ซีพี-เมจิ ชวนคนไทยดื่มนม ฉลอง ‘วันดื่มนมโลก’ สร้างสุขภาพที่ดี ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรโคนม - Forbes Thailand

ซีพี-เมจิ ชวนคนไทยดื่มนม ฉลอง ‘วันดื่มนมโลก’ สร้างสุขภาพที่ดี ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรโคนม

บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ชั้นนำของประเทศไทยและอยู่คู่คนไทยมากว่า 35 ปี ฉลองวันดื่มนมโลก (World Milk Day) เชิญชวนคนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้น และกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญของนมซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อร่างกายตลอดทุกช่วงชีวิต โดยเฉพาะเด็กไทยควรดื่มนมเพื่อให้มีรูปร่างสูงสมวัยและมีสุขภาพแข็งแรง


    องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization หรือ FAO) กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันดื่มนมโลก (World Milk Day) เพื่อเน้นย้ำให้ตระหนักถึงความสำคัญของนมในฐานะอาหารของผู้คนทั่วโลก ซึ่งมีทั้งคุณค่าทางโภชนาการ เป็นส่วนผสมของอาหารอื่นๆ มากมาย และมีส่วนสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี

    ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ในปี 2566 ระบุว่า อัตราการดื่มนมของประชากรไทยยังคงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 6 เท่า โดยซีพี-เมจิมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้คนไทยเห็นคุณค่าของการดื่มนมตามเป้าหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นมากกว่า 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายใน ปี 2570 โดยเฉพาะนมโคแท้ 100% เพราะนอกจากผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารและโภชนาการที่ดีจากนมแล้ว การบริโภคนมที่มากขึ้นยังสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศอีกด้วย


สลิลรัตน์ พงษ์พานิช

    สลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า “ซีพี-เมจิ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมนมพาสเจอร์ไรส์รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคนไทยให้ดื่มน้ำนมโคแท้ 100% ที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายจากธรรมชาติ เรามั่นใจว่าการบริโภคนมทั้งในประเทศไทย และทั่วภูมิภาคกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น”

    สลิลรัตน์ชี้ว่าตลาดนมสดพาสเจอร์ไรส์และเครื่องดื่มนมในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีสีสัน สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายมีความหลากหลาย ซีพี-เมจิซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมการคิดค้นผลิตภัณฑ์นมรูปแบบใหม่ๆ ทั้งเรื่องของการเพิ่มคุณค่าสารอาหาร รสชาติ และคุณสมบัติจำเพาะ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงและซับซ้อนมากขึ้นของผู้บริโภค

    “นอกจากซีพี-เมจิจะมีความตั้งใจในการผลิตนมสดพาสเจอร์ไรซ์คุณภาพเยี่ยม เพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภค พร้อมกับการสร้างการเติบโตให้กับตลาดแล้ว บริษัทฯ ยังตระหนักถึงการดูแลและรับผิดชอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ” สลิลรัตน์เผย

    โดยซีพี-เมจิได้จัดตั้งทีมงานบริหารจัดการน้ำนมดิบ เพื่อทำงานร่วมกับศูนย์รับน้ำนมดิบ กลุ่มเกษตรกร และประสานกับภาครัฐ อาทิ กรมปศุสัตว์ ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการดูแลโคนมและการจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร เพื่อเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวในการให้วัวแต่ละตัวสามารถผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของตลาด


ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ซีพี-เมจิ

    อีกทั้งซีพี-เมจิยังต้องการช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรุ่นใหม่เพื่อสานต่อการทำฟาร์มโคนมให้เติบโต สร้างอาชีพที่มั่นคง โดยปัจจุบัน ซีพี-เมจิ รับซื้อน้ำนมดิบในปริมาณ 580-600 ตันต่อวัน จากเครือข่ายเกษตรกรฟาร์มโคนม 6,000 แห่งทั่วประเทศ

    นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี ทั้งมิติทางสังคม ผ่านโครงการด้านการศึกษาจนถึงโภชนาการในโรงเรียนและชุมชนรอบข้าง ส่วนมิติด้านสิ่งแวดล้อมมีการตั้งเป้าหมายในการลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายของประเทศไทยในปี 2023 คู่ขนานไปกับการดูแลรักษาผืนป่าต้นน้ำ ด้วยการปูพรมสร้างพื้นที่สีเขียว ปลูกป่าให้ได้ 200,000 ต้น ในจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง

    “สำหรับซีพี-เมจิ เบื้องหลังนมทุกขวด คือการสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับเจตนารมณ์แห่งการ ‘เพิ่มคุณค่าชีวิต’ แก่ผู้มีส่วนในห่วงโซ่คุณค่า (Value chain)” สลิลรัตน์ สรุป


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอน บ้านปู เน็กซ์ X เครซ คาเฟ่ เปิดร้านกาแฟป๊อปอัพคาเฟ่ พลังงานสะอาด 100%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine