"Fraction ประเทศไทย" บริษัทฟินเทคที่มีฐานธุรกิจอยู่ในฮ่องกงและไทย ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เพื่อให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal License)
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/Fraction_0904.jpg)
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/Fraction_0903.jpg)
เปิดตัว IFO แรกด้วยสินทรัพย์เกรด เอ จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้า
Fraction ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เพื่อหาแนวทางนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของทั้งสามบริษัทมาระดมทุนจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลครั้งแรก (IFO) มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท Fraction เปิดช่องให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุน ด้วยรูปแบบการลงทุนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก Fraction และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งสาม ตั้งเป้าหมายจะพลิกโฉมหน้าโลกการลงทุน ด้วยการเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินทุนมูลค่าสูงได้ ยกตัวอย่างเช่นด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท นักลงทุนก็สามารถมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าค่ายอสังหาฯ ขานรับ
สงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมลงทุนกับ Fraction ว่า “เราทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในทำเลชั้นเลิศทั่วประเทศไทย ในสมัยก่อน โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้เปิดให้กับทุกคน แต่ในวันนี้ คนรุ่นใหม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในฐานะนักลงทุน” วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า “MQDC มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทาง Fraction ซี่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค (FinTech) โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ MQDC ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของเราที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกของโลกที่นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลบน platform แบบรวมศูนย์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แบบ inclusive ตามแนวคิด Customer-Centric ซึ่งเราเชื่อว่าโมเดลนี้จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และอีกหลาย ๆ อุตสาหกรรมในอนาคตอย่างแน่นอน” ศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึง Fraction ว่า “เราเข้าใจดีว่าโอกาสในการลงทุนที่ถูกจำกัดวงอยู่เฉพาะในกลุ่มคนที่มีฐานเงินทุนจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีคนหลายๆ คนออกมาพูดถึงเรื่อง Asset digitization และ Fractionalization ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ แต่เรายังไม่เห็นใครเลยที่ทำสำเร็จหรือพร้อมจะเดินหน้าในเรื่องนี้ไปกับเรา จนวันนี้ Fraction จะทำให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ในแง่ของการเสริมสร้าง financial inclusion” ทั้งนี้ การดูแลสภาพคล่องและการซื้อขายในตลาดที่สองมีความสำคัญอย่างมากต่อสภาวะการลงทุนหลังการนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาด ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่มีการดำเนินการอยู่ในตลาดทุนทั่วโลก ทั้งนี้ KULAP บริษัทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. จะเป็นช่องทางหนึ่งในการเป็นผู้กำกับดูแลการซื้อขายในตลาดที่สองในช่วงแรกหลัง IFO ผ่านการเชื่อมโยงกับ Fraction Global Liquidity Pool หลังจากที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้เริ่มดำเนินการได้แล้ว Fraction จะทำงานร่วมกับ MQDC, ชาญอิสสระ และ NVD เพื่อสรุปโครงสร้างการเสนอขาย และจัดทำเอกสารการเสนอขาย IFO เพื่อยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. ต่อไป โดย Fraction คาดว่าจะเริ่มเปิดจอง IFO ได้ในไตรมาสแรกของปี 2565 อ่านเพิ่มเติม: การเติบโตของ FinTech จาก Evolution สู่ Revolutionไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine