,000 คน นับเป็นการปลดพนักงานจำนวนมหาศาล
ไม่เพียงแต่บริษัทเทคที่มีหุ้นใหญ่ในตลาดเท่านั้นที่ได้ลิ้มรสความสูญเสีย ยูนิคอร์นหรือบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญขึ้นไปต่างก็ต้องดิ้นรนกันในปีนี้ เมื่อเงินร่วมลงทุนเริ่มจะเหือดแห้งและมูลค่าประเมินของบริษัทก็ตกลง โดยบรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทยูนิคอร์นคือกลุ่มมหาเศรษฐีที่สูญเสียทรัพย์สินไปมากที่สุดตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อวัดจากเปอร์เซ็นต์ความมั่งคั่งสุทธิ
กรณีที่เห็นได้ชัดคือ John และ Patrick Collison สองผู้ก่อตั้ง Stripe ซึ่งระดมทุนได้ 5 หมื่นล้านเหรียญในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลดลง 47 เปอร์เซ็นต์จากการระดมทุนคราวที่แล้วในเดือนมีนาคมปี 2021 อีกคู่หนึ่งคือ Melanie Perkins และ Cliff Obrecht จากบริษัทออกแบบกราฟิก Canva ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินลดลงราวครึ่งหนึ่งจากจุดสูงสุดในเดือนกันยายนปี 2021 จากการประเมินของ Forbes
เหล่ามหาเศรษฐียูนิคอร์นทั้งสี่คนที่กล่าวมาต่างต้องทนเห็นความมั่งคั่งของตนตกลงมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของ Forbes ในปี 2022
โดยรวมแล้ว Forbes พบว่าผู้ก่อตั้งบริษัทยูนิคอร์น 51 คนต่างก็จนลงกว่าเมื่อปี 2022 และอย่างน้อย 19 คนก็หลุดจากการเป็นมหาเศรษฐีพันล้านไปอย่างน่าเสียดาย
ใช่ว่าเทคโนโลยีไม่อาจเป็นแหล่งสร้างความร่ำรวยได้อีกต่อไป ธุรกิจสายนี้ครองความนิยมในหมู่มหาเศรษฐีเป็นอันดับสาม และยังคงเป็นธุรกิจที่รวมความมั่งคั่งเอาไว้มากที่สุด โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเหล่ามหาเศรษฐีสายเทคมีมากกว่ามหาเศรษฐีสายแฟชั่นและรีเทลที่เป็นลำดับถัดมาถึง 1.7 แสนล้านเหรียญ
Forbes Thailand ขอนำเสนอมหาเศรษฐีสายเทค 10 คนที่มีมูลค่าทรัพย์สินลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาให้ผู้อ่านได้รับรู้กัน สาเหตุหลักมาจากหุ้นที่พวกเขาถือครองมีมูลค่าลดลงมหาศาลด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเหล่านี้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2023 เปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมปี 2022
Jeff Bezos
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.14 แสนล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 5.7 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Amazon
Jeff Bezos จนลงกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว 5.7 หมื่นล้านเหรียญ มากกว่าใครทั้งหมดในรายชื่อที่คัดสรรมา ต้องขอบคุณราคาหุ้น Amazon ที่ร่วงลงถึงหนึ่งในสามอย่างสุดซึ้ง
หลังก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Amazon ในปี 2021 เขาก็ทะยานสู่อวกาศกับบริษัท Blue Origin ของเขา แล้วยังสร้างกระแสกับเรือซูเปอร์ยอช์ตมูลค่า 500 ล้านเหรียญที่กำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์
รวมไปถึงยกระดับการทำการกุศลผ่านการสนับสนุนกลุ่มต่างๆ เช่น Bezos Academy โรงเรียนเตรียมอนุบาลที่เปิดให้เรียนฟรี และเงินทุนช่วยเหลือจาก Bezos Earth Fund
Larry Page
มูลค่าทรัพย์สิน: 7.92 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 3.18 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Google
Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้ง Google บอกลางานประจำวันที่บริษัทในปี 2019 แต่เมื่อปลายปี 2022 เขาก็กลับมาเข้าร่วมการประชุมกลยุทธ์ร่วมกับอีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้ง Sergey Brin เพื่อรับมือกับ ChatGPT ในการแข่งขัน Generative AI อันดุเดือด Page หยุดขายหุ้นในมือหลังปล่อยไปมากกว่า 2.5 พันล้านเหรียญ (ก่อนหักภาษี) ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเมษายน 2022 โดยเขาไม่ได้ขายหุ้นเลยตั้งแต่พบว่ามูลค่าทรัพย์สินของตนลดลงเพราะหุ้น Google ตกไป 30 เปอร์เซ็นต์
Bill Gates
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.04 แสนล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 2.5 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Microsoft
Gates ยังคงใช้เวลา 10 เปอร์เซ็นต์ทำงานร่วมกับทีมต่างๆ ที่ Microsoft แม้ว่าจะก้าวลงจากคณะกรรมการบริหารในปี 2020 เขาเป็นเจ้าของหุ้นราว 1 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทซึ่งมีมูลค่าตกลงมา 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่ผ่านมา
แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ความมั่งคั่งสุทธิของเขาลดลงอย่างมากคือ ในเดือนมิถุนายน Gates ประกาศบริจาคเงิน 2 หมื่นล้านเหรียญให้กับมูลนิธิ Gates Foundation ที่เขาร่วมเป็นประธานกับอดีตภรรยา Melinda French Gates โดยทั้งคู่วางแผนจะหาทางลงภายใน 25 ปี
MacKenzie Scott
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.44 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 1.92 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Amazon
Scott ใช้จ่ายไปมากกว่า 1.4 หมื่นล้านเหรียญหลังการหย่ากับ Jeff Bezos ในปี 2019 โดยเพียงแค่การบริจาคในปี 2022 เธอก็ทุ่มเงินไปมากเกือบ 6 พันล้านเหรียญ ในเดือนธันวาคมเธอได้ทำตามสัญญาที่ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดการบริจาคทั้งหมดของเธอ ณ ขณะนี้บนเว็บไซต์ Yield Giving ซึ่งมีรายชื่อกลุ่มต่างๆ ที่เธอเคยบริจาคให้ถึง 1,600 กลุ่ม
Steve Ballmer
มูลค่าทรัพย์สิน: 8.07 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 1.07 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Microsoft
ความมั่งคั่งของ Ballmer ตกฮวบพร้อมๆ กับมูลค่าหุ้น Microsoft ที่ลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ โชคดีที่ L.A. Clippers ทีมบาสเกตบอลซึ่งมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 6 ใน NBA ที่เขาครอบครองอยู่กำลังไปได้ดี เขาใช้เงินทุนส่วนตัวสร้างสนามกีฬา (ที่มีห้องน้ำถึง 1,200 ห้อง) ให้กับทีมดังกล่าวโดยมีแผนว่าจะแล้วเสร็จในปี 2024
Michael Dell
มูลค่าทรัพย์สิน: 5.01 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 5 พันล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Dell Technologies
Michael ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Dell และซีอีโอแห่งสำนักงานครอบครัว MSD Partners ซึ่งเติบโตมาเป็นบริษัทด้านการลงทุนและให้คำปรึกษารายใหญ่ ทางบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญ และได้ควบรวมกิจการกับ BDT & Co. ของ Byron Trott ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Dell ยังคงจนลงกว่าเดิม 5 พันล้านเหรียญในปีนี้หลังหุ้น Dell Technologies ตกลง 27 เปอร์เซ็นต์
Zhang Yiming
มูลค่าทรัพย์สิน: 4.5 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 5 พันล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: TikTok
