ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานักลงทุนกองทุนเฮดจ์ฟันด์อย่าง Adam Wyden ทำให้ผู้ร่วมลงทุนร่ำรวยขึ้น 11 เท่า รวมถึงโกยเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้ากระเป๋าตัวเองได้ด้วยการเปิดตัวบรรดาหุ้นทรงคุณค่า หากแต่สิ่งที่ตัวเขากังวลใจมากที่สุดก็คือ Ron Wyden บิดาซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภารัฐ Oregon จะรีดภาษีจากกำไรที่เขาทำได้จนเหลือแต่ซาก
Adam Wyden ซึ่งพำนักอยู่ในบ้านพักให้เช่าที่เปิดรับแสงอาทิตย์จ้าบนเกาะสุดหรูใน Miami อย่าง Bay Harbor Island กำลังฉุนเฉียวเมื่อได้ทราบข่าวจาก Bloomberg วันนี้ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายนว่าราคาหุ้นในตลาดกำลังปรับตัวลดลงเนื่องจากมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดี Biden ตั้งเป้าที่จะปรับเพิ่มการเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ เป็น 39.6% สำหรับผู้มีรายได้สูงหรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวสำหรับนักลงทุนผู้มีอันจะกิน “การกระทำเช่นนี้เป็นการต่อต้านความเป็นอเมริกา ผมผิดหวังมากกับรัฐบาลอเมริกาชุดปัจจุบัน คนพวกนี้รู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่” Wyden ตะโกนเสียงดังลั่น Wyden สามารถถามหาคำตอบจากผู้เป็นพ่ออย่าง Ron Wyden สมาชิกวุฒิสภารัฐ Oregon สังกัดพรรคเดโมเครต และประธานกรรมาธิการการเงินวุฒิสภาซึ่งมีอิทธิพลมากได้ Wyden ผู้พ่อเป็นสุดยอดนักรีดภาษีจากคนรวยซึ่งเรียกนโยบายลดภาษีธุรกิจของอดีตประธานาธิบดี Trump ว่า “เกมโกงภาษีแบบเล่นพรรคเล่นพวก” ในทางกลับกัน ลูกชายของเขาไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดๆ หากแต่เป็นสมาชิกคนสำคัญของค่าย Benjamin Graham ซึ่งทุ่มสุดตัวในการเสาะหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง และจนถึงปัจจุบัน Wyden ก็สร้างแต่ผลงานที่น่าทึ่ง ตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา Wyden ผู้เป็นลูกในวัย 37 ปี เปลี่ยนเงินที่ได้จากพิธีฉลองตามหลักศาสนายิวสำหรับเด็กอายุครบ 13 ปีที่เรียกว่า bar mitzvah กับเงินออมส่วนตัวให้เป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์มูลค่า 350 ล้านเหรียญ ซึ่งตัวเขาถือครองส่วนแบ่งมูลค่า 100 ล้านเหรียญ ในปัจจุบัน Wyden พิสูจน์ว่าตัวเองเป็นสุดยอดนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้เปี่ยมไปด้วยสินทรัพย์ราคาถูกเกินจริงโดยผ่านบริษัทใน Miami ของเขาอย่าง ADW Capital Partners เขาเสาะหาหุ้นนอกดัชนี S&P 500 โดยให้ความสนใจกับหุ้นขนาดเล็กและขนาดเล็กมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่นักวิเคราะห์และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่จะมองข้ามไป นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในเดือนมกราคม ปี 2011 ADW ของ Wyden ก็ให้ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมเกือบ 28% ต่อปี หรือสูงกว่าดัชนี S&P 500 ประมาณ 2 เท่า และทำให้นักลงทุน ร่ำรวยขึ้น 11 เท่าภายในระยะเวลา 1 ทศวรรษ
Wyden ไม่ใช่พวกตาขาวในการวางเดิมพันก้อนโต กองทุนของเขาเป็นกองทุนที่มีผู้ถือหุ้นคนเดียวซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดใน RCI Hospitality ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงยามราตรีสำหรับผู้ชายกว่า 40 แห่ง และเป็นบริษัทแม่ของ Rick’s Cabaret จาก Houston โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2020 Wyden เริ่มลงมือสะสมหุ้นจนสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ 10% ในบริษัทดังกล่าว
ราคาหุ้น RCI เพิ่มขึ้น 5 เท่านับตั้งแต่ที่ Wyden เข้าซื้อ ผู้ชนะรายใหม่ๆ ของเขา ได้แก่ PAR Technology ซึ่งจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคิดเงินให้กับร้านอาหารต่างๆ บริษัทบำบัดของเสียอย่าง GFL Environmental และกลุ่มบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่อย่าง API Group และหุ้นทั้งหมดนี้ทำให้กองทุนของเขามีกำไรสุทธิ 119% ในปี 2020 และมีกำไรอีก 36% นับจากต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน
Wyden ซื้อหุ้น Fiat Chrysler จำนวนมากในปี 2014 หลังจากรู้มาว่าผู้ถือหุ้น Fiat จะได้กรรมสิทธิ์ในบริษัทลูกอย่าง Ferrari แบบได้เปล่า ผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์แยกตัวเป็นบริษัทใหม่ในปี 2016 และมีราคาตลาดอยู่ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ามาร์เก็ตแคปทั้งหมดของ Fiat ในตอนที่ Wyden เริ่มลงทุนครั้งแรกหลายเท่าตัว เขาเรียกการลงทุนแบบนี้ว่า หุ้น “ตุ๊กตารัสเซีย” เพราะว่าหุ้นตัวนั้น มีสินทรัพย์ที่มากด้วยมูลค่าซ่อนอยู่ภายใน
“นี่เป็นยุคทองของการลงทุนเชิงรุก บริษัทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านเหรียญจนถึง 1 หมื่นล้านเหรียญยังมีผู้ให้ความสนใจน้อย และยังมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง” Wyden กล่าว
- เส้นทางการลงทุน -
Wyden เติบโตขึ้นใน Washington, D.C. และได้รับการปลูกฝังความสนใจเรื่องการลงทุนมาจาก Nancy ผู้เป็นยาย ซึ่งได้จัดตั้งสโมสรสำหรับนักลงทุนร่วมกับสมาชิกของโบสถ์ยิวในละแวกบ้านใน Portland รัฐ Oregon โดย Wyden จะไปพักผ่อนช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนที่นั่น ในช่วงวัยรุ่น Wyden เริ่มต้นธุรกิจล้างและดูแลรักษารถเพื่อหาเงินพิเศษสำหรับนำไปลงทุน ในปี 2002 Wyden เข้าศึกษาต่อที่ Penn’s Wharton School ในขณะที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เขาได้ฝึกงานกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์ D.E. Shaw แต่แทนที่จะไปทำงานเต็มเวลาที่บริษัทวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งนั้นหลังสำเร็จการศึกษา Wyden เลือกอาชีพนักวิเคราะห์ที่วาณิชธนกิจขนาดเล็กแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ในปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำ Wyden เข้าศึกษาต่อที่ Columbia Business School และเริ่มลงทุนอย่างดุดันโดยใช้เงินออมที่มีอยู่มองหาหุ้นราคาถูกใน “ภาวะตลาดนองเลือด” Wyden ให้ความสำคัญกับบริษัทขนาดเล็กที่มีเงินสดมากและมีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริงอย่างบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ท้ายตารางอย่าง Rodman and Renshaw ซึ่งมีราคาซื้อขายอยู่ระหว่าง 10-30 เซนต์ แต่ทำกำไรด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงลิ่วจากการจัดการควบรวมกิจการแบบย้อนกลับอันคลุมเครือให้กับบริษัทสัญชาติจีน ราคาหุ้นของ Rodman ปรับเพิ่มขึ้นจาก 10 เซนต์เป็นกว่า 6 เหรียญภายใน 90 วัน และ Wyden ก็ขายหุ้นดังกล่าวออกไปในที่สุด จากนั้นเขาพบโอกาสที่ดีกว่าใน IDT Corporation ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายบัตรโทรศัพท์แบบเติมเงินและหนังสือการ์ตูนที่มีราคาหุ้นอยู่ที่ 2 เหรียญต่อหุ้น แต่มีเงินสดต่อหุ้นในบัญชีอยู่ที่ 10 เหรียญและผลขาดทุนสุทธิทางภาษียกไปอีก 10 เหรียญ Wyden ทุ่มเงินออมที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ของเขากว่าครึ่งไปกับบริษัทแห่งนั้น โดยราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นไปอยู่ที่ 30 เหรียญ
- กลายร่างเป็นนักต่อสู้ -
ก่อนจบการศึกษาในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 “กองเงินกองทอง” ของ Wyden ก็มีมูลค่าอยู่ที่ 2-3 ล้านเหรียญแล้วและในเดือนมกราคม ปี 2011 Wyden ตัดสินใจเปิดตัว ADW และระดมทุนได้เกิน 1 ล้านเหรียญภายในเดือนแรก โดยซึ่งส่วนใหญ่มาจากเพื่อนฝูงและสมาชิกในครอบครัว (สมาชิกวุฒิสภา Wyden ไม่ได้ร่วมลงทุนด้วย) ADW มีกำไรสุทธิ 91% ในปีแรกและทำกำไรอย่างต่อเนื่อง 7 ปีติดต่อกัน มูลค่าของกองทุนเพิ่มขึ้น 6 เท่าหลังหักค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตามการวางเงินเดิมพันก้อนใหญ่กับบริษัทขนาดเล็กที่ขาดสภาพคล่องก็มีความเสี่ยง และในปี 2018 Wyden ก็สะดุดล้มลง EVI Industries ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ซักรีดเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีราคาหุ้นปรับเพิ่มจาก 6 เหรียญในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่ Wyden เริ่มลงทุนจนมีราคาสูงสุดแตะ 47 เหรียญ มีมูลค่าลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว Wyden ออกโรงโจมตีและกล่าวหาว่า บริษัทบริหารงานอย่างไม่ตรงไปตรงมาเมื่อใดก็ตามที่หุ้นในพอร์ตเริ่มมีผลประกอบการไม่ดี Wyden จะกลายร่างเป็นนักต่อสู้ Wyden ประณามฝ่ายบริหารของ PAR Technology ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตลาดต้องเรียกว่าเป็น ‘การลดแหลกของตระกูล Sammon’ ดูได้จากการที่ตระกูลนี้เพิกเฉยต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างสิ้นเชิง ทุกคนพากันตั้งข้อสงสัยว่านาย Sammon คนนี้ใช้เวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมาเขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกในหัวข้อ ‘วิธีการทำลายมูลค่าของผู้ถือหุ้น’ ใช่หรือไม่” Wyden เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้ PAR เปลี่ยนทีมบริหารชุดใหม่ในปี 2018 และ PAR ก็กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลประกอบการดีของ Wyden วาทกรรมของเขาที่ต่อว่าต่อขาน Select Interior Concepts บริษัทผลิตกระเบื้องและวัสดุปูพื้นใน Atlanta นั้นดุเดือดยิ่งกว่า “ในภาษายิวเราเรียกคนแบบนี้ว่า gonifs (คนขี้โกง) การพรากคุณค่าไปนั้นง่ายกว่าการสร้างมันขึ้นมา” Wyden กล่าว ในปี 2018 ADW ขาดทุน 33% และขาดทุนอีก 6% ในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 30% หลังจากนั้นก็เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งในระยะแรกพอร์ตของเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นการเดินเครื่องใหม่ซึ่งตัวเขาต้องการ Wyden ซึ่งกำเงินสด 50% ลงสู้กับวิกฤตครั้งใหญ่นี้มองภาพว่าภาวะตลาดกระทิงซึ่งกินเวลานาน 1 ศตวรรษนี้จะดำเนินต่อเนื่องไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหุ้นทรงคุณค่าและบริษัทที่มีความเกี่ยวพันกับสภาพเศรษฐกิจตามจริง ซึ่งราคาหุ้นไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของตลาดที่ขับเคลื่อนโดยหุ้นเทคโนโลยี “ตลาดต้องมีการปรับตัวใหม่ และตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว ทุกคนหดหู่อย่างหนักที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน พวกเขาอยากไปคลับที่มีนางโชว์ ไป Vegas ออกเดินทางท่องเที่ยว และออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน...ผมอยู่ในช่วงขาขึ้นจริงๆ” Wyden กล่าว เขาทำนายว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถหาเงินเพิ่มได้อีกเลยแม้แต่เหรียญเดียว แต่ผมก็กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีพันล้านอยู่ดี” Wyden ยอมรับความจริงที่ว่า ผู้มีรายได้มากจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าตัวผมจะมีอิทธิพลเหนือพ่อ” และเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเอง Wyden ตัดสินใจโยกย้ายกิจการทั้งหมดของเขาใน New York ไป Florida ซึ่งเป็นเขตปลอดภาษีเงินได้ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยได้ทุ่มเงิน 4.1 ล้านเหรียญซื้อซากอาคารบนเกาะส่วนตัวอย่าง La Gorce Island ใน Biscayne Bay เขาเปลี่ยนอาคารเก่าให้กลายเป็นกำไร 1.4 ล้านเหรียญ และกำลังทำสัญญาเพื่อซื้อแมนชั่นติดทะเลหลังใหม่เอี่ยมที่กว้างขวางกว่าเดิม “เราเป็นชาวเมือง Florida ผู้มีแต่ความสุข” Wyden กล่าวพร้อมกับยิ้มกว้าง เรื่อง: Antoine Gara เรียบเรียง: ริศา ภาพ: Mary Beth Koeth อ่านเพิ่มเติม:- MELINDA FRENCH GATES กับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
- DEAN SOLON เศรษฐีพันล้านผู้สร้างดวงอาทิตย์ของอเมริกา
- KATE WANG แห่ง RLX คุณแม่ผู้บุกเบิกตลาดบุหรี่ไฟฟ้า
คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine
