สัมผัสโลกแห่งความเร็ว - Forbes Thailand

สัมผัสโลกแห่งความเร็ว

FORBES THAILAND / ADMIN
09 Dec 2016 | 11:34 AM
READ 9979

เคยฝันอยากเร่งความเร็วทะลุ 200 ไมล์ต่อชั่วโมงบนสนาม Indianapolis Motor Speedway หรือสนามแข่งรถระดับตำนานที่ไหนไหม? Indy Racing Experience พร้อมเสนอความเร้าใจให้คุณรู้สึกเหมือนเป็น Andretti ได้หนึ่งวัน

เรื่อง: Jim Clash เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา ลังจากรายการ Indy 500 ดำเนินมาถึงครั้งที่ 100 และสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แฟนๆ ผู้โชคดีที่รักความแรงและความเร็ว 33 คนก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่พวกเขาจะได้มีโอกาสสัมผัสความตื่นเต้นระหว่างพุ่งทะยานด้วยความเร็วมากกว่า 200 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถแข่งล้อแบบ open-wheel ขนาด 2 ที่นั่งบนสนามแข่ง Indianapolis Motor Speedway โดยมี Mario Andretti เป็นสารถี   Andretti วัย 76 ปีคือตำนานแห่งโลกความเร็วอย่างไร้ข้อกังขา นอกจากจะคว้ารางวัลสุดยอดนักแข่ง Formula One World Driver’s Championship ในปี 1978 เขายังครองทั้งตำแหน่งแชมป์รายการ Daytona 500, Indianapolis 500 และ 12 Hours of Sebring นอกจากนี้ จากที่ได้ลงแข่งขันประลองความเร็วในรายการ Indy 500 มามากถึง 29 ครั้งทำให้เขาคุ้นชินกับสนามแห่งนี้เป็นอย่างดีรถแข่งขนาด 2 ที่นั่งสำหรับสนาม Indy นำเสนอประสบการณ์ความเร็วมาตั้งแต่ปี 2001 เมื่อ Indy Racing Experience (IRE) ถือกำเนิดขึ้น แม้จะวิ่งด้วยความเร็วอันน่าทึ่งถึง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่มีการจำกัดความเร็วไว้ที่ 75% ตามมาตรฐานการจัดอันดับเข้ารอบของ Indy 500 เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย   อย่างไรก็ตาม Scott Jasek อดีตผู้บริหาร Budget Car Rental ซึ่งปัจจุบันเป็น 1 ใน 3 หุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง IRE กล่าวว่าเป้าหมายเริ่มแรกคือนำลูกค้าสู่ประสบการณ์ความเร็วระดับ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง และเมื่อดำเนินธุรกิจด้วยความปลอดภัยรวมระยะเวลา กว่า 15 ปี บริษัทประกันภัยและสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนตกลงเห็นพ้องกันว่าตอนนี้ได้ถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วคล้ายกับธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งที่เริ่มต้นจากการดื่มเบียร์คละเคล้าบรรยากาศระหว่างพูดคุยกัน IRE มีจุดเริ่มต้นในคืนหนึ่งที่ Jasek โพล่งถามเพื่อนทั้งสอง Jeff Sinden และ Joe Kennedy ซึ่งเป็นเจ้าของทีมแข่งรถว่าจะขอลองขับรถ Indy ได้ไหม คำตอบที่เขาได้รับคือ เครื่องยนต์มีความละเอียดซับซ้อนมากและอาจเกิดความเสียหายถ้าเขาเร่งรอบหนักเกินไปหรือเข้าเกียร์ไม่ถูกจังหวะแต่แล้ว Jasek สวนกลับอย่างชัดเจนว่า แล้วถ้าเราขยายพื้นที่เพิ่มอีกหนึ่งที่นั่งเพื่อให้นักแข่งมือฉมังเป็นคนบังคับรถในขณะที่เราขึ้นไปนั่งด้วยล่ะ?   ทั้ง 3 คนกู้เงิน 1 ล้านเหรียญโดยใช้บ้านของตนเป็นหลักประกันซึ่งหลังจากนั้น IRE ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อประกันภัยประเภทรับผิดต่อบุคคลภายนอก ลงมือออกแบบและผลิตรถแข่งให้มี 2 ที่นั่งโดยใช้ตัวถังของ Dallara บริษัทผู้ผลิตสัญชาติอิตาเลียนและหาผู้สนับสนุนหลักซึ่งก็คือ Firestone นับจากวันนั้นบริษัทเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าว บรรดาคนดัง และกลุ่มผู้ชื่นชอบความเร็วได้สัมผัสอารมณ์และความรู้สึกของการอยู่หลังพวงมาลัยรถเจ้าแห่งความเร็วมาแล้วมากกว่า 50,000 ครั้งพร้อมสร้างรายได้ไปกว่า 25 ล้านเหรียญ หลังจากเปิดดำเนินการในปี 2001 บริษัทมีลูกค้า 500 คน โดยสนนราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 1,000 เหรียญ ผลการสำรวจภายในเผยว่า 500 เหรียญคือราคาที่เหมาะสมกว่าเนื่องจากอะไรก็ตามที่มีราคาสูงกว่า 500 เหรียญถือว่าเป็น “การจับจ่ายสำหรับของฟุ่มเฟือย” ในปี 2005 มีผู้เข้ามาทดสอบความเร็วกว่า 2,700 รอบและสร้างรายได้ให้ธุรกิจกว่า 1.5 ล้านเหรียญ ในปีที่ผ่านมาจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 คนและกวาดรายได้ไป 3 ล้านเหรียญ   ปัจจุบัน IRE มีรถแข่ง 2 ที่นั่งจำนวน 6 คันซึ่งจะถูกสลับปรับเปลี่ยนไปให้บริการในสนามแข่งมากกว่า 12 แห่งทั่วสหรัฐฯ เพื่อตอบความต้องการบริการเสิร์ฟประสบการณ์ความเร็วเปิดดำเนินการเกือบตลอดทั้งปีไปตามหลากสถานที่ สนามแข่งที่มีบริการนี้ เช่น Indianapolis Motor Speedway, Pocono Raceway, Texas Motor Speedway, Iowa Speedway และ Phoenix International Raceway ซึ่งนอกจาก Andretti แล้วยังมีนักแข่งมืออาชีพอย่าง Martin Plowman และ Zach Veach ที่มานำเสนอความแรงด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูงขนาด 2 ที่นั่งสนามแข่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Indianapolis   หลังจากสัมผัสประสบการณ์ความเร็ว 200 mph แล้วผู้โชคดีทั้ง 33 คนซึ่งรวมถึงตัวผม ได้รับแหวนที่ระลึก วิดีโอและใบประกาศพร้อมลายเซ็นจาก Andretti “ถ้าผมได้ไปเหยียบดวงจันทร์ผมก็อยากจะมีแหวนที่ระลึกบ่งบอกถึงประสบการณ์นั้น” Jasek กล่าว “และเช่นเดียวกับการได้มีโอกาสสัมผัสความเร็ว 200 ไมล์ต่อชั่วโมงที่เราก็อยากเก็บอะไรมาอวดเหมือนกัน”   Andretti ตื่นเต้นกับโปรแกรมนี้เช่นกัน “ผมชื่นชมโอกาสที่ได้ขับรถแข่ง 2 ที่นั่งในโปรแกรมนี้” เขากล่าว “ผมต้องการข้อสนับสนุนทางธุรกิจที่จะอยู่บนสนามแข่งรถ นอกจากนี้ผมยังคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะมอบอารมณ์ความรู้สึกจริงบนสนามของนักแข่งให้แฟนความเร็วได้สัมผัส”   ถ้าหากจะอธิบายให้เห็นภาพ ความเร็วระดับ 200 ไมล์ต่อชั่วโมงนั้นเร็วกว่ารถแข่งรายการ Nascar ที่เคยมาวิ่งบนสนามรายการ Indy รถคันที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในการแข่งขัน Brickyard 400 เมื่อปีที่ผ่านมาทำสถิติความเร็วอยู่ที่ 183 ไมล์ต่อชั่วโมง ดังที่ Jasek กล่าวติดตลกว่า “บางที Dale Earnhardt Jr. นักแข่ง Nascarน่าจะมาลองสัมผัสประสบการณ์นี้กับเราและดูว่าจะรู้สึกอย่างไรถ้าได้วิ่งด้วยความเร็ว 200 ไมล์ต่อชั่วโมงบนสนาม Indianapolis”
คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "สัมผัสโลกแห่งความเร็ว" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ DECEMBER 2016 ในรูปแบบ e-Magazine