William Heinecke วัย 70 ปี สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติการณ์ที่ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ด้วยการสละตำแหน่งซีอีโอเมื่อเดือนมกราคม หลังจากนั่งในตำแหน่งนี้มา 53 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 1967
Dillip Rajakarier ชาวอังกฤษผู้เข้ามาร่วมงานกับไมเนอร์ในปี 2007 รับตำแหน่งต่อจาก William Heinecke และยังคงนั่งในตำแหน่งซีอีโอของไมเนอร์ โฮเทลส์ ในปัจจุบันไปพร้อมกันด้วย และปัจจุบัน Heinecke เป็นประธานกรรมการบริหาร “ผมไม่ได้มองว่านี่คือการก้าวลงจากตำแหน่ง” เขากล่าว “ผมเรียกว่าเป็นการก้าวขึ้นไป”
Heinecke ใช้เวลาในปี 2019 เพื่อรวมกิจการ NH Hotel Group ของสเปนที่ไมเนอร์ซื้อมา 2.26 พันล้านเหรียญ เมื่อปี 2018 เข้ามาในกลุ่ม ซึ่งช่วยให้บริษัทด้านการท่องเที่ยวและการบริการที่มีฐานอยู่ในกรุงเทพฯ แห่งนี้ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับโลก การซื้อกิจการดังกล่าวช่วยให้ไมเนอร์มีกำไรทั้งปี 2019 พุ่งขึ้นถึง 137% เป็น 1.1 หมื่นล้านบาท (341 ล้านเหรียญ)
แต่แม้จะมีผลประกอบการดี หุ้นไมเนอร์ก็ยังตกเนื่องจากความหวาดกลัวไวรัสโคโรนา และทรัพย์สินสุทธิของ Heinecke ก็ลดลง 36% เหลือ 1.15 พันล้านเหรียญ
Heinecke อดีตชาวอเมริกันซึ่งปัจจุบันถือสัญชาติไทยยังมองประเทศไทยในแนวโน้มที่ดี แม้จะมีปัญหาโรคระบาดเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม Heinecke ประกาศแผนปิดโรงแรมในกรุงเทพฯ และเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเข้มงวดมากขึ้น “นี่คือความท้าทายครั้งใหญ่” เขากล่าว “แต่ประเทศไทยสู้มาได้เสมอ และผมเชื่อมั่นว่า เราจะสู้ได้อีกครั้ง”
ไมเนอร์เป็นชื่อที่ Heinecke ตั้งให้บริษัทเนื่องจากเขาเริ่มก่อตั้งบริษัทนี้ตอนอายุ 18 ปี ไมเนอร์ยังคงเน้นธุรกิจหลัก ซึ่งรวมถึงร้านอาหารและธุรกิจค้าปลีก Heinecke กล่าวว่า บทบาทใหม่ของเขาสะท้อนถึงภาระงานในระดับโลกของเขาเองซึ่งมีมากขึ้น “จุดสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่การบริหารขนาดกิจการ” เขากล่าว ปัจจุบันไมเนอร์จ้างพนักงาน 75,000 คนในกว่า 50 ประเทศ -- Ron Gluckman
คลิกอ่านการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2020 ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine