กว่า 40 ปีบนถนนสายธุรกิจ ประสบการณ์ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ “ดีแทค” ยังทรงคุณค่าในการส่งต่อกิจการ แต่นอกเหนือไปกว่านั้นการมีหัวใจนักแบ่งปันของ บุญชัย เบญจรงคกุล เป็นอีกจุดเด่นของประธานค่ายมือถือแห่งนี้ ทำให้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยสีสันและเป็น Lifelong Philanthropy ด้วยการส่งเสริมเมล็ดพันธุ์แห่งความดีให้กับสังคม
ความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในความดี ไม่เอาเปรียบ และรู้จักแบ่งปันคือ อุดมการณ์ด้านบวกที่เชื่อว่าหลายคนตั้งใจ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถก้าวเดินด้วยแนวคิดนี้ได้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับ บุญชัย เบญจรงคกุล แขกรับเชิญของ Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งนำเสนอด้วยธีม Hero of Philanthropy เศรษฐีใจบุญในแง่มุมที่ต่างออกไป ไม่ใช่การบริจาคหรือทำมูลนิธิช่วยผู้ยากไร้ แต่เป็น philanthropy ในบริบทของการแบ่งปัน การส่งต่อแนวคิดที่ดี สร้างคน สร้างพลังบวก ช่วยต่อยอดสังคม จรรโลงให้คนมีจิตสาธารณะรู้จักการอยู่อย่างแบ่งปัน เกื้อกูล ร่วมกันพัฒนาชีวิต สังคมและประเทศชาติ “งานที่ทำเพื่อสังคมไม่มีวันเกษียณ ผมพบว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน ทำให้พวกเขาไม่เป็นคนเกเร สามารถเติบโตขึ้นมาทำงานและช่วยเหลือสังคมได้” เป็นเหตุผลลึกๆ ในใจของบุญชัยกับโครงการเสริมพลังบวกให้กับสังคมที่เขาทำมานานนับ 10 ปี ส่วนประสบการณ์ที่มีมายาวนานกว่า 40 ปีในธุรกิจทำให้เขายังคงส่งต่อแนวคิดและมุมมองในการทำธุรกิจให้ทีมบริหารมืออาชีพนำไปสานต่อในรูปแบบและวิธีการสมัยใหม่
12 ปีสำนึกรักบ้านเกิด
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเป็นหลักคิดของบุญชัย คือ การจะทำอะไรก็ตามต้องมีความพร้อม ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองแข็งแรงก่อน “ผมต้องอยู่รอดและแข็งแรงก่อนจะไปช่วยคนอื่น นี่ก็เป็นที่มาว่าทำไมผมถึงคิดช่วยเด็กๆ ด้านการศึกษา และโครงการสำนึกรักบ้านเกิด แม้ชื่อจะบอกว่าสำนึกรักบ้านเกิด แต่หากน้องๆ ยังไม่พร้อม ยังไม่แข็งแรงเขาก็คงจะกลับไปช่วยบ้านเกิดยังไม่ได้ ต้องทำตัวเขาเองให้แข็งแรงก่อน” ด้วยมุมมองนี้เองทำให้โครงการสำนึกรักบ้านเกิดเน้นสร้างเสริมให้เด็กๆ เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งก่อนจะกลับไปพัฒนาถิ่นกำเนิดของตนเอง โครงการสำนึกรักบ้านเกิดของบุญชัย เกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากการที่เขาได้มีส่วนช่วยงานภาครัฐในการแก้ปัญหา “ตกเขียว” หรือปัญหาที่มีการนำเด็กๆ จากภาคเหนือมาทำงานกลางคืนและขายบริการ “ผมทำสำนึกรักบ้านเกิดมาทั้งสิ้น 12 รุ่น เป็นเวลา 12 ปีก่อนจะหยุดไปตอนที่ผมเกษียณเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ก็ได้สร้างเสริมเยาวชนให้มีความรู้ มีการศีกษา และมีใจช่วยเหลือสังคมมาได้กว่า 1,000 คน กระจายไปหลายวงการ” บุญชัยสรุปสั้นๆ ถึงโครงการสำนึกรักบ้านเกิดที่เขาทำอย่างจริงจังมาตลอด 12 ปี และถึงแม้จะยุติโครงการกองทุนส่งเสริมเรื่องการศึกษาไปแล้ว
ร่วมด้วยช่วยกันทุกที่
โครงการร่วมด้วยช่วยกัน เป็นแนวคิดของการแบ่งปันช่วยเหลือกันในสังคมผ่านทุกช่องทางที่สามารถทำได้ โดยมีทีมงานอาสาสมัครเป็นคนกลางคอยประสานงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ รับแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1677 ซึ่งบุญชัยบอกว่า ปัจจุบันมีอาสาสมัครในโครงการนี้กว่า 4,000 คน ทุกคนอาสามาทำงานด้วยใจ ซึ่งเขามองว่ากำลังพลตำรวจในไทยมีไม่เพียงพอต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมากกว่า 20 ล้านคน
สร้างเสริมเกษตรกรยุคใหม่
เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด นับเป็นการสร้างแหล่งเรียนรู้และสร้างสรรค์ให้กับคนในภาคเกษตรได้อย่างเท่าทันเทคโนโลยี เพราะไร้ข้อจำกัดเรื่องสถานที่และเวลา เนื่องจากเป็นเว็บไซต์จึงสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง เขาเน้นส่งเสริมเรื่องการเกษตรเพราะมองว่า คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศยังอยู่ในภาคเกษตรและไทยก็เป็นประเทศเกษตรกรรม จึงต้องให้ความสำคัญพัฒนาภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง และเป็นแนวคิดที่ดำเนินตามรอยพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ท่านสอนเรื่องเกษตรด้วยทฤษฎีเกษตรผสมผสาน ให้ประชาชนสามารถหาเลี้ยงชีพและสร้างความร่ำรวยได้ในเส้นทางของการเป็นเกษตรกร เขามองว่าการพัฒนาลักษณะนี้จะทำให้ได้เกษตรกรรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่อายุน้อยๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย สามารถพัฒนาเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยให้ทันสมัยขึ้น บุญชัยทำสิ่งเหล่านี้ด้วยใจที่คิดอยากจะสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ดีให้กับแผ่นดินไทย เขาทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและไม่ได้หวังผลตอบแทนเป็นตัวเงินเชื่อมงานศิลป์สู่รากเหง้าอาเซียน
การพูดคุยในวันนั้นทำให้รู้ว่าประธาน กรรมการและผู้ก่อตั้ง ดีแทค ผู้นี้ทำอะไรเยอะมากในแง่ของการแบ่งปัน และดูเหมือนจะยังไม่มากพอสำหรับเขา ซึ่งมีความฝันใหม่ที่สืบต่อมาจากความชื่นชอบในงานศิลปะที่เป็นอีกศาสตร์ที่เขารักและทุ่มเท ถึงขั้นสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA Bangkok ขึ้นเมื่อปี 2555 กว่า 9 ปีแล้วที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่แสดงผลงานศิลปะของเหล่าศิลปินทั่วฟ้าเมืองไทย แต่มาวันนี้บุญชัยกำลังคิดไกลไปอีกขั้น เขาต้องการให้งานศิลปะเป็นสื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ เล่าเรื่องเส้นทางของประวัติศาสตร์ที่จะเชื่อมโยงอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียว หลังจากหลายปีมานี้ได้เห็นความแตกต่างและความพยายามช่วงชิงผลประโยชน์ของชาติอาเซียนด้วยกันชัดขึ้นเรื่อยๆ “ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่า อยากสลายความเป็นคนมาเลเซีย คนไทย คนลาว คนเขมร ให้น้อยลง กลับมาเป็นคนสุวรรณภูมิเหมือนเดิมเป็นเมืองแห่งการค้าที่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต ความเป็นหนึ่งเดียวกันจะทำให้เราไม่ต้องเสียทหารในเหตุการณ์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” เขาเล่าว่า รู้สึกสะเทือนใจเมื่อ ครั้งหนึ่งเคยไปส่งมอบโรงเรียนที่สร้างให้กับชุมชน แต่เขากลับต้องรีบเดินทางออกจากพื้นที่ก่อนค่ำเพื่อป้องกันเหตุร้าย เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังมีผู้ก่อการร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกเขาว่า ต้องรีบกลับก่อนค่ำ เพราะคนเหล่านี้พูดไม่รู้เรื่อง พวกเขาต้องการแบ่งแยกดินแดน

คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine
