WOMEN are FOREVER – A vintage Cartier Collection เรือนเวลาสุภาพสตรีระดับตำนานจากทั่วทุกมุมโลก - Forbes Thailand

WOMEN are FOREVER – A vintage Cartier Collection เรือนเวลาสุภาพสตรีระดับตำนานจากทั่วทุกมุมโลก

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Nov 2021 | 05:00 PM
READ 5949

Lotus Arts de Vivre ร่วมกับ Obsidian Objets d’ Art จัดนิทรรศการแสดงประวัติศาสตร์เรือนเวลาซีรี่ย์ที่ 3 ในชื่อ Lotus Arts de Vivre x Obsidian Objets d’Art : WOMEN are FOREVER – A vintage Cartier Collection

Nicki von Bueren และสิริยส เทพหัสดิน ณ อยุธยา
หนึ่งในนิทรรศการห้ามพลาดประจำปีอันรวบรวมเรือนเวลาสุภาพสตรีระดับตำนานที่ใช้เวลาเสาะหามาอย่างยาวนานจากทั่วทุกมุมโลก และเรียกได้ว่าหาดูชมได้ยากกว่า 34 เรือน มาให้เหล่าคาร์เทียร์เลิฟเวอร์และนักสะสมของวินเทจชาวไทยได้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงมีโอกาสได้ครอบครองอีกด้วย แน่นอนว่าแต่ละชิ้นถูกเก็บรักษาและคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดย Hon. Harry Fane เจ้าของแบรนด์ Obsidian Objets d’ Art นักสะสมและผู้เชี่ยวชาญด้าน “Cartier Vintage” ระดับโลก ร่วมด้วย Francesca Cartier Brickell ทายาทคาร์เทียร์รุ่นที่ 6 และนักเขียนเจ้าของผลงาน The Cartiers: The Untold Story of the Family Behind the Jewelry Empire ที่มาเผยเบื้องหลังเกี่ยวกับตระกูล Cartier และถ่ายทอดเรื่องราวของ Cartier Vintage ในแง่มุมของผู้หญิงที่คุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน  อาทิ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนนับตั้งแต่วันแรก ๆ ของศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 21 นั่นก็คือ สุภาพสตรีมักสวมใส่นาฬิกาข้อมือเสมอ ทั้งที่ความเป็นจริงในยุคก่อนเพียงแค่สุภาพสตรีเหลือบมองดูเวลาบนข้อมือ ก็ถือว่าเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมากแล้วก็ตาม WOMEN are FOREVER ด้วยเหตุนี้กิมมิคของนิทรรศการครั้งนี้จึงต่างไปจาก 2 ครั้งก่อน โดยโฟกัสไปที่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 20 ผ่านเรือนเวลาสุภาพสตรี ที่สร้างสรรค์โดยแบรนด์เครื่องประดับระดับตำนานที่เป็น “ผู้ผลิตเครื่องประดับให้ราชา และเป็นราชาแห่งเครื่องประดับ” อย่าง Cartier “Never copy, only create” Francesca Cartier Brickell กล่าวพร้อมตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Cartier สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ผลงานในอดีตทุกชิ้นจึงถ่ายทอดแรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบตัว ไม่ใช่จากชิ้นงานที่มีอยู่ฉันเชื่อว่าคุณจะได้ซึมซับชิ้นงานที่วิจิตรตระการตา จากมุมมองอันน่าทึ่งของตระกูล Cartier อย่างแน่นอน  โดยภายในนิทรรศการจะได้พบกับนาฬิกาข้อมือประดับเพชรของช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรื่อยมา จนถึงช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือราวยุค 1915-1930 ครอบคลุมกว่า 14 แบบ ตั้งแต่เรือนเวลาขนาดจิ๋ว ไปจนถึงนาฬิกาข้อมือไซส์ใหญ่ล้อมรอบด้วยเพชร หรือแม้แต่จับคู่ตัวเรือนกับสร้อยข้อมือไข่มุกที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการของนักออกแบบในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแต่ละชิ้นที่แฝงไปด้วยเรื่องราวอันแสนพิเศษ พบกับตัวอย่างเรือนเวลาที่นำมาจัดแสดงภายในงาน พร้อมด้วย Crash ราชาแห่งเรือนเวลาประดับเพชรที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปัจจุบัน WOMEN are FOREVER Diamond Set Wristwatch, 1920 (B.8897) นาฬิกาข้อมือประดับเพชรปี 1920 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่โค้งมนพร้อมตัวเรือนสี่เหลี่ยมแบบโปร่งประดับเพชรโรสคัท ขาตัวเรือนมาในดีไซน์ฉลุพร้อมกับหัวเข็มขัดแบบบานพับประดับเพชรดั้งเดิม ที่สำคัญมาพร้อมกลไกไขลานที่บางมากและเคสที่ออกแบบให้สวมใส่สบาย เรียกได้ว่าเป็นโมเดลที่ดึงดูดความสนใจของเหล่าสุภาพสตรียุคนั้นได้ไม่ยาก เพราะหลอมรวมความหรูหรา ประณีต และมีดีไซน์ ไว้ในเรือนเดียว WOMEN are FOREVER Cartier Diamond and Natural Pearl Lady’s Wristwatch, 1919 (B.8995) แม้ตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ผู้หญิงจะไม่สามารถแม้แต่ชำเลืองมองดูนาฬิกาข้อมือได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เสียมารยาท แต่การวางตำแหน่งหน้าปัดเข็มนาฬิกาเยื้องศูนย์ของเรือนเวลารุ่นนี้ กลับทำให้ผู้หญิงหลายคนบอกเวลาได้ทันทีเพียงแค่เหลือบตามองผ่านอย่างรวดเร็ว โดยโมเดลที่นำมาจัดแสดงถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือประดับเพชรที่ยอดเยี่ยมและหายากที่สุดของ Cartier ในยุค 1920 มาในดีไซน์หน้าปัดโปร่ง ทรงรูปไข่ เข็มนาฬิกาแบบเยื้องศูนย์ ประดับรอบ ๆ ด้วยเพชรโรสคัท มาพร้อมรูปทรงหน้าปัดแบบดั้งเดิมจาก Cartier ทั้งยังผสานลูกเล่นด้วยสายนาฬิกาถักทอด้วยไข่มุกสีเทาบริสุทธิ์และเพชรโรสคัทน้ำงาม WOMEN are FOREVER Antique Diamond Set Cocktail Watch, 1919 (B.8553) ในยุคของเรือนเวลาประดับเพชร แม้จินตนาการต่าง ๆ จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ Cartier กลับสร้างสรรค์เรือนเวลาออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่เรือนเวลาขนาดจิ๋วที่ต้องอาศัยทักษะและความประณีตเป็นอย่างมาก ไปจนถึงนาฬิกาขนาดใหญ่ที่สร้างตัวตนได้อย่างน่าจดจำ โดนเรือนเวลาขนาดจิ๋วนี้ถือเป็นความท้าทายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะขนาดของกลไกที่สร้างความแตกต่างจากเรือนเวลายุคเดียวกันได้อย่างเด่นชัด ทั้งยังเป็นดีไซน์ที่ไม่ว่าเพศไหนต่างจับจ้องที่จะครอบครองทั้งสิ้น โดยโมเดลที่นำมาจัดแสดงนี้ผลิตระหว่างเดือนมีนาคม- เมษายน ปี 1929 ถือเป็นรุ่นที่มีความพิเศษเป็นอย่างมาก เพราะตัวเรือนประดับด้วยเพชรหน้าตัดสี่เหลี่ยมแทนที่จะเป็นแบบทรงกลม ส่งผลให้ประกายงามของเพชรมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร WOMEN are FOREVER Cartier Diamond Crash, 1991 (B.8748) ย้อนกลับไปเมื่อปี 1967 เมื่อ Jacques Cartier ได้เห็นการชนกันของรถบัสสองชั้นและแท็กซี่สีดำในกรุงลอนดอน นำไปสู่การตั้งคำถามในเวิร์คชอปว่า Cartier Tank จะหน้าตาเป็นอย่างไรหากเข้าไปอยู่ในอุบัติเหตุนั้น ซึ่งนักออกแบบได้ระดมความคิดและทำออกมา จนสุดท้ายได้ออกมาเป็นรูปแบบอย่างที่เราเห็นกัน สำหรับโมเดลที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ เป็นตัวเรือนประดับเพชร ผลิตขึ้นที่กรุงปารีสในช่วงต้นยุค 1990 ถือเป็นตัวอย่างชั้นเลิศที่สะท้อนถึงหัตถศิลป์ของ Cartier ณ เวลานั้น โดยนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการระบุผลิตปีราวๆ 1991 WOMEN are FOREVER นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดแสดงเครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจอีกมากมาย ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมชมความงดงามเหนือกาลเวลาของนาฬิกาและเครื่องประดับวินเทจแบรนด์ Cartier ได้ในงาน Lotus Arts de Vivre x Obsidian Objets d’Art : WOMEN are FOREVER – A vintage Cartier Collection ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2021 เวลา 10.30-19.00 น. ณ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-250-0732 อ่านเพิ่มเติม: หลงใหลและลงทุน…ใน “นาฬิกาหรู”