ศุภลักษณ์ อัมพุช เปิดเหตุผล ทำไมถึงมี ‘น้ำ’ อยู่ที่บ้านและทุกห้างของเดอะมอลล์ - Forbes Thailand

ศุภลักษณ์ อัมพุช เปิดเหตุผล ทำไมถึงมี ‘น้ำ’ อยู่ที่บ้านและทุกห้างของเดอะมอลล์

ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดเหตุผล ทำไม? “น้ำ … ที่อยู่ในแลนด์สเคปทั่วบ้าน และศูนย์การค้าทุกแห่งของเดอะมอลล์ จึงดีต่อกายและใจ”


    การมีสวนน้ำลอยฟ้าอยู่ชั้นบนสุดของเดอะมอลล์สาขาท่าพระในครั้งแรกเมื่อปี 2532 นั้น ไม่ได้เป็นแค่เพียงความตั้งใจที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับค้าปลีกในย่านฝั่งธนบุรีเท่านั้น แต่สวนน้ำ อควาเรียม น้ำพุ น้ำตกกลายเป็นจุดไฮไลต์ที่สร้าง “ความเฮง” ให้ "ศุภลักษณ์ อัมพุช" นักธุรกิจค้าปลีกหญิงผู้มั่งคั่งคนนี้

    โดยสาขาของเดอะมอลล์ใหม่ๆ ที่เปิดตามหลังในเวลาต่อมา ตั้งแต่งามวงศ์วาน บางกะปิ บางแค โคราช หากไม่มีน้ำหรือน้ำพุในห้าง ก็จะเห็นน้ำตกตระหง่านอยู่หน้าห้างทั้งสิ้น

    และล่าสุด การเปิด "The TRIBE Sky Beach Club" แหล่งแฮงก์เอาต์นั่งชิลล์แห่งใหม่บนชั้น 5 ของศูนย์การค้าดิ เอ็มสเฟียร์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ยิ่งสะท้อนว่า “น้ำ” มีความสำคัญกับศุภลักษณ์ ไม่แพ้กับองค์ประกอบอื่นๆ อันเป็นสูตรสำเร็จที่เธอใช้สร้างอาณาจักรค้าปลีกกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา


    “การต้องปิดเดอะมอลล์สาขาราชประสงค์ ทำให้เราต้องหากลยุทธ์ใหม่ เราเลือกไปพัฒนาศูนย์การค้าในทำเลที่ไม่มีคู่แข่ง และทำภายใต้แนวคิด Retail and Entertainment คุณแอ๊ว (ชื่อเล่นของคุณศุภลักษณ์) เลือกปักหมุดสร้างอาณาจักรแห่งความสุขของครอบครัวครั้งแรกที่สาขาท่าพระ และสวนน้ำลอยฟ้าก็เกิดขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรก (ตอนนี้ไม่มีสวนน้ำและเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแล้ว) นำความสำเร็จมาให้เดอะมอลล์จนถึงทุกวันนี้” ศุภลักษณ์ย้อนถึงอดีตให้ฟัง

    หลังจากนั้นน้ำตก น้ำพุ และน้ำในรูปแบบอื่นๆ ก็กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของศูนย์การค้าเดอะมอลล์ทุกแห่งที่เปิดในเวลาต่อมา

    ศุภลักษณ์บอกว่า การเปิดตัวของ เดอะ ไทรบ์ สกาย บีชคลับบนชั้น 5 ของดิ เอ็มสเฟียร์ แหล่งแฮงก์เอาต์ใหม่ของคนกรุงเทพฯ ก็มีน้ำเป็นหนึ่งในแม็กเน็ตที่สำคัญของดิ เอ็มสเฟียร์ ที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำ ให้บริการอย่างครบครัน

The TRIBE Sky Beach Club


    “ตั้งแต่เปิดตัวในต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา มีลูกค้ามาเที่ยวอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เราถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะลูกค้าที่มาเที่ยวที่นี่มาจากการบอกปากต่อปากของเพื่อนฝูงที่เคยมาใช้บริการแล้วทั้งสิ้น และเราคิดว่าจะเริ่มโฆษณาสกายบีชคลับในเร็วๆ นี้” ศุภลักษณ์บอก

    เธอเล่าว่า ที่บีชคลับแห่งนี้ เธอสวมวิญญาณสถาปนิก ออกแบบทุกอย่างเอง ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะที่ใช้ในแต่ละโซน สีสันของคลับ เป็นการนำประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่ได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศมารวมกัน และส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเกาะ มีทั้งในยุโรปและเอเชีย

    “คุณแอ๊วไม่ได้อยากจะสร้างอะไรสักอย่างที่มีน้ำบนศูนย์การค้า เพื่อเป็นจุดขายที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เพื่อดึงลูกค้าในประเทศมาใช้บริการ แต่ต้องการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน กับสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ทั่วโลก ที่มีคนเข้าไปใช้บริการปีละเป็นล้านๆ คน อย่างที่เกาะอีบิซ่า ในสเปน หรือเกาะมิโคนอส หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดเมื่อไปเยือนกรีซ หรือแม้กระทั่งเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย


    “เราอยากให้ เดอะ ไทรบ์ สกาย บีชคลับ เป็นที่ที่สามารถเติมเต็มชีวิต ‘กิน เที่ยว เปรี้ยว มันส์’ ได้ครบ ถ้าเราดึงดูดกำลังซื้อจากทั้งนักท่องเที่ยวไทย-เทศได้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ต่อเนื่อง การเปิดเดอะ ไทรบ์ สกาย บีชคลับ เพื่อทำให้กรุงเทพฯ มี all day entertainment และเป็นเมืองที่ไม่หลับใหลเหมือนเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ในโลก” ศุภลักษณ์บอก

    จากการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าหลายประเทศทั่วโลกหันมาเน้นการท่องเที่ยวเป็นจุดขายมากขึ้น ดังนั้นประเทศไทยก็ต้องแข่งกับคนอื่นให้ได้

    “นักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศ นอกจากซื้อของแล้ว มักจะใช้เงินกับการเที่ยว ฟังเพลง การดื่ม เต้นระบำ เป็นส่วนใหญ่ เมืองไทยควรต้องมีที่กินดื่มดีๆ มากขึ้น และขยายเวลาปิดบริการช้าลง ตอนนี้นักท่องเที่ยวยุโรปส่วนใหญ่เลือกบาหลี ช่วงซัมเมอร์ก็ไปเที่ยวอีบิซ่าหรือเกาะมิโคนอสกันเป็นล้านๆ คน

    “ภูเก็ตมีหาดทรายสวยงาม แต่ยังไม่มีที่เที่ยวระดับไฮเอนด์ ส่วนกรุงเทพฯ นอกจากย่านพัฒน์พงศ์ ถนนข้าวสาร อาร์ซีเอ รัชดาภิเษก ก็ไม่มีที่เที่ยวที่ไหน เราเลยเปิดคาเฟ่ เดล มาร์ ภูเก็ต (Café Del Mar Phuket) บีชคลับระดับโลก เมื่อ 4-5 ปีก่อน และเปิด เดอะ ไทรบ์ สกาย บีชคลับที่กรุงเทพฯ”

คาเฟ่ เดล มาร์ ภูเก็ต


    นี่เป็นสิ่งสะท้อนความผูกพันของศุภลักษณ์กับน้ำอีกตัวอย่างหนึ่ง เพราะคาเฟ่ เดล มาร์ ภูเก็ต เป็นบีชคลับหน้าหาดกมลาใกล้หาดป่าตอง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายล้อมรอบสระว่ายน้ำ

    น้ำตก น้ำพุ อควาเรียมหรือน้ำในฟอร์มอื่นๆ ไม่ได้มีแค่ในศูนย์การค้าของเดอะมอลล์หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ในศูนย์เท่านั้น แต่น้ำและธรรมชาติอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิตของศุภลักษณ์ เริ่มตั้งแต่บ้านพักอาศัยย่านกรุงเทพกรีฑา ที่ร่มรื่นเต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ที่ศุภลักษณ์ซื้อด้วยตัวเองทุกต้น

    ทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้านคุณศุภลักษณ์ ทางด้านหน้าของบ้าน แขกทุกคนจะต้องเดินก้าวข้ามน้ำที่ล้อมรอบอยู่บริเวณรอบๆ บ้าน เข้าไปลึกๆ ในบริเวณบ้าน จะเห็นบ่อน้ำล้อมรอบตัวบ้าน รวมทั้งศาลาริมน้ำ ที่ด้านใต้เลี้ยงปลาช่อนอเมซอนตัวยาวขนาดเกือบ 3 เมตร ซึ่งเป็นที่ที่เธอมักจะมานั่งทำงาน หรือใช้ออกแบบศูนย์การค้าแห่งใหม่ๆ

    “คุณแอ๊วทำงานหนักทุกวัน ชอบมานั่งทำงานที่ศาลาแห่งนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ทำงาน หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนอยู่ที่ทำงาน” เธอบอก

    เมื่อถามคุณศุภลักษณ์ว่า “ทำไมถึงชีวิตผูกพันกับน้ำมากมาย” เธอตอบทันทีว่า “คุณแอ๊วชอบน้ำ น้ำในภาษาจีนแปลว่าเงิน พ่อคุณแอ๊วก็ชอบน้ำ และชอบให้คุณแอ๊วว่ายน้ำทุกวัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง คุณแอ๊วจึงชอบน้ำตั้งแต่เด็ก ทุกส่วนของบ้านมีน้ำ ศูนย์การค้าของเราก็มีน้ำ บ้านพักทุกหลังก็ตั้งในทำเลที่เกี่ยวกับน้ำ ตั้งแต่ภูเก็ต สมุย และเกาะพะงัน ชอบน้ำแล้วก็ชอบธรรมชาติด้วย

    “ทั้งที่บ้านและศูนย์การค้าของเราจึงมีต้นไม้สารพัดพันธุ์ เป็นภาพสะท้อนความชอบส่วนตัวของคุณแอ๊ว ต้นไม้ทุกต้นเลือกเองกับมือ และทุกรายละเอียด สามารถจำได้หมดว่าต้นไม้นี้คือต้นอะไร ซื้อมากจากที่ไหน คุณแอ๊วเป็นคนลงรายละเอียด เพราะดีเทลเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำรีเทล”

    ศุภลักษณ์เล่าเพิ่มอีกว่า บริษัทพร้อมจะอวดโฉมใหม่ของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแค ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ โซนน้ำตกกลางห้าง พร้อมแลนด์สเคปบ่อน้ำ ถูกปรับใหม่หมด ให้มีความสดชื่นร่มรื่นด้วยสีเขียวของต้นไม้ทั้งภายในและภายนอกห้าง

    ภายหลังการปรับโฉมครั้งใหญ่ ทั้งบางแคและบางกะปิ จะไม่มีสวนน้ำแฟนตาเซียลากูนที่เป็นของเดอะมอลล์ อยู่ชั้นบนเหมือนในอดีต แต่ชวนพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญกว่า มาพัฒนาสวนน้ำลอยฟ้าในคอนเซ็ปต์ใหม่ขนาดกว่า 10,000 ตารางเมตร ที่มีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ สวนสนุกและสวนน้ำฮาร์เบอร์แลนด์บางแคจะเปิดบริการได้เต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ของปีนี้

น้ำตกในเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค


    “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแค จะเป็นแลนด์มาร์คศูนย์การค้าสำหรับครอบครัว มีการผสมผสานอย่างลงตัวของนวัตกรรมการตกแต่งที่ทันสมัยระหว่างเทคโนโลยีกับธรรมชาติ เพื่อให้เป็นมากกว่าศูนย์การค้า มีร้านอาหารกว่า 500 แห่ง แบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ และกรีนพาร์คให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้ชีวิต” เธอบอก

