ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ BCG Global Wealth Market Sizing 2024 และ BCG Thailand Wealth Forecast 2025 มีการคาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปี 2566-2571ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลกและประเทศไทย จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% ยิ่งกว่านั้น ถ้าโฟกัสเฉพาะประเทศไทย คาดว่าธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2571
จากการเติบโตที่ร้อนแรงของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ทำให้ไทยพาณิชย์ ในฐานะสถาบันทางการเงินอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เล็งเห็นถึงโอกาสในการต่อยอดธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่สร้างการเติบโตให้ธนาคาร ด้วยการเดินหน้าเปิดเกมรุก เพื่อก้าวสู่การเป็นดิจิทัลแบงก์ ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ภายในปี 2569
แน่นอนว่า เพื่อพิชิตเป้าหมายใหญ่ในระยะเวลาอันสั้น ลำพังแค่เล็งเห็นโอกาสอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ยังจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ตกผลึกมาอย่างดี เพื่อพลิกโฉมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่กำลังเนื้อหอม โดยอาวุธสำคัญที่ไทยพาณิชย์จะใช้ลงสนามในครั้งนี้ จะอยู่ภายใต้กรอบแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่าง “Your Success. Our Success.” ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา
คุณกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ฉายภาพให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ไทยพาณิชย์ยืนหนึ่งในใจลูกค้าอย่างน่าสนใจว่า ด้วยการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ทำให้ในปีที่ผ่านมา ธนาคารยังคงสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งนี้ ถ้าโฟกัสเฉพาะผลดำเนินงานด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2567 พบว่าผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับธนาคารในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory) เพิ่มขึ้น 10% ยอดสินเชื่อธุรกิจกลุ่มลูกค้าเวลธ์ (Wealth Lending) และการมอบโซลูชันการดูแลบริหารจัดการ การลงทุน ความคุ้มครอง ผ่านช่องทางธนาคาร ที่ยังคงครองอันดับ 1 ขณะที่เดียวกันยังคงสร้างความมั่นใจและผลตอบแทนที่โดดเด่นให้กับลูกค้าด้วยยอดขายอันดับ 1 ในผลิตภัณฑ์หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง (Structured Products) 4 ปีซ้อน พร้อม 10 รางวัลการันตีจากสถาบันระดับโลก นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ผ่าน SCB WEALTH LINE OA, บริการ AI Advisory Chatbot, WEALTH4U และ MY ALERT
อย่างไรก็ตาม เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว พร้อมพิชิตเป้าหมายใหม่ ธนาคารจึงได้ชูแนวคิด“Your Success. Our Success.” ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา เพื่อเป็นเข็มทิศในการขับเคลื่อนธุรกิจ SCB WEALTH ไปสู่หมุดหมายใหม่ โดยมุ่งนำเสนอโซลูชันด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบองค์รวมโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Holistic and Customer-Centric Wealth Management Solution) ผสานศักยภาพจากบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX อาทิ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM), บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) บล. ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) และพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 30 ราย เข้ากับขีดความสามารถในการให้คำปรึกษา (Advisory Capability) ในการนำเสนอโซลูชันบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SCB WEALTH ที่มีอยู่มากกว่า 500,000 ราย โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ SCB PRIME, SCB FIRST และ SCB PRIVATE BANKING ให้ครอบคลุมและรอบด้านมากขึ้น ทั้งด้านเป้าหมายชีวิต และเป้าหมายด้านการลงทุน
“เบื้องหลังในการพัฒนาแนวคิดดังกล่าวมาจากศึกษาอินไซต์ของลูกค้า และพบว่าสิ่งที่ลูกค้ามองหาจากธนาคารในการดูแลและบริหารความมั่งคั่ง มี 4 องค์ประกอบหลักๆ ได้แก่ 1.ความจริงใจ หมดยุคของการเน้นขายผลิตภัณฑ์เพื่อทำยอด แต่ลูกค้ามองหาความจริงใจ และที่ปรึกษามืออาชีพที่พร้อมให้แนะนำออกแบบพอร์ตโฟลิโอตามเป้าหมายเฉพาะบุคคล 2.ความเชี่ยวชาญ สิ่งที่ลูกค้ามองหา ไม่ใช่นักขาย แต่ต้องการที่ปรึกษามืออาชีพ ที่พร้อมดูแลบริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้าอย่างยั่งยืน 3.ครบรอบด้าน สามารถเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ เครื่องมือและเครือข่าย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้ลูกค้า 4.ใส่ใจ เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากกว่าแค่เรื่องการเงิน แต่พร้อมดูแลลูกค้าในทุกช่วงชีวิต จากอินไซต์ดังกล่าวนี้เอง จึงนำมาสู่การต่อยอดเป็น 3 Core Values สำคัญของแนวคิด Your Success. Our Success.”