ผู้ก่อตั้ง ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอในเดือนพฤษภาคม 2021 และออกจากคณะกรรมการบริหารต่อจากนั้นไม่นานซึ่งมีรายงานว่าเป็นเพราะแรงกดดันจากรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตามความมั่งคั่งของเขายังคงขึ้นอยู่กับหุ้น ByteDance ซึ่งต้องเผชิญการสอบสวนอย่างหนักจากรัฐสภาสหรัฐเกี่ยวกับบริษัทลูก TikTok และการจัดการข้อมูลของทางบริษัท
มีรายงานในเดือนมีนาคมว่า G42 บริษัทปัญญาประดิษฐ์ซึ่งมีฐานที่ตั้งในเมืองอาบูดาบีได้เข้าซื้อหุ้นของ ByteDance คิดเป็นมูลค่า 2.20 แสนล้านเหรียญ ตำกว่ามูลค่าประเมินที่ 3 แสนล้านเหรียญที่มีการเปิดเผยในการซื้อหุ้นคืนช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2022
Laurene Powell Jobs และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.2 หมื่นล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 4.4 พันล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Apple และ Disney
Powell Jobs ลงทุนใน Stripe, Handshake และบริษัทยูนิคอร์นอื่นๆ กระจายไปในวงธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่เทคโนโลยีรักษ์โลกและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพตลอดจนสื่อและการศึกษาผ่านทางบริษัท Emerson Collective ของเธอ ทว่าความมั่งคั่งส่วนมากของเธอยังคงผูกกับหุ้น Apple และ Disney ที่ตกทอดมาจากสามีผู้ล่วงลับของเธอ Steve Jobs ซึ่งตกลง 3 เปอร์เซ็นต์และ 29 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
Kim Beom-su
มูลค่าทรัพย์สิน: 5 พันล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: 4.1 พันล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Kakao
ผู้ก่อตั้ง Kakao บริษัทอินเทอร์เน็ตสัญชาติเกาหลีใต้ เจ้าของแอปสนทนา KakaoTalk และเทคโนโลยีการเงิน Kakao Pay ก้าวลงจากตำแหน่งประธานเมื่อปีที่ผ่านมาท่ามกลางการตรวจสอบเพื่อป้องกันการผูกขาดและข้อกล่าวหาว่ามีการเลี่ยงภาษี (Kakao ปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยให้เหตุผลว่า “ไม่มีมูลความจริง” ซึ่งต่อมาข้อกล่าวหานี้ก็ถูกปัดตกโดยสำนักงานภาษีแห่งชาติเกาหลี) ความมั่งคั่งของ Kim ลดลง 45 เปอร์เซ็นต์จากการที่มูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีของ Kakao Corp. ตกฮวบ
John และ Patrick Collison
มูลค่าทรัพย์สิน: คนละ 5.5 พันล้านเหรียญ
ลดลงจากปีที่ผ่านมา: คนละ 4 พันล้านเหรียญ
แหล่งความมั่งคั่ง: Stripe
สองพี่น้อง Collison ก่อตั้งบริษัทยูนิคอร์นเกี่ยวกับระบบการชำระเงิน Stripe ซึ่งทะยานสู่จุดสูงสุดในปี 2021 ที่มูลค่าประเมิน 9.5 หมื่นล้านเหรียญ หลังจากปลดพนักงานออก 1,000 คนเมื่อปลายปี 2022 ทาง Stripe ก็ระดมทุน 6.5 พันล้านเหรียญ ทำให้บริษัทมีมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญจากการประเมินในเดือนมีนาคม ลดลงจากคราวที่แล้วถึง 47 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้งคู่ต่างก็ถือหุ้น Stripe กันคนละ 11 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ
แปลและเรียบเรียงโดย พรรณราย ดวงดีเด่น จากบทความ Tech Billionaires Lost Another $200 Billion In 2023. Here s Who Dropped The Most ซึ่งเผยแพร่บน forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: "คาร์เทียร์" ประกาศรายชื่อ 33 ผู้คว้ารางวัล Cartier Women s Initiative 2023
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine