เปิดสมบัติทายาท Leonardo del Vecchio เจ้าพ่อ Ray-Ban - Forbes Thailand

เปิดสมบัติทายาท Leonardo del Vecchio เจ้าพ่อ Ray-Ban

FORBES THAILAND / ADMIN
28 Jun 2022 | 03:53 PM
READ 2494

Leonardo del Vecchio มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันดับ 2 ของอิตาลี เจ้าของบริษัท Ray-Ban, Sunglass Hut และธุรกิจอีกหลากหลาย เสียชีวิตด้วยวัย 87 ปี ทิ้งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.55 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับบุตร 6 คนจากความสัมพันธ์ 3 รูปแบบ

การเสียชีวิตของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 2 ของอิตาลีอย่าง Leonardo del Vecchio หมายความว่า ทรัพย์สินมูลค่า 2.55 หมื่นล้านเหรียญของเขาจะถูกแบ่งให้กับทายาท ได้แก่ Nicoletta Zampill ภรรยาคนที่ 2 และบุตรอีก 6 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 65 ปี  โดยทั้ง 7 คนต่างมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน จากการสืบทอดบริษัทโฮลดิ้ง Delfin ในลักเซมเบิร์ก และสินทรัพย์หลายพันล้านเหรียญ  ด้านหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลีที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา ซึ่งในที่สุดการปรับโครงสร้างการเป็นเจ้าของ Sunglass Hut, Ray-Ban และ Oakley ผ่านทาง Delfin ใหม่ในปี 2014 ก็ได้ทำให้เขามีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ 25 ขณะที่สัดส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 75 ถูกแบ่งให้กับบุตรอีก 6 คน ได้แก่
  • Claudio (วัย 65), Marisa (63), และ Paola (61) บุตรจากภรรยาคนแรก Luciana Nervo ซึ่งหย่าร้างกันในปี 1990 
  • Leonardo Maria (27) คือ บุตรจาก Zampillo ภรรยาคนที่ 2 ซึ่งได้เข้าพิธีวิวาห์ในปี 1997 ก่อนที่แยกทางกันในปี 2000 ทว่าตัดสินใจกลับมาร่วมชีวิตคู่อีกครั้งในปี 2010 และ
  • Luca (21) และ Clemente (18) จากความสัมพันธ์ของเขากับ Sabina Grossi อดีตคณะกรรมการบริหาร Luxottica และอดีตหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท
ในทำนองเดียวกัน Del Vecchio ยังมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 32 ใน EssilorLuxottica ซึ่งเป็นบริษัทแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการควบรวมกิจการระหว่าง Luxottica ของ Del Vecchio กับ Essilor ยักษ์ใหญ่ด้านเลนส์สายตาของฝรั่งเศสในปี 2018 นอกจากนี้ คือ หุ้นอีกราวร้อยละ 10 ในบริษัทประกันภัย Generali ของอิตาลี มูลค่าประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญ อีกร้อยละ 20 ในธนาคารอิตาลี Mediobanca ไปจนถึงร้อยละ 27 ในบริษัทการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของฝรั่งเศส Covivio และประมาณร้อยละ 2 ในธนาคาร Unicredit ของอิตาลี  Del Vecchio ยังเป็นเจ้าของเรือยอร์ช Moneikos ขนาด 203 ฟุตมูลค่า 26 ล้านเหรียญ และทรัพย์สินอื่นๆ อีกเกือบ 80 ล้านเหรียญ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ในโมนาโก ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก เครื่องบินเจ็ทกัลฟ์สตรีม G650 ท่าจอดเรือยอร์ชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี และหุ้นร้อยละ 13 ในสายการบินแห่งชาติ Luxair  ล่าสุด Forbes ประเมินว่า Del Vecchio และ Delfin มีหนี้สินอยู่ที่ประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญ ย้อนกลับไปที่เอกสารซึ่งระบุถึงการปรับโครงสร้างองค์กรของ Delfin ในปี 2014 ได้มีการระบุเพิ่มเติมว่า สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 ของ Del Vecchio ราว 6.4 พันล้านเหรียญ (ก่อนหักภาษี) จะถูกส่งต่อไปให้ภรรยา Zampillo  หลังจากที่เขาเสียชีวิต พร้อมข้อกำหนดที่ว่า การตัดสินใจทางการเงินใดๆ จะต้องมีการตกลงกันโดยผู้ถือหุ้นร้อยละ 88 เท่านั้น  ทั้งนี้ ในบรรดาทายาทสืบสกุลของ Del Vecchio คนที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างคงหนีไม่พ้น Claudio บุตรชายคนโตที่ถูกส่งไปบริหารธุรกิจในสหรัฐอเมริกาในปี 1982 ขณะอายุ 25 ปี และไม่มีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษมาก่อนเลย  กระทั่งเวลาผ่านไป 15 ปี เขาได้กลายเป็นผู้นำในการดำเนินเรื่องนำ Luxottica  เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไปจนถึงการเข้าซื้อกิจการ LensCrafters มูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญในปี 1995 และเพิ่มยอดขายในอเมริกาเหนือมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 26 เท่าเป็น 2 พันล้านเหรียญ  ในปี 1998 บุตรชายคนโตของ Del Vecchio ตัดสินใจขายหุ้นของเขาใน Luxottica เพื่อนำเงินไปซื้อ Casual Corner ร้านค้าปลีกที่กำลังดิ้นรน หลังจากขาดทุนมานับทศวรรษ และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส กวาดกำไรกว่า 40 ล้านเหรียญจากรายได้ทั้งหมด 808 ล้านเหรียญในปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มกราคม 2001 “เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตัวเอง” Del Vecchio กล่าว ต่อมาในปี 2001 Claudio ได้ซื้อกิจการบริษัทเสื้อผ้าบุรุษชื่อดังอย่าง Brooks Brothers ด้วยเงิน 225 ล้านเหรียญ หลังขาย Casual Corner ให้กับบริษัทอื่น เพื่อมุ่งหน้าบริหารงานเพียงแห่งเดียว  กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2020 มีเหตุจำเป็นต้องยื่นฟ้องล้มละลาย ก่อนที่บริษัทร่วมทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Authentic Brands และเจ้าของห้างสรรพสินค้า Simon Property จะเข้าซื้อ Brooks Brothers เป็จำนวนเงิน 325 ล้านเหรียญ  ด้าน Leonardo Maria บุตรคนที่ 2 ของ Del Vecchio ยังคงข้องเกี่ยวอยู่ในธุรกิจของครอบครัวในฐานะหัวหน้าฝ่ายค้าปลีกของ Luxottica ขณะที่บุตรคนอื่นๆ อาทิ Paola, Marisa, Clemente และ Luca ยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทใดๆ ของผู้เป็นพ่อมากนัก  และเป็นไปได้ว่าทรัพย์สินขอ Del Vecchio จะถูกส่งต่อไปยังทายาทของเขาโดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากลักเซมเบิร์กซึ่งเป็นที่ตั้งของ Delfin จะไม่เก็บภาษีมรดกหากผู้ตายไม่ใช่ผู้มีถิ่นที่อยู่อาศัยในประเทศ ในขณะที่โมนาโกซึ่งเขาอาศัยอยู่จนกระทั่งเสียชีวิต จะไม่เก็บภาษีมรดกสำหรับทรัพย์สินที่ส่งต่อไปยังคู่สมรสหรือทายาทโดยตรง  ปัจจุบัน บุตร 5 คนจากทั้งหมด 6 คนของ Del Vecchio อาศัยอยู่ในอิตาลี ขณะที่ Claudio อาศัยอยู่ในบ้านพัก 9 ห้องนอน ซึ่งประกอบไปด้วยห้องเก็บไวน์ สระว่ายน้ำ และสปาสำหรับสุนัขใน Muttontown, Long Island ซึ่งเปิดขายตั้งแต่ต้นปี 2021 ในราคา 12.5 ล้านเหรียญ ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่บันอยู่ที่ 11 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ดี ทนายความของ Claudio Del Vecchio ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นนี้  แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Here’s How Many Billions The Heirs Of Italy’s Second Richest Man–Who Died Monday–Stand To Inherit เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Gautam Adani มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย บริจาค 7.7 พันล้านเหรียญฯ เพื่อการกุศล

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine