Anthony Tan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัท Grab ยังคงพัฒนา “ซูเปอร์แอป” อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผนการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน รวมทั้งขยายบริการเทคโนโลยีทางการเงิน
การระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่แล้วทำให้ธุรกิจบริการเรียกรถรับ-ส่งของ Grab ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากคำสั่งล็อกดาวน์และข้อจำกัดต่างๆ “ความคิดแรกของเราคือ จะทำอย่างไรให้พันธมิตรคนขับของเราสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับความช่วยเหลือด้านรายได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” Anthony Tan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัท Grab ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Forbes Asia ผ่านวิดีโอคอล ทางออกนะหรือ? “ต้องเลิกคิดว่ามันเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ” Tan วัย 39 ปีกล่าว- ปรับกลยุทธ์แพลตฟอร์มครอบจักรวาล -
Tan เล่าว่า Grab ขอให้คนขับหันมาส่งอาหาร เนื่องจากโรคระบาดทำให้ความต้องการบริการส่งอาหารเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ และที่อื่นๆ ทั่วโลก “ในระยะเวลาสั้นๆ เราสามารถเปลี่ยนบริการของนักขับได้กว่า 140,000 คน” Tan กล่าว ซึ่งนั่นรวมถึงนักขับราว 18,000 คนในมาเลเซียเพียงวันเดียว Tan บอกว่า ความยืดหยุ่นนี้เกิดขึ้นจากกลยุทธ์ซูเปอร์แอปของ Grab กล่าวคือ ลูกค้าสามารถใช้แอปเดียวกันนี้สั่งพิซซ่าแทนบริการเรียกรถ สมกับที่ Grab อธิบายตัวเองว่า “เราเป็นแพลตฟอร์มครอบจักรวาล” “จะเป็นบริการเรียกรถ ส่งสินค้าอี-คอมเมิร์ซ GrabFood หรือ GrabMart จะต่างกันก็แค่เลือกแท็ป คุณก็แค่เปลี่ยนแท็ปในแอป” Tan กล่าว “ธุรกิจของ Grab กลับยิ่งปรับตัวได้เป็นอย่างดี เพราะเราเป็นผู้เล่นรายเดียวในภูมิภาคนี้ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้หลากหลาย”


- เดินหน้าเข้าตลาดฟินเทค -
Grab เข้าตลาดบริการทางการเงินมาตั้งแต่ปี 2017 ด้วยการเปิดบริการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลที่มีชื่อว่า GrabPay ปัจจุบันบริษัท Grab Financial Group นำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประกันภัย สินเชื่อ การบริหารจัดการทรัพย์สิน และบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ในปี 2019 Grab ร่วมมือกับ Mastercard เปิดตัวบัตร GrabPay ที่สามารถใช้งานทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ บริษัทใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าของตนเองที่ประกอบไปด้วยคนขับ ผู้บริโภค และร้านค้า ในการทำการตลาดให้กับบริการดังกล่าวเพื่อขยายการเติบโต จนถึงวันนี้ Grab เผยว่า พวกเขาได้รับใบอนุญาตให้บริการทางการเงินมากมาย รวมทั้งใบอนุญาตให้บริการชำระเงินในตลาด 6 แห่งในภูมิภาค “ผู้บริโภคนับล้านๆ คนเมื่อนึกถึง GrabPay พวกเขาจะคิดว่า ฉันจะจ่ายเงินตอนนี้ก็ได้ จ่ายทีหลังก็ได้ จ่ายที่ไหนก็ได้ คุณจึงเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขา” Tan กล่าว นอกจากสิงคโปร์แล้ว Tan ยังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจฟินเทคในอินโดนีเซีย เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 Grab เพิ่มการถือหุ้นใน Ovo บริษัทฟินเทคในอินโดนีเซีย จนปัจจุบัน Grab ถือหุ้น 80% Tan บอกว่า Grab ต้องการมอบบริการทางการเงินที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นและราคาย่อมเยาในภูมิภาคแห่งนี้ “ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประชากร 6 ใน 10 คนจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้ใช้บริการของระบบธนาคารหรือใช้น้อยมาก เราจึงอยากให้คนกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงบริการได้” แรงผลักดันหนึ่งของ Grab ในการก้าวเข้าสู่ธุรกิจฟินเทคเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 จากผลงานของ Jixun Foo หุ้นส่วนผู้จัดการระดับโลกของบริษัทร่วมลงทุน GGV Capital ซึ่งเป็นผู้ลงทุนใน Grab ยุคแรกๆ “ทุกครั้งที่ผมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ ผมจะดูตัวเลขของพวกเขา ดูว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน ผมจะให้ความสำคัญ แม้ไม่ถึงกับออกคำสั่ง แต่ก็เน้นเรื่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์” Foo กล่าว พอถึงปี 2017 Grab ก็เปิดตัว GrabPay พร้อมเข้าซื้อกิจการ Kudo ซึ่งเป็นบริษัทอี-คอมเมิร์ซในรูปแบบ online to offline ชั้นนำแห่งหนึ่งของอินโดนีเซีย
- วิกฤตสู่การเติบโต -
แต่ที่แน่ชัดคือ ความท้าทายต่างๆ นานาไม่ว่าจะเป็นความซับซ้อนในเรื่องของกฎหมายซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บวกกับลักษณะเฉพาะของตลาดท้องถิ่นต่างๆ ทั่วภูมิภาค วิกฤตใหญ่ของ Grab เกิดขึ้นในปี 2014 จากเหตุการณ์ระบบล่มในวงกว้าง ทั้งในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย “ระบบของเราไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับการจองที่เพิ่มขึ้นในปริมาณมากและรวดเร็วอย่างที่เกิดขึ้น ผลก็คือ คนขับก็ไม่พอใจ ผู้ใช้บริการก็ไม่พอใจ” Tan กล่าว “ตอนนั้นผมคิดว่า บริษัทคงจบลงเท่านี้ เพราะใครเล่าจะกล้าเชื่อใจเราอีก” Tan เริ่มปฏิบัติการบริหารจัดการเหตุวิกฤต “ผมไม่ใช่วิศวกรจึงไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย ทำได้แค่เพียงอยู่เป็นเพื่อนทีมงาน พยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น คอยให้กำลังใจพวกเขา และที่สำคัญที่สุดคือ คอยส่งน้ำและอาหาร ตอนนั้นยังไม่มี GrabFood ผมจึงต้องทำหน้าที่เป็นเด็กส่งพิซซ่า” Tan กล่าว “โชคดีจริงๆ ที่เราฝ่าฟันจนผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เราซ่อมอุปกรณ์รับจองใหม่และปรับปรุงให้สามารถรองรับการขยายขนาดได้มากขึ้น” Grab ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งไปพร้อมๆ กับฝ่ายบริหารที่ได้บุคลากรฝีมือดีมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง “การที่พวกเขาส่วนใหญ่ยังคงทำงานอยู่กับ Tan บ่งบอกถึงสไตล์และความเป็นผู้นำของเขาได้เป็นอย่างดี” Chua Joo Hock หุ้นส่วนผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดียของ Vertex Ventures ที่มี Temasek เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นอดีตผู้ลงทุนรายแรกๆ ของ Grab กล่าว “เขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูงมาก หากตั้งใจว่าจะทำสิ่งใด เขาก็จะหาคนที่ใช่มาลงมือทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง และจะคอยติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินการอย่างเหมาะสม” สำหรับ Tan แรงผลักดันในการเป็นผู้ประกอบการของเขา ขับเคลื่อนด้วย “สัมผัสพิเศษ” ในการพิชิตภารกิจ “หลายคนแซวผม แต่ผมเชื่อว่า พระเจ้าส่งผมมาเป็นผู้บริหาร Grab และให้บริการแก่คนเป็นล้าน” เรื่อง: JESSICA TAN เรียบเรียง: รัน-รัน และกองบรรณาธิการ ภาพ: SEAN LEE อ่านเพิ่มเติม:- EVENTX เผยเทรนด์การจัดงานเวอร์ชวลอีเวนต์ เดินหน้าเชื่อมเอเชีย
- JOE GEBBIA ผู้ร่วมก่อตั้ง AIRBNB มอบหุ้นกว่า 2.2 ล้านเหรียญฯ แก่นักเรียน...
- 30 UNDER 30 ปี 2022 ตอนที่ 3: หนุ่มสาวแห่งโลกเทคโนโลยีและสุขภาพ
คลิกอ่านฉบับเต็มเรื่อง "แอปพลิเคชัน ครอบจักรวาล" และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine
