Swarovski ผลิต Wearable ชิ้นหรู แถมไม่ต้องชาร์จไฟ - Forbes Thailand

Swarovski ผลิต Wearable ชิ้นหรู แถมไม่ต้องชาร์จไฟ

FORBES THAILAND / ADMIN
07 Jan 2015 | 11:43 AM
READ 1415

อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ หรือ wearable devices กำลังเป็นเทรนด์ของการใช้เทคโนโลยี IT ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักสุขภาพ และสนใจติดตามการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย

แต่ปัญหาสำคัญของ wearable พวกนี้ ก็คือต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน การจะให้ผู้ใช้เสียบปลั๊กชาร์จไฟบ่อยๆ หรือต้องคอยเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ สองสามเดือนหน ไม่น่าจะเป็นผลดีในระยะยาว  ผู้ผลิต wearable หลายรายพยายามจะบอกว่า อุปกรณ์ของเขาสามารถชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ยังไม่เห็นรายใดประสบความสำเร็จด้วยดีเลย ทว่าวันนี้ Swarovski ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีระดับโลกอายุ 120 ปี ได้จับมือ Misfit Wearables หนึ่งใน startup ด้านนี้ ยืนยันว่าพวกเขาทำได้แล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์ในชื่อ Swarovski Shine ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับสำหรับสตรี ที่นอกจากจะหรูหราแล้ว ยังทำหน้าที่ติดตามระบบต่างๆ ภายในร่างกายผู้สวมใส่ ไม่ว่าในขณะออกกำลังกาย หรือในเวลานอน ก้อนคริสตัลที่เป็นตัวเก็บอุปกรณ์ tracker (ที่เรียกว่า Shine) จะมีทั้งแบบใส และแบบมีสีม่วง เฉพาะก้อนคริสตัสสีม่วงเท่านั้น ที่สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ โดยเหลี่ยมมุมของคริสตัลจะหักเหแสงเข้าสู่แผงโซล่าเซลล์ขนาดจิ๋วที่อยู่ภายในก้อนผลึก  Joan Ng รองประธานอาวุโสของ Swarovski กล่าวว่า คริสตัลสีม่วงเท่านั้นที่จะเก็บกักพลังจากแสงอาทิตย์ไว้ได้ เนื่องจากสีม่วงช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับพลังแสง ขณะที่แบบใสไม่สามารถทำได้ โดยจะใช้เวลาเปิดรับแสงประมาณ 10-15 นาที เพื่อสร้างประจุไฟฟ้าให้ใช้งานได้นาน 2-3 วัน ทั้งนี้ Misfit ได้วางขายอุปกรณ์ที่ชื่อว่า Shine มาก่อนแล้ว โดยเป็น tracker สำหรับตรวจสแกนร่างกาย ที่สามารถซิงค์กับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth เพื่อติดตามข้อมูลในแต่ละก้าวเดิน การเผาผลาญแคลอรี่ และลักษณะการนอนหลับ "นับตั้งแต่ได้วางขายมาปีกว่า Shine ได้เป็นอุปกรณ์ tracker ยอดนิยมเป็นอันดับที่สาม รองจาก Fitbit และ Jawbone" Sonny Vu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Misfit กล่าว Vu ย้ำว่า ประเด็นพลังงานเป็นเรื่องที่เราสนใจอย่างจริงจัง และได้สร้าง Shine ให้อยู่เหนือขีดจำกัด ด้วยแบตเตอรี่เพียงเซลล์เดียว แต่สามารถให้พลังงานได้ยาวนาน 6 เดือน "การใช้พลังแสงอาทิตย์เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะต้องให้แสงแดดส่องสัมผัสตรงๆ และผลึกคริสตัลจะหักเหแสงภายใน Swarovski Shine" คอลเลคชั่นใหม่ชุดนี้มีให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว ผ่านเว็บไซต์ของ Misfit และทาง Swarovski จะเริ่มวางขายในร้านสาขาในสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง โดยราคาของอัญมณีจะอยู่ระหว่าง 170 ถึง 250 เหรียญ Misfit กำลังไปได้ดีในตลาดโลก เนื่องจาก 70% ของยอดขายเกิดขึ้นนอกสหรัฐฯ และหนึ่งในสามมาจากจีน และเมื่อเดือนธันวาคม 2014  Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนซึ่งเติบโตรวดเร็วที่สุด ยังได้เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนรายใหญ่ให้กับ Misfit อีกด้วย
เรียบเรียงจาก Here's The World's First Solar-Powered Wearable โดย Aaron Tilley