"ดิจิทัลแวนการ์ด" โต้คลื่นการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสร้างโอกาสธุรกิจ - Forbes Thailand

"ดิจิทัลแวนการ์ด" โต้คลื่นการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสร้างโอกาสธุรกิจ

FORBES THAILAND / ADMIN
11 Mar 2020 | 10:00 AM
READ 4166

โลกธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งได้เข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการและรูปแบบการสื่อสารกับลูกค้า ความคาดหวังด้านประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงความต้องการของลูกค้าด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ (digital transformation) ที่เป็นที่รู้จักโดยแพร่หลายระหว่างธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันจึงไม่ได้เป็นทางเลือกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่จำเป็นที่จะทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้

การโต้คลื่นการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทำได้ยากกว่าที่คิด ธุรกิจดั้งเดิมหลายแห่งโดยเฉพาะกลุ่มที่ประสบความสำเร็จและยุ่งอยู่กับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิมมักจะไม่ยอมรับว่า โลกของธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นยังสังเกตได้ไม่ชัดเจน ทำให้การคาดการณ์อนาคตยิ่งทำได้ยาก ทั้งที่ในความเป็นจริงความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น องค์กรต่างๆ จะต้องสร้างความพร้อม โดยเลือกระหว่างการใช้กลยุทธ์เชิงรับโดยการตั้งรับมือเพื่อป้องกันธุรกิจ หรือการใช้กลยุทธ์เชิงรุกโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในธุรกิจ

ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO) ทั่วโลกของดีลอยท์ พบว่า องค์กรชั้นนำกลุ่มหนึ่งที่มีคุณสมบัติเฉพาะจะเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้นำตลาดด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีเกิดใหม่ ซึ่งจะเรียกกลุ่มองค์กรดังกล่าวว่าดิจิทัลแวนการ์ด

ธุรกิจดิจิทัลแวนการ์ดดังกล่าวนี้จะสร้างจุดเด่นจากคู่แข่งอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ผ่านคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ ความสอดคล้องระหว่างกลยุทธ์ธุรกิจกับกลยุทธ์เทคโนโลยี (business-IT alignment) การบริหารคนเก่ง (talent management) และกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี (technology strategy)

คุณสมบัติทั้ง 3 ประการต้องประสานกันอย่างลงตัว พัฒนาแต่ละด้านอย่างชัดเจน จะทำให้องค์กรมีความพร้อมมีจุดเด่นที่เหนือจากคู่แข่งได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ลำดับแรก ความสอดคล้องระหว่างกลยุทธ์ธุรกิจกับกลยุทธ์เทคโนโลยี (business-IT alignment) - โดยกรอบความคิดแบบเติบโต (growth mindset) จะขับเคลื่อนการลงทุนด้านนวัตกรรม บริษัทที่เป็นดิจิทัลแวนการ์ดจะกำหนดนโยบายที่เน้นกลยุทธ์การเติบโต และคิดค้นนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ส่วนงานด้านธุรกิจและเทคโนโลยีจะต้องทำงานร่วมกันและมีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดได้ การทำงานเป็นทีมภายใต้เป้าหมายเดียวกันจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนองค์กร สร้างการเติบโต สร้างความแตกต่างสร้างจุดเด่นที่เหนือคู่แข่งได้

ทั้งนี้ CIO จะพลิกบทบาทจากการเป็นส่วนงานสนับสนุน กลายเป็นผู้ร่วมกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจ โดยทำงานใกล้ชิดร่วมกับผู้นำองค์กร รวมทั้งเป็นผู้กำหนดและขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านดิจิทัลด้วยตนเองให้สอดคล้องกับภารกิจต่างๆ ของธุรกิจ ควบคู่กับการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านดิจิทัลในภาพรวมขององค์กร

ลำดับที่สอง การบริหารจัดการคนเก่ง - วัฒนธรรมที่มีพลวัตจะดึงดูดคนเก่งระดับต้นๆ ได้

บริษัทดิจิทัลแวนการ์ดจะมีความมุ่นมั่นในการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้บริษัทสามารถจ้างงานและรักษาคนเก่งด้านเทคโนโลยีระดับต้นๆ ไว้ได้ โดยบริษัทดิจิทัลแวนการ์ดจะดึงดูดและรักษาคนเก่งด้านเทคโนโลยี โดยอาศัยชื่อเสียงองค์กรในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม และการให้โอกาสที่จะทำงานกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจ

องค์กรที่เป็นองค์กรดิจิทัลใหม่ จะต้องให้ความสำคัญต่อการเข้าใจและตอบสนองความต้องการของพนักงานที่มีศักยภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้คนเก่งขององค์กรเข้าใจบทบาทและคุณค่าของพนักงานที่สร้างให้แก่องค์กร

โดยองค์กรควรส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วม ความเท่าเทียม และความหลากหลายของบุคลากรในทุกระดับ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมการทดลองแบบวนซ้ำ (iterative experiment) และการล้มเหลวให้เร็ว (fail fast) อีกด้วย

ทั้งนี้ ตลาดแรงงานในอนาคตจะมีความท้าทายเพิ่มยิ่งขึ้น โดยจะต้องคำนึงถึงวิธีการปรับปรุงรูปแบบของงานต่างๆ รวมทั้งการบริหารแรงงานสำรองไว้สามารถเรียกใช้เมื่อจำเป็น (contingent workforce) โดยองค์กรจะต้องมีผู้นำที่แข็งแรงที่สามารถขับเคลื่อนและส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรม (innovative culture) ในองค์กรได้ด้วย

ลำดับสุดท้าย กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี - สร้างสมดุลที่ดีของกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานและกลยุทธ์ใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยีและการลงทุน บริษัทดิจิทัลแวนการ์ดจะสามารถบริหารจัดการความต้องการของธุรกิจทั้งในปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสร้างความสมดุลระหว่างการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานกับเทคโนโลยีเกิดให

นั่นหมายถึง บริษัทควรต้องมีการลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่าสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นสามารถรองรับความต้องการทางธุรกิจในปัจจุบันได้ดี ควบคู่กับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence - AI) และระบบที่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง (machine learning) รวมถึงการกำหนดแนวทางด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างครอบคลุม

การศึกษาและเข้าใจ 3 องค์ประกอบของ ดิจิทัลแวนการ์ด ได้แก่ ความสอดคล้องระหว่างกลยุทธ์ธุรกิจและกลยุทธ์เทคโนโลยี การบริหารจัดการคนเก่ง และกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี จะทำให้บริษัทต่างๆ สามารถพัฒนาและกำหนดกลยุทธ์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขององค์กรได้ชัดเจนมากขึ้น

ซึ่งการกำหนดกลยุทธ์ดังกล่าวจะต้องพิจารณาสภาพตลาดและสิ่งแวดล้อมของธุรกิจ โมเดลในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการพิจารณาความเหมาะสมของวัฒนธรรมองค์กร ความสามารถและทักษะบุคลากรต่อการสนับสนุนทิศทางและกลยุทธ์องค์กร ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ

ในส่วนของการบริหารบุคลากร องค์กรอาจต้องพิจารณาการยกระดับทักษะ (upskill) บุคลากรที่มีศักยภาพ ผ่านการฝึกความรู้และทักษะใหม่ (re-train) รวมทั้งการเข้าถึงกลุ่มคนเก่งที่แตกต่างจากลูกจ้างรูปแบบเดิมผ่านกระบวนการปัญญาจากฝูงชน (crowdsourcing)

อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึงในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ คือ การมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ มีความคล่องตัวและเข้าใจในระบบดิจิทัล ตลอดจนมีแนวคิดที่มองไปข้างหน้าและมองเชิงระบบนิเวศ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำรุ่นต่อไป (next-gen leader)

    โดย Viney Hora Partner, ดีลอยท์ ประเทศไทย
คลิกอ่านบทความทางธุรกิจที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มีนาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine สรพหล นิติกาญจนา