การจัดอันดับมหาเศรษฐีมาเลเซียของ Forbes ประจำปี 2023 ทั้ง 50 คนประจำปีนี้ โดยลำดับต้นๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไรนัก เพราะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในมาเลเซียยังคงเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล อย่าง Robert Kuok ที่ครองตำแหน่งนี้มายาวนานกว่า 25 ปี และกำลังจะฉลองวันเกิดปีที่ 100 ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
หลังจีดีพีโต 8.7% ในปี 2022 อันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศที่เด้งกลับขึ้นมา มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียจะเติบโตในอัตราสม่ำเสมอยิ่งขึ้นในปีนี้ แม้จะมีการฟื้นฟูหลังเผชิญโควิด-19 ระบาดหนัก ตลาดหุ้นมาเลเซียตกลง 8% หลังจากที่มีการบันทึกความมั่งคั่งคราวก่อน ค่าเงินริงกิตเองก็ลดลงเกือบ 2% อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีผลต่อทรัพย์สินโดยรวมของ 50 มหาเศรษฐีแห่งมาเลเซียซึ่งมีมูลค่าถึง 8.16 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับด้านบนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากในปี 2022 นักธุรกิจทรงอิทธิพล Robert Kuok ผู้กำลังจะฉลองวันเกิดปีที่ 100 ในเดือนตุลาคม คือบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในมาเลเซีย เขาครองตำแหน่งนี้มายาวนานกว่า 25 ปี Kuok คือผู้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อคิดคำนวณเป็นเหรียญ และเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีหลักหมื่นล้านเหรียญเพียงสองคนของปีนี้ โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Kuok อยู่ที่ 1.18 หมื่นล้านเหรียญ
มหาเศรษฐีหมื่นล้านอีกคนคือ Quek Leng Chan ประธานกรรมการบริหารของบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ Hong Leong Group ฝั่งมาเลเซีย โดยครองอันดับ 2 ในรายชื่อด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ขยับขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านเหรียญ
โดยภาพรวมแล้ว มี 19 คนในรายชื่อที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น และเกือบครึ่งความมั่งคั่งถดถอยลง แต่แม้จะอยู่ในประเภทหลัง เจ้าพ่ออุตสาหกรรมโลหะ Koon Poh Keong พร้อมด้วยพี่น้องของเขาก็ยังคงครองอันดับ 3 มูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาอยู่ที่ 5.8 พันล้านเหรียญ ถือว่าตกลงเกือบ 7% จากปีก่อน สอดคล้องกับการที่หุ้นของ Press Metal Aluminium Holdings บริษัทผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตกลงท่ามกลางสถานการณ์ที่ราคาค่าวัตถุดิบและเรือขนส่งสินค้าแพงขึ้น
ฝั่งมหาเศรษฐีที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือพ่อลูก Yaw Teck Seng และ Chee Ming ผู้ดำเนินการบริษัทค้าไม้รายใหญ่ Samling พวกเขากระโดดจากอันดับ 32 ในปีที่แล้วสู่อันดับ 16 ในปีนี้ด้วยความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าทำให้มูลค่าทรัพย์สินของพวกเขาอยู่ที่ 1.25 พันล้านเหรียญอ้างอิงจากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของพวกเขา
ด้านอดีตอาจารย์คณิตศาสตร์ Chia Song Kun ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทอาหารทะเล QL Resources ของครอบครัว ได้หวนคืนสู่การจัดอันดับอีกครั้งหลังห่างหายไปถึงเจ็ดปี จากมูลค่าหุ้นบริษัทที่เพิ่มขึ้นเกือบ 20% และการรวมหุ้นที่ครอบครัวของเขาถืออยู่เข้ามา
สองนักธุรกิจใหญ่ผู้ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนนอกตลาดมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมหาศาลจากข้อตกลงสำคัญ Syed Azman Syed Ibrahim เจ้าของ Western Aviation ซึ่งให้บริการเฮลิคอปเตอร์นอกชายฝั่งใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียแปซิฟิกได้ซื้อคืนหุ้น 21% ของบริษัทด้านการลงทุน KKR และมีทรัพย์สินรวม 825 ล้านเหรียญในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นมา 27% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนอีกคนหนึ่งคือ David Kong ผู้ก่อตั้งบริษัท Nirvana Asia บริษัทที่ให้บริการทำพิธีส่งผู้วายชนม์ ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทด้านการลงทุน CVC Capital Partners มีแผนขายหุ้นของ Nirvana Asia ที่ถือไว้โดยมีการประเมินมูลค่าไว้ที่ 2 พันล้านเหรียญ
สำหรับหน้าใหม่ในปีนี้ ได้แก่ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ Chiau Beng Teik ผู้ก่อตั้งบริษัท Chin Hin Group, Yu Kuan Chon ผู้เรียนจบแพทย์แต่ผันตัวมาดูแลกิจการอสังหาริมทรัพย์ YNH Property ของครอบครัว, Ong Soon Ho ผู้ก่อตั้งบริษัทเคมีเกษตร Hextar, Goh Nan Kioh ผู้ครอบครองบริษัทด้านการลงทุน Mega First และถือหุ้น D&O Green Technology ซึ่งผลิตไฟ LED สำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ และสุดท้ายคือลูกๆ ของผู้อาวุโสแห่งวงการธนาคาร Teh Hong Piow ผู้ก่อตั้ง Public Bank ซึ่งเสียชีวิตในเดือนธันวาคม 2022 ด้วยวัย 92 ปี
มีห้าคนจากปีที่แล้วที่หลุดอันดับไปเนื่องจากความมั่งคั่งสุทธิต่ำสุดขยับขึ้นจาก 255 ล้านเหรียญในปี 2022 มาเป็น 325 ล้านเหรียญในปีนี้
สำหรับ 10 อันดับแรกของมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศมาเลเซียประจำปี 2023 มีดังนี้