    ศุภลักษณ์เล่าว่า เธอได้เข้ามาช่วยคุณพ่อ (ศุภชัย อัมพุช) ทำศูนย์การค้าตั้งแต่อายุ 20 ปีกว่า เริ่มจากศูนย์ ไม่มีความรู้ด้านค้าปลีกเลย เพราะจบด้านเภสัชฯ มา ทำให้ต้องปิดเดอะมอลล์สาขาราชดำริในเวลาเพียง 2-3 ปีแรกหลังจากเปิดกิจการ

    ความล้มเหลวแต่แรกเริ่มธุรกิจ ไม่ได้ทำให้ศุภลักษณ์ยอมแพ้ เธอเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาต่างๆ จนในที่สุดก็เจอสูตรสำเร็จในการทำค้าปลีก และมีชื่อของเดอะมอลล์จนถึงวันนี้ นั่นคือการมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ คิดใหญ่ ทำ 1 โครงการเหมือนสร้าง 2-3 โครงการ และต้องไม่ยอมแพ้

    ภายหลังจากประสบความสำเร็จจากเดอะมอลล์ท่าพระ ศุภลักษณ์เริ่มพัฒนาโครงการใหม่ในทุกๆ 3 ปี หลังจากที่แน่ใจว่าศูนย์การค้าที่เปิดก่อนหน้านี้สามารถสู้ในทำเลนั้นได้ ทำกำไร เลี้ยงตัวเองได้ และจะไม่สร้างภาระให้กับศูนย์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    “เมื่อลงสนามแข่งขันก็หยุดไม่ได้ ต้องขยายอยู่เรื่อยๆ บางทีก็เริ่มไปพร้อมๆ กัน ก็เจอปัญหาพร้อมๆ กัน มันเหมือนเครื่องซักผ้า บางทีไม่รู้จะหยิบอันไหนออกมาก่อน เราก็เครียด น้ำช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้คุณแอ๊วอารมณ์ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น เวลาเครียดเยอะๆ บางทีก็โดดลงน้ำ บางทีก็พักร้อนไปเที่ยวเกาะ

    “ศูนย์การค้าของเดอะมอลล์เกือบจะทุกแห่ง เกิดจากแรงบันดาลใจจากการเที่ยวเกาะ การออกแบบโครงการใหม่ๆ ของเดอะมอลล์ก็มักจะไปทำงานในที่ที่มีน้ำเสมอ บางโครงการออกแบบบนเกาะ บางโครงการออกแบบจากศาลาริมน้ำที่บ้าน เวลาทำงานออกแบบศูนย์การค้า คุณแอ๊วใช้สมาธิมาก ความเงียบสงบจึงจำเป็นมากๆ” เธอเล่า

    นอกจากเรื่องของน้ำ เธอบอกอีกว่า เธอยังชอบทิวทัศน์ทะเลและธรรมชาติ โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น ชอบไปเที่ยวภูเขาที่มีน้ำตก หรือทะเลสาบ ทั้งหมดนี้สามารถให้พลังบวกกับคุณแอ๊วได้หมด กลิ่นธรรมชาติ ทำให้หัวสมองคุณแอ๊วเริ่มปล่อยวาง ปรับอารมณ์ นำสิ่งดีๆ กลับคืนสู่ร่างกายได้

    นอกจาก แลนด์สเคปของศูนย์การค้าที่ต้องมีน้ำแล้ว คุณแอ๊วยังชอบกีฬาทางน้ำด้วย อาทิ ดำน้ำ ว่ายน้ำ วินเซิร์ฟ ล่องเรือยอชต์ หรือล่องเรือสันทนาการในแม่น้ำเจ้าพระยา

    น้ำกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในศูนย์การค้าทุกแห่ง เป็นความผูกพันในชีวิต ภาพความชอบและความเชื่อเรื่องน้ำของศุภลักษณ์จะถูกตอกย้ำให้เด่นชัดขึ้น เมื่อโครงการ “Bangkok Mall” ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของเดอะมอลล์บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ บนถนนบางนา-ตลาด รวมพื้นที่โครงการกว่า 1,200,000 ตารางเมตร ถูกเปิดตัวในอีก 2 ปีข้างหน้านี้



​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 3 เซเลบคนดัง กับเรื่องของ "เวลา" และ "นาฬิกา" ทางเลือกใหม่นักลงทุน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine