Monde Nissin บริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ Betty Ang และครอบครัว วางแผนที่จะลดงบประมาณการใช้จ่ายในปีนี้ เพื่อรักษาฐานเงินสด ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของ โควิด-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ
ล่าสุด กำไรสุทธิของบริษัทลดลงเหลือ 3.2 พันล้านเปโซ (6.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในปี 2021 ลดลงราวร้อยละ 60 จากปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพ ตลอดจนแรงกดดันด้านอัตรากำไรจากราคาวัตถุดิบหลักที่พุ่งสูงขึ้น อาทิเช่น ข้าวสาลีและน้ำมันปาล์ม เป็นต้น แม้ยอดขายสุทธิจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เป็น 6.93 หมื่นล้านเปโซ
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังท้าทาย Monde Nissin อยู่นี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะลดรายจ่ายทางด้านต้นทุนจากเดิมที่ตั้งงบประมาณไว้สำหรับปี 2022 ที่ 9 พันล้านเปโซ
“เราจำเป็นต้องรักษาฐานเงินสดไว้ เพื่อให้เรามีความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ผันผวนอย่างไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนนี้” Jesse Teo ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินกล่าว พร้อมระบุว่า Monde Nissin มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1.39 หมื่นล้านเปโซ ณ สิ้นปี 2021 ในขณะที่บริษัทมีหนี้คงค้างอยู่ที่ 7 พันล้านเปโซ
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนมูลค่า 4.86 หมื่นล้านปีโซจากการนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งนับได้ว่าเป็นการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดของฟิลลิปปินส์เลยทีเดียว บริษัทเผยว่า ได้นำเงินในส่วนนี้ 1.56 หมื่นล้านเปโซไปใช้เพื่อชำระหนี้บางส่วนในเดือนสิงหาคมเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย
นอกจากนี้ Monde Nissin ยังได้ลดต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นด้วยการเสริมสร้างความต่อเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่ามีวัตถุดิบหลักเพียงพอ Henry Soesanto ซีอีโอของ Monde Nissin กล่าว
“ในขณะที่เราเริ่มต้นปี 2022 อย่างแข็งแกร่ง ความท้าทายหลักสำหรับเรา คือ วิธีที่เราจัดการกับวิฤตเงินเฟ้อในสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก” Henry Soesanto ซีอีโอกล่าวในแถลงการณ์ “มีเพียงไม่กี่ปัจจัยที่เราสามารถทำให้ห่วงโซ่อุปทานของเรามีคุณภาพได้ หลังจากนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบ (ด้านราคา) ต่อผู้บริโภค”
อย่างไรก็ดี Soesanto ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้ตั้งใจที่จะส่งต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคโดยสิ้นเชิง และนั่นก็มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อกำไรขั้นต้นอย่างแน่นอน “เราตระหนักอยู่เสมอว่าผู้บริโภคของเรากำลังเจ็บปวดจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปัจจุบัน”
ด้าน Monde Nissin ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Ang และมหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย Hidajat Darmono ซึ่งครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตบิสกิต Khong Guan ก่อนที่จะขยายผลิตภัณฑ์สู่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 1989
และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Monde Nissin ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอาหารแพลต์เบส หลังเข้าซื้อกิจการบริษัท Quorn ของอังกฤษในราคา 550 ล้านปอนด์ (724.5 ล้านเหรียญ) ในปี 2015
ปัจจุบัน Ang วัย 67 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัท สมรสกับ Hoediono Kweefanus บุตรชายของ Darmono วัย 69 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท ซึ่ง Forbes ประเมินมูลค่าสุทธิรวมของพวกเขาอยู่ที่ประมาณ 1.2 พันล้านเหรียญ
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Philippine Billionaire Betty Ang’s Monde Nissin To Cut Spending Amid Challenging Business Environment โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีฟิลิปปินส์ ประจำปี 2021