อันดับ 1
Robert Kuok
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.18 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: หลากหลาย
มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในมาเลเซียผู้ก่อตั้ง Kuok Group บริษัทที่ดำเนินธุรกิจทั้งโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าโภคภัณฑ์ หนึ่งในโรงแรมหรูระดับนานาชาติที่เขาสร้างขึ้นคือ Shangri-La โดย Kuok เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจของเขาในปี 1949 จากการค้าข้าว น้ำตาล และแป้งสาลี

อันดับ 2
Quek Leng Chan
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.02 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: หลากหลาย
ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ Hong Leong Co. แห่งประเทศมาเลเซียซึ่งดำเนินธุรกิจทั้งการเงิน อาหาร และอสังหาริมทรัพย์ เขารับมรดกส่วนหนึ่งมาจากพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 1941 ร่วมกับพี่น้อง ญาติของเขา Kwek Leng Beng เองก็เป็นมหาเศรษฐีและบริหาร Hong Leong Group ในประเทศสิงคโปร์

อันดับ 3
Koon Poh Keong และพี่น้อง
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.8 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การผลิต
Koon Poh Keong ร่วมก่อตั้งบริษัท Press Metal Aluminium Holdings กับพี่น้องสี่คนในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาเลเซียกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย วันนี้ Press Metal กลับกลายเป็นผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อันดับ 4
Ananda Krishnan
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.4 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: โทรคมนาคม
Ananda Krishnan เป็นมหาเศรษฐีชาวมาเลเซียเชื้อสายทมิฬ จบปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจาก Harvard Business School และเคยเป็นผู้ค้าน้ำมันมาก่อน เขาถือหุ้นในบริษัทคมนาคม Maxis และ Astro Malaysia Holdings และบริษัทให้บริการเกี่ยวกับแหล่งผลิตน้ำมัน Bumi Armada

อันดับ 5
พี่น้อง Teh
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.2 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
พี่น้อง Teh คือทายาทของ Teh Hong Piow ผู้ก่อตั้งและบริหารสถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย Public Bank มานานหลายทศวรรษ หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงด้วยวัย 92 ปีในเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา

