กลุ่มเพื่อน 4 คนที่ต่างรักในสายงานวิศวกรรมร่วมลงทุนตั้งกิจการรับเหมาสร้างงานระบบภายในอาคารในนาม บมจ.ฟลอยด์ หรือ FLOYD คว้าโอกาสจากโครงการรถไฟฟ้าและห้างค้าปลีก โดยหวังทำรายได้แตะ 1 พันล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า
ความรักในงานด้านวิศวกรรมคือรากฐานของการก่อตั้งกิจการรับเหมางานระบบอาคารเมื่อปี 2531 ของกลุ่มเพื่อนที่จบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งประกอบด้วย สมเกียรติ เลิศศุภกุล (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว), ทศพร จิตตวีระ, อภิรัช เมืองเกษม และประสิทธิ์ ทัศนสุกาญจน์ ที่ตอนนี้ผู้ร่วมก่อตั้งต่างรับบทบาทหน้าที่ใน บมจ.ฟลอยด์ หรือ FLOYD ทั้งในฐานะผู้บริหารและผู้ถือหุ้นหลักในนามของแต่ละครอบครัวที่อัตรา 18.75% ทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ วัย 56 ปีเป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของ FLOYD ตั้งแต่เริ่มแรกว่าจุดประกายจากการเติบโตอย่างร้อนแรงของยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ในเมืองไทยที่มีความต้องการผู้ให้บริการรับเหมางานระบบค่อนข้างมากเพื่อให้ทันกับจำนวนอาคารบ้านเรือนที่ผุดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้สมเกียรติในฐานะรุ่นพี่ชักชวนรุ่นน้องอีก 3 คนมาเริ่มเส้นทางผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว “เราไม่เคยคิดว่าต้องสร้างกิจการให้เป็นบริษัทมหาชน พวกเราที่เป็นกลุ่มเพื่อนซึ่งเริ่มต้นธุรกิจด้วยความรักในงานด้านวิศวกรรรมเหมือนๆ กัน ผมเชื่อว่าไม่มีใครทนทำงานที่ไม่รักได้ตลอดไป ตอนนี้ผมก็ยังสนุกกับงานที่ทำอยู่”
สุดท้าย FLOYD จึงเป็นการหลอมรวมความรู้และความชำนาญเฉพาะทางด้านธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล และงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภคประกอบอาคาร หรือเรียกว่า MEP (Mechanical, Electrical and Plumbing Engineering)
โดยขอบเขตการให้บริการครอบคลุมตั้งแต่งานรายละเอียดทางวิศวกรรม (Detailed Engineering) การจัดหาวัตถุดิบ (Procurement) และงานรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร, ระบบสุขาภิบาลและระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบปรับอากาศ (Construction) โดยงานให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารคือแหล่งรายได้หลักของบริษัทที่กินสัดส่วนเกือบ 50% ของรายได้รวม


หลังจากสร้างชื่อได้ดีในกลุ่มห้างค้าปลีก FLOYD จึงเริ่มมองหาโอกาสใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มเข้าไปรับงานระบบของคอนโดมิเนียมที่พัฒนาโดย บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้บริษัทได้เรียนรู้การทำงานวางระบบของการสร้างที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ ที่ก่อสร้างด้วยชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปหรือที่เรียกว่า Precast จนต่อยอดไปรับงานของบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายอื่นๆ ได้อีก
“ปัจจุบันบริษัทรับงานที่มูลค่าเฉลี่ย 30-50 ล้านบาทต่อโครงการ แต่โครงการที่มูลค่าสูงสุดที่เคยทำอยู่ที่เกือบ 400 ล้านบาทซึ่งเป็นห้าง Promenada ที่เชียงใหม่”
กวาดทุน 252 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 จำนวน 252 ล้านบาทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้นถึงมูลค่ารวมราว 1 พันล้านบาทได้ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เงินทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์อบรมความสูง 8 ชั้น มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานในการให้บริการ
ย้อนกลับไปตั้งแต่ 3 ปีก่อนรายได้ของ FLOYD มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 10% มาตลอด แต่สำหรับปี 2560 ทศพรยอมรับว่ารายได้คงไม่เติบโตสูงเท่าที่ปีก่อนๆ ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขรายได้ไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าเป้า เพราะลูกค้าหลักต่างชะลอโครงการก่อสร้างสาขาใหม่ แต่บริษัทก็พยายามให้ใกล้เคียงกับปีที่ 2559 ที่มีรายได้รวมกว่า 500 ล้านบาท
“ตอนนี้เราจึงมองข้ามผลประกอบการปี 2560 ไปแล้ว แต่เชื่อว่าจะกลับมาเติบโตดังหวังในปีหน้า เพราะเมื่อความเชื่อมั่นกลับมา ลูกค้าก็จะเริ่มลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่ม”
อย่างไรก็ตาม ด้วยความพร้อมที่จะรับงานที่มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาทขึ้นไปได้หลังจากไร้ข้อจำกัดเรื่องเงินทุนแล้ว ทศพรคาดว่ามีโอกาสที่บริษัทจะสร้างรายได้ถึง 1 พันล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะจากที่เข้าไปรับงานระบบในส่วนสถานีของโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
“ตอนนี้เรายังไม่ได้เข้าไปทำงานให้โครงการรถไฟฟ้า แต่มองว่าเป็นกลุ่มที่น่าจะเติบโตต่อไป ซึ่งแม้ผู้รับเหมาหลักจะมีบริษัทในเครือที่ให้บริการงานระบบอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มีรถไฟฟ้าหลายสายและต้องดำเนินการให้จบในเวลาใกล้เคียงกัน จึงจำเป็นต้องแบ่งมาจ้างบริษัทภายนอกเช่นเราด้วย”
ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
อ่านฉบับเต็ม "ทศพร จิตตวีระ ก่อ FLOYD ด้วยใจรัก" ได้ใน นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ ธันวาคม 2560 ในรูปแบบ E-Magaizne

