Cortina Watch นำนาฬิกาตั้งโต๊ะทรงโดม 4 รุ่น ซึ่งเป็นรุ่นจัดทำขึ้นพิเศษของ Patek Philippe มาจัดแสดงในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย โดย ‘Once Upon a Virtuosity’ จะเริ่มจัดในประเทศไทยวันที่ 16-31 กรกฎาคมนี้
ในแต่ละปี Patek Philippe มักมีการจัดแสดงผลงานของเรือนเวลาจากคอลเล็กชั่น Rare Handcraft ซึ่งก็รวมถึงเครื่องประดับที่ได้รับการสร้างสรรค์ด้วยงานฝีมือระดับสูงด้วยเทคนิคการสร้างลวดลายทั้งแบบ Guilloche ไปจนถึงการสลักลงบนวัสดุ การประดับมุข การเจียระไนอัญมณี และที่ขาดไม่ได้คือ การสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคของการเคลือบสีลงยาบนชิ้นงาน หรือ Enamel
และในบรรดาเรือนเวลาที่สวยงามจากคอลเล็กชั่น Rare Handcraft ของ Patek Philippe ที่นำมาจัดแสดงนั้น นาฬิกาที่โดดเด่นและถือเป็นไฮไลท์ของงานก็คือ นาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ด้วยกรรมวิธีและเทคนิคที่มีความเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคือ เป็นการสร้างสรรค์จากฝีมือในเชิงช่างเทคนิคระดับสูงจากแขนงต่างๆ ของงานศิลป์ที่ถูกหล่อหลอมจนเป็นชิ้นงานที่มีความโดดเด่น
สำหรับในปีนี้ Cortina Watch มีความภูมิใจที่จะนำผลงานสุดหายากของเรือนเวลาจากคอลเล็กชั่น Rare Handcraft มาจัดแสดงทั่วเอเชีย โดยงานแสดงครั้งนี้จะถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดแสดงคอลเล็กชั่นส่วนตัวอย่าง นาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ของ Patek Philippe ซึ่งถือเป็นที่ต้องการของบรรดาตัวแทนจำหน่ายตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับการจัดงานภายใต้ชื่อ ‘Once Upon a Virtuosity’ จะเริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2022 ณ บูติกของ Cortina Watch ณ ห้างสรรพสินค้า Central Embassy
นาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ของ Cortina Watch
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา Cortina Watch และ Patek Philippe ได้หล่อหลอมการทำงานในฐานะพันธมิตรในเชิงธุรกิจที่มีการร่วมมือกันมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างครอบครัวผู้ก่อตั้ง Cortina Watch และครอบครัว Sterns
ความสนใจส่วนตัวของ Anthony Lim ประธานบริษัท Cortina Holdings คนปัจจุบัน ที่มีต่องานฝีมือเชิงช่างที่หายากซึ่งถูกนำมาใช้ในการผลิตนาฬิกาได้นำเขามาสู่การเก็บสะสมจนกลายเป็นคอลเล็กชั่นเรือนเวลาที่มีความโดดเด่นในแง่งานศิลป์ของ Patek Philippe ที่เป็นส่วนตัวของเขา จนได้ครอบครองนาฬิกา 4 เรือนของ Dome Clocks
นาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ของ Patek Philippe มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร โดยนาฬิกาเพียงเรือนเดียวถูกสร้างสรรค์และเป็นเสมือนกับผืนผ้าใบในการแสดงให้เห็นถึงการนำศาสตร์ของงานฝีมือในเชิงช่างแขนงต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้กับนาฬิกาเรือนนี้
สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในบรรดาศาสตร์เชิงช่างรูปแบบต่างๆ ที่มีอยู่ในนาฬิกา Dome Table Clocks คือ เทคนิคของการเคลือบสีลงยาแบบ Enamel โดยแต่ละภาพวาดของทิวทัศน์ที่อยู่บนตัวนาฬิกาจะถูกวาดขึ้นโดยศิลปินเพียงคนเดียว ซึ่งจะใช้เวลานานนับร้อยนับพันชั่วโมงในการถ่ายทอดความงดงามของทิวทัศน์ออกมาเป็นชิ้นงานแต่ละชิ้น
สำหรับนาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks 3 เรือนที่ Cortina Watch ได้มาอยู่ในครอบครองนั้นมีความเชื่อมโยงกันกับประเทศสิงคโปร์ โดยเรือนแรกซึ่งก็คือ Ref.1677M ‘Esplanade’ ได้ถูกสร้างขึ้นในวาระของการฉลองครบรอบ 50 ปีของการถือกำเนิดของประเทศสิงคโปร์ที่มีขึ้นในปี 2015 โดยมีการออกแบบตัวเรือนที่อ้างอิงจากทรงโดมโค้งของโรงละคร Esplanade พร้อมกับแต่งเติมความสวยงามด้วยภาพวาดแห่งการเฉลิมฉลองด้วยพลุและดอกไม้ไฟถูกจุดและกระจายอยู่บนท้องฟ้า
