ธุรกิจหลักอีกสายของครอบครัวสุขะมงคลคือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Patco Property ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2531 ด้วยการพัฒนาโครงการสามมุขธานี ก่อนจะขยับขยายมาเป็นวิจิตราธานีและมารวย แบรนด์บ้านเดี่ยวชื่อดังแห่งภาคตะวันออก ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแล นวณัฐ สุขะมงคล
จากช่วงเริ่มโครงการสามมุขธานี ที่พัฒนาโดยสุทิน-วิจิตรา สุขะมงคล ต่อด้วย เดอะ รอยัล สามมุข บ้านจัดสรรหรูที่สุดในจังหวัดชลบุรี จากนั้น วิจิตรา ได้วางโครงการนี้ให้มืออาชีพรับช่วงต่อส่วนตัวเองกลับไปลุยธุรกิจหลักเครื่องยนต์การเกษตรเต็มที่ หลังจากนั้นทายาทรุ่น 2 สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป บุตรชายคนโตมารับช่วงต่อดูแลภาพรวมของธุรกิจทั้งหมดของกลุ่ม และเป็น นวณัฐ สุขะมงคล บุตรสาวคนที่ 3 เป็นผู้บริหารหลักรับภารกิจนำ Patco Property สู่เป้าหมายบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่สร้างการจดจำด้วยคุณภาพและบ้านขนาดใหญ่ “อสังหาฯ มาจากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่ปี 2531 ปัจจุบันเราพัฒนามา 25 โครงการหากนับจำนวนบ้านลูกค้าได้ประมาณ 4,000 หลัง มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท” นวณัฐ สุขะมงคล รองประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป ทายาทรุ่น 2 ของบ้านสุขะมงคล ผู้รับช่วงต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว บอกกับทีมงาน Forbes Thailand เพื่อย้ำว่าการพัฒนาอสังหาฯ สำหรับแพทโก้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยคุณแม่และคุณพ่อของเธอวางรากฐานไว้ค่อนข้างดี กับโครงการที่สามมุข เริ่มจากสามมุขธานี และเดอะ รอยัล สามมุข ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่หรูหราที่สุดในจังหวัดชลบุรี
-ขยายตลาด-ปรับระบบสร้างเร็ว-
นอกจากนี้ Patco Property ยังได้ขยายฐานตลาดจากเดิมบ้านเดี่ยวมาสู่ทาวน์โฮมและลักชัวรี่โฮม เพิ่มเซกเมนต์ให้ครบ จากเดิมอยู่กลางๆ ขยายให้ครอบคลุมตลาดระดับบนด้วย “เรามีกำลังการผลิตเยอะขึ้น เมื่อใช้ precast ทำให้สามารถสร้างบ้านจบใน 4 เดือน เก็บรายละเอียดบ้านด้วยเน้นขั้นตอนการตรวจบ้าน บางทีเข้าไปตรวจเอง ตรวจจนมั่นใจว่าทุกอย่างโอเคค่อยปล่อยงานออก” เป็นวิธีการทำงานที่แม่ทัพอสังหาฯ ของแพทโก้ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพโครงการก่อนส่งมอบให้ลูกค้า มาตรฐานต้องได้ตามเกณฑ์ของแพทโก้แม้ว่าจะมีการปรับระบบงานก่อสร้างมาใช้ระบบกึ่งสำเร็จรูปหรือพรีแคส ที่ทำให้ลดระยะเวลาการก่อสร้างลงจาก 12 เดือนเหลือเพียง 4 เดือน แต่ ดร. นวณัฐบอกว่ามาตรฐานไม่ได้ลดลงกลับดียิ่งขึ้น เพราะกว่าจะเลือกระบบพรีแคสที่มาใช้กับโครงการผู้บริหารแพทโก้ใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดค่อนข้างมาก “เราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ precast เมื่อ 3-4 ปี ทำช้าเพราะรอเรื่องคุณภาพ จากข้อจำกัดที่ได้ยินมาตลอด เราศึกษาจุดดีจุดด้อย บินไปดูระบบที่ญี่ปุ่น เยอรมนี เพราะเขาทำมาก่อนเรา 40-50 ปี บ้านเรา precast เพิ่งเข้ามา 10 ปี เราบินไปศึกษาจนมั่นใจก่อนจึงตัดสินใจ” เป็นอีกหนึ่งสไตล์ของกลุ่มแพทโก้คือ ขยายอย่างค่อยเป็นค่อยไป “ช้าๆ แต่ชัวร์” หลังจากนำระบบพรีแคสมาใช้ นวณัฐมองการพัฒนาเชิงรุกมากขึ้น “จากนี้ไปเราจะเพิ่ม segment เพิ่ม speed และเพิ่มทีมงานโดยเน้นพัฒนาบุคลากร ด้วยการวางรากฐานตั้งแต่ต้น foreman, senior, PM พนักงานอยู่กับเราเป็น 10 ปี เปิดรับเด็กรุ่นใหม่มาฝึกทำ เน้นปูรากฐานสร้างคนตั้งแต่เด็ก” เธอย้ำและให้น้ำหนักกับเรื่องของทัศนคติและวิถีปฏิบัติโดยบอกว่า “วัฒนธรรมองค์กรสำคัญ การพัฒนาสำคัญ ความคิดทัศนคติคนสำคัญ เพื่อดูแลบ้านคุณภาพให้ลูกค้า”-ปั้นอีก 10 โครงการหมื่นล้าน-
ผ่านมากว่า 30 ปีพัฒนาไป 25 โครงการ แต่เมื่อมีระบบพรีแคสเข้ามาทำให้เป้าหมายการขยายธุรกิจของ Patco Property ใหญ่และเร็วขึ้น “ตอนนี้กำลังปั้น 10 โครงการมูลค่าหมื่นล้าน จะทำหลายที่ มีที่สระแก้ว อรัญประเทศ ปราจีน และโครงการเธอลาดพร้าว 93 เข้าเมืองมากขึ้น แต่เน้นแนวราบ เพราะเราถนัดและชอบ ลูกค้าได้ space ใหญ่ เราเน้นหาที่ดินที่การคมนาคมดีและราคาไม่แพง” เป็นวิชั่นที่ทีมบริหารแพทโก้ กรุ๊ป มองร่วมกัน เพราะพื้นฐานความพร้อมจากที่ดินของครอบครัวที่มีกว่า 20,000 ไร่เป็นแต้มต่อที่ค่อนข้างดี “ที่ดินที่มีอยู่ก็มาคัดว่าเหมาะทำการเกษตรหรือเชิงพาณิชย์ จะทำโรงแรมหรือหมู่บ้าน เน้นตามความเหมาะสม อย่างล่าสุดจะทำโรงแรม 36 ห้องเป็น boutique hotel เน้นประหยัดพลังงาน ออกแบบให้ลูกค้าเรียนรู้ culture ของบางแสน” ดร. นวณัฐเผยหนึ่งในแผนงานอนาคตที่เธอมองว่าต่อไปการท่องเที่ยวต้องมีจุดขายที่โดดเด่นการเน้นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมคือความแตกต่าง ถ้าเป็นทั่วๆ ไป เที่ยวที่ไหนก็ได้ แต่ถ้ามีคอนเซ็ปต์ของวัฒนธรรมจะมีจุดขายที่ชัดเจน โครงการนี้คาดว่าจะพัฒนาในปี 2564 ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้นำกลุ่มอสังหาฯ แพทโก้บอกว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทมากนัก เพราะเป็นโครงการแนวราบ แต่ที่กระทบมากเป็นมาตรการจำกัดเรื่องการวางเงินดาวน์บ้านหลังที่ 2 และ 3 หรือ LTV: Loan To Value การกำหนดสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน เนื่องจากทำให้ลูกค้าบางคนที่เป็นการซื้อหลังที่ 2 เมื่อถูกกำหนดต้องดาวน์ 10% ทำให้ชะลอการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางกลุ่มมียอดขายที่ดี “เรามี backlog (ยอดขายรอโอน) 500 ล้านบาท บ้านหลังแรกไม่มีปัญหา แต่ต้องยอมรับคนมองว่าซื้อบ้านเหมือนกับการทยอยซื้อหุ้นและออมทุน” เธอยังบอกด้วยว่า “การซื้อบ้านหรือที่ดิน มันคือ alternative investment เก็บออมเป็นบ้านมูลค่าไม่ลด ถ้าเป็นหุ้นอาจลดทองคำก็อาจลด แต่บ้านไม่เคยลด เช่น บ้านที่มารวยฉะเชิงเทราเปิดขาย 2 ล้านกว่าตอนนี้ 3 ล้านกว่าแล้ว”
