KakaoTalk พ่ายเพราะพลาด - Forbes Thailand

KakaoTalk พ่ายเพราะพลาด

FORBES THAILAND / ADMIN
15 Jun 2015 | 02:18 PM
READ 2630
เรื่อง: Ryan Mac เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา Photo courtesy of Kakao Corp. ในวันที่หนาวเหน็บของเดือนมกราคม ในกรุง Seoul เด็ก 5 คนรวมตัวกันบริเวณใต้ถุนตึก ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของเหล่าสาวกวีดิโอเกมของวัยรุ่นเกาหลี มีเพียงสองสิ่งที่จะทำให้พวกเขาหยุดเล่นจากเกมที่ชื่นชอบได้ชั่วขณะ คือการหันไปหยิบฮอตดอกที่อุ่นในไมโครเวฟมากิน หรือไม่ก็ส่งข้อความผ่าน KakaoTalkแอพสุดฮิตของผู้ใช้สมาร์ตโฟนในเกาหลีใต้ และยังเป็นสถานที่นัดพบกับ Kim Bum-Soo หรือ “Brian”ผู้ก่อตั้ง KakaoTalk 10 ปีกับช่วงเวลาที่เขาทุ่มเทสร้าง KakaoTalk แอพมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเหล่าผู้ใช้มือถือ เพราะส่งข้อความโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มันจึงเข้ามาแทนที่ SMS แต่ละเดือน 3 ใน 4 ของประชากรเกาหลีใต้กว่า 50 ล้านคน และคนอีก 10.8 ล้านคนนอกประเทศเกาหลีใต้ใช้แอพตัวนี้ของเขา Kim หนุ่มใหญ่วัย 48 ผู้เงียบขรึมคนนี้ แม้เติบโตมาจากย่านที่ยากจนที่สุดของ Seoul ด้วยความมุมานะ เขาสามารถเข้าเรียน Seoul National University ซึ่งเปรียบเสมือน Harvard ของเกาหลีใต้ และสร้างตัวจนเป็นผู้ประกอบการด้านอินเทอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งนับว่าหาได้ยากมากในประเทศที่อำนาจและเงินส่วนใหญ่อยู่ในมือของ แชโบล หรือตระกูลใหญ่ที่กุมบังเหียนกิจการขนาดใหญ่อย่างเช่น Samsung หรือ Hyundai แม้เติบโตมาจากย่านที่ยากจนที่สุดของ Seoul แต่ด้วยความมุมานะ เขาสามารถเข้าเรียน Seoul National University ซึ่งเปรียบเสมือน Harvard ของเกาหลีใต้ Kakao Corp ซึ่งทำให้โลกได้รับรู้ว่า แอพส่งข้อความสามารถทำอะไรได้อีกมากมายไม่ใช่แค่การแชตอย่างเดียว แต่มันยังสามารถใช้เป็น platform ในการขายบริการประเภทต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกม หรือสินค้าออนไลน์อื่นๆ อย่างเช่น คูปอง และสติ๊กเกอร์ ในเดือนตุลาคม Kakao ควบรวมกิจการกับ Daumซึ่งเป็นบริษัทให้บริการ online search ที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองในเกาหลีใต้ แล้วเกิดเป็น Daum Kakaoซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 7.4 พันล้านเหรียญ แต่ไอเดียดีๆ ก็มักจะถูกลอกเลียนแบบได้อย่างรวดเร็วเท่ากับความเร็วของอินเทอร์เน็ตเช่นกัน ดังนั้น Kakao Talk ของเขาจึงถูกจำกัดวงอยู่แค่ในตลาดเกาหลีใต้ เพราะคู่แข่งรายใหญ่กว่านำแนวคิดเดียวกันไปใช้กับตลาดอื่นที่ใหญ่กว่านอกประเทศแล้ว WeChat ที่ก่อตั้งโดย TenCent ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของ Kim เป็นแอพที่มีผู้ใช้งานชาวจีนสูงถึงเดือนละ 468 ล้านคน ในขณะที่ Line ซึ่งก่อตั้งโดย Naver บริษัทเดิมของ Kim ก็มีผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นสูงถึง 170 ล้านคน และยังมี WhatsApp ที่ Facebook พึ่งจะควักเงิน 2.2 หมื่นล้านเหรียญซึ้อกิจการมาในเดือนมีนาคม 2014 ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ใช้งาน KakaoTalk ในโลกลดลงเกือบ 5% ในปีที่ผ่านมา และทำให้ Kim อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าคู่แข่งระดับโลกรายอื่นในธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมาเอง แต่เขาดูไม่กังวลอะไร เพราะเกาหลีใต้  Kakao Talk ยังคงเป็นแอพที่ฮิตที่สุด แต่สักวันหนึ่ง Kim ก็คงต้องเผชิญหน้ากับ WeChat และ Line ในตลาดของประเทศจีนและญี่ปุ่น “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เรามีศักยภาพในการแข่งขันสูงมากในเชิงการตลาด (ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)” เขาบอกพร้อมกับลูบเคราแพะของเขาไปด้วย  “แต่เราพบว่าคนที่ขยับตัวได้ก่อนจะได้เปรียบมากจนรายอื่นเบียดแทรกเข้าไปได้ยาก ดังนั้น ผู้ให้บริการรับส่งข้อความหลายเจ้า จึงตัดสินใจชะลอกิจกรรมทางการตลาดลง...คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ แล้วใครล่ะ ที่จะเป็นผู้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่นั้นขึ้นมาได้ก่อน”
อ่านฉบับเต็ม "KakaoTalk พ่ายเพราะพลาด" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ MAY 2015