ส่วนนาฬิกาตั้งโต๊ะเรือนที่ 2 ซึ่งก็คือ Ref.2009M-001 ‘Bay of Singapore’ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่องาน Patek Philippe Watch Art Grand Exhibition ที่จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 2019
เรือนสุดท้ายของคอลเล็กชั่นนี้และถือเป็นดาวเด่นของการจัดงานในครั้งนี้คือ Ref.20145M-001 ‘Singapore Skyline’ ซึ่งเป็นการนำเสนอความงามของทิวทัศน์อันสวยงามที่อยู่รอบๆ ประเทศสิงคโปร์ และถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาในวาระของการฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่าง Patek Philippe และ Cortina Watch
สำหรับทาง Cortina Watch นั้น การเก็บสะสมนาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ทั้ง 3 เรือนนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยมีประเทศสิงคโปร์เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งทางบริษัทแห่งนี้ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 1972 และในปีนี้เองก็มีความสำคัญตรงที่เป็นโอกาสครบรอบ 50 ปีในการดำเนินกิจการ
นาฬิกาตั้งโต๊ะทรงโดมเรือนสุดท้ายที่นำมาจัดแสดงคือ Ref.20040M-001 ‘Twilight-Taipei’ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งบูติกแห่งแรกของ Patek Philippe ที่เมือง Taipei และบริหารงานโดย Cortina Watch โดยบูติกแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ตึก Taipei 101 ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในไทเป ซึ่งที่มาของนาฬิกาแต่ละเรือนที่ Cortina Watch สะสมนั้นจะมีความสำคัญในแง่ของความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่น่าจดจำและโดดเด่นในแต่ละช่วงเวลาในประวัติศาสตร์Ref.20145M-001 ‘Singapore Skyline’
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Ref.20145M-001 ‘Singapore Skyline’ ได้ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณชน เรือนเวลาอันสุดพิเศษที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครเรือนนี้ได้รับการสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคของการผลิตของงานกระเบื้องเคลือบแบบลงยาที่เรียกว่า Grand Feu cloisonné enamel ซึ่งเป็นการนำทิวทัศน์ริมน้ำตัดกับเส้นขอบฟ้าของประเทศสิงคโปร์ที่มีจุดเริ่มต้นจากสถานที่สำคัญซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอย่าง Merlion ไปจนถึงเขตธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างย่าน Esplanade และไปสิ้นสุดที่ Marina Bay Sands
เรือนเวลาเรือนนี้ถูกนำเสนอด้วยเทคนิคของการเคลือบสีและลงยาแบบ Enamel ด้วยการใช้โทนสีที่แตกต่างกันมากถึงกว่า 50 เฉดสีและบางเฉดสีนั้นมีความพิเศษเพราะคิดค้นขึ้นมาเพื่อนาฬิกาเรือนนี้โดยเฉพาะ อีกทั้ง บนชิ้นส่วนที่เป็นโดมของนาฬิกาจะเป็นภาพของดอกไม้ไฟที่อยู่บนท้องฟ้าและมากับดวงดาวสีทองจำนวน 50 ดวงที่ได้รับการผลิตจากผงของเงินและทองคำ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีในการดำเนินธุรกิจของ Cortina Watch อีกด้วย
ในการประดิษฐ์รูปร่างขอบฟ้าและรูปอนุสาวรีย์ต่าง ๆ นั้น ช่างเคลือบใช้ ทองคำ 24k ถึง 9.2 เมตร ในการผลิต โดยมีสัดส่วน 0.2 x 0.6 มม. โดยได้ตัดให้เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ และประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือทั้งสิ้น ในการประดิษฐ์รูปภาพด้านหลังมีการจัดแต้มสีต่างๆ โดยใช้วิธีการที่ละเอียดอ่อนที่สุดโดยลงสีเป็นชั้นๆ
ขั้นตอนการลงยา ใช้กว่า 50 สีในการผลิตครั้งนี้ โดย มี 47 สีเป็นสีแบบใส และมี 1 สีแบบทึบแสง และอีก 2 สีที่เป็นสีเหลือบ ในการลงยาแต่ละชิ้น จะต้องมีการเผาประมาณ 10-14 ครั้งที่อุณหภูมิสูงระหว่าง 890 ถึง 910 องศาเซลเซียส