1. Customer Centricity: คิดจากคุณ เพื่อความสำเร็จในแบบเฉพาะคุณ
ทิศทางในการคัดสรรผลิตภัณฑ์และโซลูชันของไทยพาณิชย์จากนี้ จะมุ่งเน้นเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าแต่ละช่วงชีวิตอย่างลึกซึ้ง และยึดผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นที่ตั้ง ด้วยบริการวางแผนกับที่ปรึกษาด้านการบริหารและต่อยอดความมั่งคั่ง ทั้งนี้ คุณกฤษณ์ได้ยกตัวอย่าง 3 โซลูชัน ที่สะท้อนถึงแนวคิดใหม่ โดยตั้งต้นจาก Pain Point ของลูกค้า โดยหลังจากทยอยเปิดตัวไปก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
- การนำเสนอแนวคิดใหม่ของการลงทุน No Gain, No Pay เพื่อแก้ Pain Point ให้ลูกค้าที่รู้สึกไม่เป็นธรรม เมื่อต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียม แม้ตลาดติดลบ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ No Gain, No Pay. คือ ไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งหลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจนสามารถบรรลุเป้าหมายภายที่วางไว้ภายใน 1 เดือน 13 วัน จากที่ตั้งเป้าที่ 8 เดือน
- แนวคิด Capital Protected Fund การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ลดการขาดทุนเงินต้น พร้อมผลตอบแทนที่สูงกว่าการเงินทั่วไป ตอบโจทย์ลูกค้ามีความกังวลเรื่องตลาดผันผวน โดยหลังจากเปิดตัวก็ได้รับการตอบรับที่ดี สะท้อนผ่านยอดขายตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน กว่า 1 แสนล้านบาท
- แนวคิด Innovative Holistic Advisory Solution ที่ช่วยออกแบบโซลูชันการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่ตรงตามความต้องการที่หลากหลาย อาทิ การต่อยอดทางการเงิน การดูแลบริหารจัดการ ความคุ้มครอง รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่ง เพื่อสร้างผลลัพธ์ความสำเร็จที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดนใจลูกค้าที่มีสินทรัพย์แต่ไม่รู้จะวางแผนบริหารความมั่งคั่งให้ครอบคลุมทุกมิติได้อย่างไร
2. Hyper-Personalization: ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อคุณโดยเฉพาะ
ยกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายบุคคล ผสานศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในการดูแลลูกค้าอย่างตรงใจและไร้รอยต่อในทุกมิติ
3. Go Global: ทุกที่ที่มีโอกาส เราให้คุณไปถึงได้ทั่วโลก
เปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดโลก พร้อมต่อยอดความมั่งคั่งด้วยโซลูชันทางการเงิน การลงทุน ที่มีความหลากหลาย จากทั่วทุกมุมโลก พร้อมมอบประสบการณ์การลงทุนแบบไร้รอยต่อ ยกระดับการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ SCB WEALTH เข้ากับพันธมิตรระดับโลก อาทิ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ และล่าสุด จับมือ BlackRock ผู้นำทางการลงทุนระดับโลก ในการนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความหลากหลายทั้งสินทรัพย์ดั้งเดิม และสินทรัพย์ทางเลือก
มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า ไทยพาณิชย์ทุ่มทุนสร้างทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร แน่นอนว่าทั้งหมดก็เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ ในการเป็นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ภายในปี 2569 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป้าหมายดังกล่าวจับต้องและวัดผลได้จริง คุณกฤษณ์ ย้ำชัดว่า ความเป็นเบอร์ 1 นั้น จะวัดจาก 3 ตัวชี้วัดสำคัญ
1. Asset Under Advisory เติบโต Double Digit
2. สร้างความพึงพอใจของลูกค้า (Net Promoter Score: NPS)
3. รักษาผลตอบแทนสะสมที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเหนือกว่าตลาด (Sustainable Portfolio Growth)
อย่างไรก็ตาม คุณกฤษณ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การรักษามาตรฐานในการสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และรักษาผลตอบแทนสะสมที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเหนือกว่าตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะ “Your Success. Our Success.” ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา
คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน