เรื่องควรรู้ก่อนคัดหุ้นเข้าพอร์ทครั้งต่อไป - Forbes Thailand

เรื่องควรรู้ก่อนคัดหุ้นเข้าพอร์ทครั้งต่อไป

คนที่เข้ามาเทรดเก็งกำไรหุ้นเดี๋ยวนี้มีจำนวนเพิ่มและหลากหลายขึ้นมาก มีทั้งเดย์เทรดจบในวัน สวิงเทรดกินรอบสั้นๆ ยาวขึ้นมาหน่อยแบบขี่เทรนขึ้นให้สุดก่อนแล้วค่อยขายก็มีไม่น้อย มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เรียกว่าตามความถนัดของแต่ละคน แต่การเก็งกำไรทุกแนวมีส่วนนึงที่เหมือนกันคือ ต้องคัดหุ้น (สแกนหุ้น) ซึ่งทุกวันนี้สะดวกขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งบทวิเคราะห์และโปรแกรมดูหุ้นส่วนใหญ่มีฟังชั่นสแกนหุ้นให้ มีทั้งเงื่อนไขการสแกนจากข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อัตราส่วนทางการเงิน ที่เป็นยอดนิยมคือ อัตราส่วนหนี้ต่อทุน (D/E), อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE), อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) เป็นต้น การสแกนทางเทคนิคก็ไม่น้อยหน้า ที่เป็นยอดนิยมคือ การคัดหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายโดดเด่น, ราคาตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย (MA) ต่างๆ หรือใช้อินดิเคเตอร์ เช่น MACD เป็นต้น เรียกว่าใช้ไม่หมด ถ้าไม่ได้เทรดเก็งกำไรอยู่แล้ว เจอศัพท์เทคนิคพวกนี้เข้าไปคงมึนไม่น้อย เข้าใจได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเทรดเก็งกำไรหรือลงทุนระยะยาวในหุ้น การรู้ว่าตลาดจะโฟกัสที่หุ้นกลุ่มไหน และใช้ตรรกะอย่างไรในการคัดหุ้นจะเป็นประโยชน์มาก เพราะจะช่วยให้คุณโฟกัสกลุ่มหุ้นได้ถูกรอบที่จะมา. แต่ที่น่าเสียดายและเป็นความตลกร้ายอยู่เรื่องนึงคือ คนที่ใช้ฟังชั่นสแกนหุ้นส่วนใหญ่มักใช้เงื่อนไขเดิมสแกนหาหุ้นในทุกสภาวะตลาด. ตลาดหุ้นแพงก็ใช้เงื่อนไขนี้ ตลาดหุ้นถูกก็ใช้เงื่อนไขนี้ หุ้นขึ้นแรง-หุ้นลงหนักก็ใช้เงื่อนไขนี้ ผลคือ สแกนหุ้นออกมาเวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้าง และนานไปก็จะพาลไม่เชื่อหุ้นที่สแกนออกมาอีกด้วย ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะไม่มีความรู้ และเพราะขาดความเข้าใจที่ถูกต้องประกอบกับความเคยชิน ซึ่งแก้ไขได้ไม่ยาก ปัญหามันเหมือนเส้นผมบังภูเขา บอกจุดนิดเดียวแก้ไขได้เลย.  ในกรณีตลาดหุ้นแพง สมมุติว่า SET ที่ 1,600 จุด จะตีความได้ว่าส่วนใหญ่ที่ซื้อหุ้นกำไรกันแล้ว แปลว่าหุ้นมีโอกาสถูกขายทำกำไรออกมา เราควรสแกนหาหุ้นจากปัจจัยพื้นฐาน หุ้นที่มีความสามารถสร้างกำไรได้ดี (RoE สูง) มีปันผล สำคัญเทรดบน P/E ที่ไม่สูง ถ้า SET ยังไปได้ต่อ หุ้นลักษณะดังกล่าวก็จะมีแนวโน้มขึ้น เพราะคนจะหาจังหวะขายหุ้นแพงและมาซื้อหุ้นถูกแทน. ถ้า SET ถูกทำกำไรลงมา. หุ้นลักษณะดังกล่าวมีแนวโน้มลงน้อยเพราะปันผล และเทรดบน P/E ที่ไม่ได้สูง หรือเรียกว่าหุ้นถูกอยู่แล้ว เป็นต้น ในกรณีตลาดหุ้นถูก สมมุติว่า SET ที่ 1,200 จุด หุ้นโดนทำกำไรลงมาแล้ว และหุ้นถูกทั้งตลาด สแกนหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานจะได้ประโยชน์น้อย เพราะบ่อยครั้งที่ตลาดถูกทำกำไรและพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน. เราควรใช้เงื่อนไขการสแกนทางเทคนิค คัดหุ้นที่มีแรงซื้อโดดเด่นกว่าตลาด อาทิ หุ้นที่ขึ้นราคาขึ้นมากกว่า SET มี Relative Strength (RS) > 1, หุ้นที่ขึ้นสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนที่ผ่านมา (Highest High Value หรือ HHV) หุ้นลักษณะดังกล่าวคือหุ้นที่ถูกไล่ราคา หรือเก็งกำไรขึ้นมาก่อนนั่นเอง. ด้วยตรรกะข้างต้นนี้ การสแกนหุ้นก็จะยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด และจะมีประสิทธิภาพดีขึ้น. เวลา SET แพง คัดหาหุ้นถูก เวลา SET ถูก คัดหาหุ้นแกร่ง การปรับตรรกะการสแกนหุ้นเพียงเล็กน้อยนี้ ก็จะช่วยให้เรามีแนวโน้มซื้อหุ้นได้ถูกรอบมากขึ้นครับ ะ