ในส่วนของดาวและแสงพลุนั้น ได้ประดิษฐ์ไว้ในรูปแบบกระจายตัวของดาวห้าสิบดวงและแสงประกายของพลุไฟ สิ่งเหล่านี้ทำมาจากทองคำและเงินอย่างสวยงาม โดยทำให้เป็นในรูปแบบกระจายทั่วท้องฟ้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์การเฉลิมฉลอง 50 ปี
ส่วนของหน้าปัดบอกเวลานั้น ใช้การสลักแบบกิโยเช่ ประดิษฐ์ในรูปแบบหยักเข้าออกเพื่อให้เป็นรูปร่างคล้ายดอกไม้ในสวน โดยจัดเข็มบอกเวลาแบบแนวตรง 12 แท่ง ซึ่งทำมาจาก หิน Lapis Lazuli 2.27 กะรัต โดยวางล้อมหน้าปัดกลางที่ลงยาแบบ cloisonné enamel และมีการแกะสลักชื่อ “Cortina Watch – 50th Anniversary – Since 1972” นาฬิกาโดมนี้ใช้ caliber 17 นิ้ว แบบ PEND Mechanical Movement โดยสามารถไขลานโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้า
การฉลองครบ 25 ปีและ 50 ปี Ref.5057G
เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่มีอยู่ใน Patek Philippe ให้กับบรรดาผู้ที่สนใจและรักในแบรนด์ซึ่งมีอยู่ทั่วภูมิภาคแห่งนี้ งานนิทรรศการครั้งนี้จะมีการนำเครื่องมือพิเศษที่ถูกใช้โดยช่างฝีมือของ Patek Philippe สำหรับในการผลิตนาฬิกามาจัดแสดงด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหน้าจอดิจิทัลสำหรับรับชมวีดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานของช่างฝีมือของ Patek Philippe ในการทำงานเพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยเทคนิคการผลิตในแบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและเข้าถึงความพยายามของช่างฝีมือเหล่านี้ในการผลิตชิ้นงานแต่ละชิ้นแต่ละแบบที่ประกอบอยู่ในนาฬิกา
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อโอกาสพิเศษนี้ ทาง Patek Philippe ส่งมอบ นาฬิกา Ref.5057R-001 มากับตัวเรือนทองแบบ Rose Gold และ Ref.5057G-010 มากับตัวเรือนที่ผลิตจาก White Gold ให้กับ Cortina Watch ในวาระของการครบรอบ 25 และ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ตามลำดับ โดยจะมีการเปิดให้สั่งจองในงานนี้ด้วย
Ref. 5057G-010 Calatrava นี้ เป็นนาฬิกาข้อมือ รุ่น Limited Edition ที่ทำจาก White Gold โดยจะจัดผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้ในการเฉลิมฉลอง 50 ปี โดยขอบตัวเรือนเป็นแบบแกะสลักสามแถว สลักลวดลายแบบหัวตะปูด้วยเทคนิค Guilloche ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่ Patek Phillippe ได้ประดิษฐ์ไว้เพื่อบริษัท Cortina Watch เมื่อปี 1997 ที่ได้ร่วมฉลอง 25 ปีแห่งคู่ค้าทางธุรกิจด้วยกัน
ทั้งนี้ความพิเศษของรุ่นนี้คือ หน้าปัดเป็นสีเทาเข้มและแรเงาในตัวขอบเรือน รวมถึงใช้ตัวเลขบอกเวลาแบบโรมันซึ่งเป็นทองขาว และเข็มนาฬิกาบอกเวลาถูกประดิษฐ์ในแบบรูปร่างผลแพร์อย่างสวยงาม นาฬิกาเรือนนี้มากับฟังก์ชั่นแสดงเวลาข้างขึ้นข้างแรม และการแสดงเวลาผ่านหน้าปัดที่มีการออกแบบอย่างสวยงามเช่นเดียวกับหน้าปัดย่อยที่มีชุดเข็มแสดงระดับกำลังสำรองของกลไกซึ่งทั้งหมดเป็นการออกแบบเพื่อ Cortina Watch โดยเฉพาะ
ส่วนฝาหลังแบบใสที่เป็นกระจก Sapphire นั้นจะมีการพิมพ์ปีแห่งการเฉลิมฉลองของความสัมพันธ์ของ Cortina Watch กับ Patek Philippe ใช้กลไกคาลิเบอร์ 240 PS IRM C LU, สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 48 ชั่วโมง และมีคำสลักสีขาวด้านหลังว่า “ Cortina Watch 50th Anniversary Since 1972”
พลาดไม่ได้สำหรับการเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ ณ นิทรรศการ ‘Once Upon a Virtuosity’ เพื่อค้นพบกับเรือนเวลารุ่นต่างๆที่โดดเด่นจากคอลเล็กชั่น Rare Handcraft จาก Patek Philippe และสัมผัสกับนาฬิกาตั้งโต๊ะ Dome Table Clocks ทั้ง 4 เรือนที่ถูกนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับนาฬิกาข้อมือทั้ง 2 รุ่น Ref.5057 ที่ถูกผลิตขึ้นในวาระพิเศษเพื่อ Cortina Watch โดยเฉพาะ
อ่านเพิ่มเติม: Villa Frantzen ร้านอาหารนอร์ดิกที่แผงไปด้วยกลิ่นอายแบบเอเชียไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine