AI คือกุญแจสำคัญที่จะพลิกโฉมและเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างมีความรับผิดชอบ และ Google ก็มุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทยก้าวสู่ยุค AI
เดิมพันครั้งสำคัญของไทย
เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะแตะประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2568 และมีผู้ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลรายใหม่มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เราเชื่อว่าการวางรากฐานที่แข็งแกร่ง เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรม การเตรียมแรงงานให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยี AI และการส่งเสริมการยอมรับและการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างทั่วถึงจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสที่เกิดขึ้นจาก AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับวาระขับเคลื่อนโอกาสด้าน AI สำหรับประเทศไทย
โอกาสสำหรับประเทศไทย
ในปี 2565 การที่ธุรกิจต่างๆ ในไทยนำผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ทํางานด้วยระบบ AI ของ Google ไปใช้ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.5 แสนล้านบาท และสนับสนุนการจ้างงานในประเทศกว่า 250,000 ตำแหน่ง อีกทั้งช่วยสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ครัวเรือนไทยอีกกว่า 4.53 แสนล้านบาท นับเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งและช่วยปูทางให้ไทยคว้าโอกาสมากมายที่เกิดขึ้นจาก AI
AI มีศักยภาพในการยกระดับเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน อดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภาคธุรกิจที่มีมูลค่าสูง เช่น บริการทางการแพทย์ ซึ่งการนำ AI มาใช้จะช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์นี้ โดยจะช่วยเร่งการพัฒนาแรงงาน ธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
การเตรียมแรงงานให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยี AI
แรงงานที่มีทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุอนาคตด้วย AI โดยเฉพาะสำหรับสังคมสูงวัยที่ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะดิจิทัลอย่างเช่นประเทศไทย การลดช่องว่างผ่านการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่เศรษฐกิจไทยได้มากถึง 1 ล้านล้านบาทในปี 2573
เพื่อสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทย Google ได้มอบทุนการศึกษาสำหรับใบรับรองทักษะอาชีพในหลักสูตร Google Career Certificates เพิ่มเติม 12,000 ทุน ภายใต้โครงการ “Samart Skills” ให้กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ทำให้มียอดรวม 34,000 ทุน เพื่อช่วยคนไทยพัฒนาทักษะพร้อมรับใบรับรองทักษะอาชีพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
จำนวนการประกาศรับสมัครงานเกี่ยวกับ AI ที่เพิ่มขึ้นถึง 21 เท่า สะท้อนถึงความต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Google เองก็เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้จึงได้เปิดตัวหลักสูตร Google AI Essentials ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจและสามารถใช้งานเครื่องมือ Generative AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเขียนพรอมต์ที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ Google Cloud ยังเปิดหลักสูตร Introduction to Generative AI ให้แก่บุคคลทั่วไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหลักสูตรออนไลน์ที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Gen AI กับ AI ประเภทอื่น และการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ
ในปีที่ผ่านมา Google ฝึกอบรมครูกว่า 5,000 คน ผ่านโปรแกรม Gemini Academy ให้ครูสามารถทำงานร่วมกับ Gemini ช่วยพัฒนาทักษะ AI และยกระดับการสอน
ประโยชน์ของ AI ต่อประเทศไทย
รายงานของ Access Partnership ระบุว่า หากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ นำนวัตกรรม AI มาใช้งานจะสามารถปลดล็อกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 2.6 ล้านล้านบาทภายในปี 2573
AI มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เช่น ฟีเจอร์ AI ใน Google Workspace ช่วยให้ผู้ใช้แต่ละคนประหยัดเวลาได้มากถึง 28 วันต่อปี การให้ Gemini ช่วยวางแผนการเดินทาง การใช้ Circle to Search บนสมาร์ทโฟนเพื่อหาข้อมูลได้เร็วขึ้น หรือการใช้ NotebookLM ผู้ช่วย AI สำหรับงานเขียนและการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจเอกสาร ทำสรุป และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Google ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลราชวิถีและกรมการแพทย์นำร่องระบบประเมินโรคจอประสาทตาอัตโนมัติ (ARDA) ซึ่งใช้ AI คัดกรองภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในผู้ป่วยไปแล้วกว่า 30,000 คน และยังนำ AI มาใช้ในเครื่องมือพยากรณ์น้ำท่วมที่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้าถึง 7 วัน ช่วยคนไทยเตรียมรับมือได้ทันเวลา
นี่เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของ Google ในการทำให้ AI มีประโยชน์สำหรับทุกคน
การสร้างระบบนิเวศที่เน้น AI เป็นหลัก
ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อนำ AI ไปใช้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ซึ่งรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้ ในการประชุมเอเปค ครั้งที่ 30 Google และรัฐบาลไทยได้ประกาศความร่วมมือ 4 เสาหลักเพื่อส่งเสริมให้ไทยเติบโตในเศรษฐกิจ AI ได้แก่ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ การวางนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) และการทำให้คนไทยเข้าถึงทักษะดิจิทัลได้มากขึ้น
Google Cloud มีแผนก่อตั้ง Cloud Region แห่งแรกในไทย และพิจารณาจัดตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่ในไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการด้านดิจิทัล หนุนคนไทยเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมพัฒนาเครื่องมือ และทรัพยากรที่องค์กรอื่นๆ สามารถนำไปต่อยอดและปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ จาก AI
Google ยังสนับสนุนการพัฒนานโยบาย Cloud First ของกระทรวงดีอี ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีความยืดหยุ่น ประหยัดค่าใช้จ่าย ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม และมีการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ได้มาตรฐาน
ตัวอย่างความสำเร็จจากการใช้ AI ธุรกิจในไทย เช่น Isuzu และ Lazada เริ่มคว้าโอกาสจาก AI ของ Google เพื่อโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วน Agoda ได้ร่วมมือกับ Google พัฒนา Travel Planner แอปพลิเคชันที่ทำงานด้วยระบบ AI ทำให้การวางแผนการเดินทางเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกขึ้น
Google Cloud ยังได้จับมือ ทีดี ตะวันแดง ช่วยร้านโชห่วยจัดการปัญหาการเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของวงการค้าปลีก โดยใช้ AI และเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลของ Google Cloud ในการคำนวณและจัดส่งสินค้าไปยังร้านค้าพาร์ตเนอร์ได้ทันท่วงที
Google มุ่งมั่นพัฒนา AI เพื่อคนไทย และเป็นบริษัทแรกๆ ที่ให้คำมั่นสัญญาผ่านหลักการเกี่ยวกับ AI ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google ยึดถือในการพัฒนาและนำ AI ไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบในส่วนของภูมิภาคเอเชียตะวันออก-เฉียงใต้ ทีมวิจัยของ Google และ AI Singapore ได้เปิดตัว Project SEALD (Southeast Asian Languages in One Network Data) เพื่อยกระดับชุดข้อมูลที่สามารถใช้ฝึก พัฒนา และประเมินโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language model) ช่วยให้เข้าใจบริบททางวัฒนธรรมได้ดียิ่งขึ้น โดยภาษาไทยเป็นภาษาแรกๆ ที่จะได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการนี้
Google สนับสนุนไทยเข้าสู่ยุค AI เพื่อก้าวสู่การเป็น Digital Samart Thailand ที่คนไทยสามารถใช้พลัง AI เพื่อปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ให้กับตนเองและช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ยกระดับทักษะบุคลากรรับอนาคตยุค AI