อันดับ 6
Lee Yeow Chor และ Yeow Seng
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 4.6 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
Lee Yeow Chor และ Lee Yeow Seng คือลูกชายของ Lee Ching Shin Cheng ผู้ก่อตั้งบริษัท IOI Group ซึ่งทำธุรกิจน้ำมันปาล์มและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลังเขาเสียชีวิตด้วยวัย 79 ปีเมื่อเดือนมิถุนายน 2019 ทั้งสองได้รับมรดกหุ้น IOI Group จากพ่อของพวกเขา
โดยปัจจุบัน Lee Yeow Chor ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ IOI Corporation ส่วน Lee Yeow Seng ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร IOI Properties

อันดับ 7
Chen Lip Keong
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.8 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การพนันและคาสิโน
เจ้าของ NagaWorld ซึ่งได้รับใบอนุญาตเปิดคาสิโนในพนมเปญเมืองหลวงของประเทศกัมพูชาจนถึงปี 2065 โดย NagaWorld เป็นกาสิโนรีสอร์ตที่ใหญ่ที่สุดในอินโดจีน
บริษัท NagaCorp เป็นบริษัทคาสิโนรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเป็นรายแรกที่มีการทำธุรกิจอยู่ในกัมพูชาเสียส่วนใหญ่

อันดับ 8
Lim Kok Thay
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.3 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การพนันและคาสิโน
ประธานบริษัท Genting ซึ่งดำเนินธุรกิจกาสิโนและรีสอร์ตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร ผู้ก่อตั้ง Genting ในปี 1965 คือ Lim Goh Tong พ่อของเขาที่ต้องการสร้างรีสอร์ตบนภูเขาในมาเลเซีย

อันดับ 9
Tan Yu Yeh, Yu Wei และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.9 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: แฟชั่นและค้าปลีก
สองพี่น้อง Tan Yu Yeh และ Yu Wei สร้างความมั่งคั่งจากการถือหุ้น Mr. D.I.Y. Group ธุรกิจขายอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านซึ่ง Tan Yu Yeh เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 2005
ปัจจุบัน Mr. D.I.Y. มีร้านราว 2,000 สาขาทั่วเอเชีย โดยมีสินค้าสิบหมวดหมู่ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องเขียน และของเล่น

อันดับ 10
Chia Song Kun และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.8 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
Chia Song Kun คือประธานกรรมการบริหารบริษัทผลิตอาหารทะเล QL Resources เขาก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 1985 ร่วมกับน้องชายทั้งสอง Song Kooi และ Song Swa
QL Resources มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย โดยเป็นผู้ผลิตซูริมิหรือเนื้อปลาบดไร้ก้างที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ดำเนินการร้านสะดวกซื้อ FamilyMart ในมาเลเซีย
รายงานโดย Jonathan Burgos, Gloria Haraito, Anis Shakirah Mohd Muslimin, Phisanu Phromchanya, Anuradha Raghunathan และ Jessica Tan
วิธีการจัดทำ
การจัดอันดับนี้มาจากการรวบรวมข้อมูลการถือหุ้นและการเงินจากทั้งครอบครัวและรายบุคคล การซื้อขายหุ้น รายงานประจำปี และการวิเคราะห์ต่างๆ อันดับความมั่งคั่งครั้งนี้นับรวมทั้งรายบุคคลและครอบครัวตลอดจนการแบ่งสรรในกลุ่มเครือญาติ บริษัทเอกชนต่างๆ ได้รับการประเมินมูลค่าโดยอิงจากบริษัทแบบเดียวกันที่เป็นมหาชน มูลค่าสุทธิอ้างอิงจากราคาหุ้นและอัตราการแลกเปลี่ยน ณ เวลาปิดตลาดวันที่ 12 พฤษภาคม 2023
รายชื่อการจัดอันดับยังรวมชาวต่างชาติที่มีธุรกิจ ที่อยู่อาศัย หรือพันธะอื่นๆ ในประเทศ และพลเมืองมาเลเซียที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศแต่มีธุรกิจหรือพันธะอื่นๆ ในประเทศ ทางกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลหรือนำรายชื่อใดรายชื่อออกหากมีข้อมูลใหม่
แปลและเรียบเรียงโดย พรรณราย ดวงดีเด่น จากบทความ Malaysia 50 Richest 2023: Five Newcomers Add A Fresh Dimension To The Ranks ซึ่งเผยแพร่บน forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: 10 แบรนด์ดังฉลอง Pride Month 2023 สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine