ยินดีต้อนรับสู่ นิวยอร์ก มหานครแห่งกัญชา - Forbes Thailand

ยินดีต้อนรับสู่ นิวยอร์ก มหานครแห่งกัญชา

นิวยอร์ก เป็นอีกหนึ่งรัฐที่เข้าร่วมการทำให้กัญชาถูกกฎหมายมากขึ้น ทำให้เจ้าของกิจการเปิดร้านขายแบบไม่มีใบอนุญาตกันมากมาย ทั้งในเมือง Big Apple แห่งนี้ และเมืองอื่นเพื่อสร้างรากธุรกิจกัญชาก่อนการเข้ามาของบริษัทยักษ์ใหญ เกิดเป็นการต่อสู้ในตลาดสีเทาของเหล่าสายเขียว

ณ นิวยอร์ก มีครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่รู้ดีว่าการตกเป็นเป้าในสงครามยาแห่งอเมริกานั้นรู้สึกอย่างไร นั่นก็คือ ครอบครัว Elfand 

ในเดือนเมษายนปี 1998 Ralph Elfand และ Jonathan ลูกชายของเขาโดนจับเนื่องจากพวกเขาเปิดสถานเพาะปลูกกัญชาไว้ในโกดังที่ Brooklynโดย Ralph ที่อายุ 59 ณ ตอนนั้นโดนจำคุก 3 ปีข้อหาสมคบคิดกันจัดจำหน่ายกัญชา ส่วน Jonathan วัย 30 ก็โดนสั่งจำคุก 10 ปี

ณ จุดหนึ่งในช่วงชีวิตของเธอ ผู้ชายทุกคนในครอบครัวของ Lenore Elfand ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วต่างก็ติดคุกเพราะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกัญชา แต่หลังจากที่รัฐนิวยอร์กประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายเมื่อเดือนมีนาคมปี 2021 ครอบครัว Elfand ถึงตัดสินใจเปิดร้านขายกัญชาแม้ว่าจะยังไม่มีใบอนุญาตก็ตาม

ในเดือนกันยายน Lenore ผู้ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนและพี่น้องของเธอเปิด Empire Cannabis Club โดยจะคิดค่าสมาชิกแบบรายวันวันละ 15 เหรียญสหรัฐ และสมาชิกจะสามารถซื้อเมล็ดกัญชา, กัญชาแบบทานได้ และกัญชาแบบสูบได้ในย่าน Chelsea เขต Manhattan

เราเปิดที่นี่ เพราะเรามีเป้าหมาย นั่นก็คือเอาปีที่เราสูญเสียไปกลับคืนมา Lenore กล่าวปีแล้วปีเล่าถูกต้องอยู่อีกฝั่ง [ในขณะที่] พี่น้องของฉันติดคุก มันกระทบทุกคนในครอบครัวฉัน

เมื่อปีที่แล้ว รัฐนิวยอร์กระบุให้กัญชาเพื่อการนันทนาการถูกกฎหมาย แต่ผู้ออกกฎทั้งหลายก็ยังไม่ได้ให้ใบอนุญาตใดๆ กับธุรกิจไหนทั้งนั้น ก่อให้เกิดช่วงเวลาแบบกึ่งไร้กฎเกณฑ์ที่ข้อห้ามเรื่องกัญชาในรัฐแห่งนี้หายไปแล้ว แต่ยังไม่มีตลาดสำหรับสายเขียวอย่างเป็นทางการ (นิวยอร์ก มีตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ที่เล็กมีข้อกำหนดเยอะมากทีเดียว)

ตลาดสีเทาของสายเขียว

เมื่อไม่ต้องกลัวว่าตำรวจจะมาบุกบ้านเมื่อไร ตลาดสีเทาก็เริ่มออกลายกันมากขึ้น เจ้าของกิจการบางราย รวมไปถึงตระกูล Elfand ตัดสินใจว่าจะวิ่งไล่ตามสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะเกิดขึ้นในรัฐนิวยอร์กเพื่อวิ่งนำหน้าคนอื่นๆ ไปก่อนในตลาดที่คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกปีข้างหน้า ก่อนที่บริษัทมหาชนอย่าง Curaleaf (มีรายรับ 889 ล้านเหรียญใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2021) ของมหาเศรษฐีพันล้าน Boris Jordan และ Green Thumb Industries (มีรายรับถึง 650 ล้านเหรียญในช่วงเวลาเดียวกัน) จะเข้ามาเปิดร้านสำหรับลูกค้ากลุ่มนันทนาการ

เราเห็นรัฐหลายรัฐที่ปล่อยให้ปลาใหญ่เข้ามาและก็กุมตลาด แล้วปลาเล็กก็แพ้ทุกรอบ Lenore กล่าวในคืนวันศุกร์เดือนมกราคม ณ ร้านของเธอในขณะที่สมาชิกจำนวนมากเข้ามาทุนของกันก่อนที่ช่วงสุดสัปดาห์จะมาถึงเราตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปเพราะว่าเราไม่ได้มีโอกาส และเราก็ควรจะได้รับมัน เราต้องเจอกับความอยุติธรรมมาหลายปีแล้ว

ตระกูล Elfand ไม่ได้ยืนกรานอยู่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่ที่ทางรัฐประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย ร้านค้าจำนวนมากก็ผลิบานไปทั่วเมืองแห่งนี้ ทนายฝั่งจำเลยด้านคดีอาญา Lonny Bramzon เปิดเลาจ์ส่งมอบกัญชา ในเขต Manhattan ฝั่งใต้โดยไม่มีใบอนุญาต ในขณะที่ Weed World Candies ซึ่งมีชายที่เรียกแทนตัวเองว่า “Dr. Dro” เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ที่เป็นที่รู้จักเพราะรถกระบะขายลูกอม CBD ก็มีหน้าร้านขนาดใหญ่ใกล้กับ Madison Square Garden ที่ขายกัญชาของแท้

อีกทั้งยังมีพวกฉวยโอกาสที่มีหน้าร้านไม่ได้สวยงามนัก เมื่อคืนวันพุธในช่วงกลางเดือนมกราคม บริเวณ Times Square ผู้ค้าหลายคนกระจายตัวอยู่เต็มทางเท้ายืนอยู่หลังโต๊ะพับได้ที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาแคลิฟอร์เนียหลายห่ออย่างกับกำลังขายแว่นกันแดดและผ้าคลุมไหล่ แต่มีกลยุทธ์การขายที่รุกรานเหมือนกับพวกนักแสดงที่ใช้ชุด Elmo ที่ดูแย่สุดๆ

เราไม่กังวลอะไรทั้งนั้นแหละ หนึ่งในผู้ค้ากล่าวขณะที่เสนอให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาลองดมกลิ่นกัญชาแรงๆในมือเพื่อกระตุ้นยอดขายกัญชามันถูกกฎหมาย และตราบใดที่คุณมีใบอนุญาตขายของริมทางคุณก็สบายแล้ว (เมื่อนักข่าวเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่ในรถตู้ใกล้ๆ ว่าการขายกัญชาริมทางแบบนี้ถูกกฎหมายหรือไม่ เขาก็กล่าวว่าไม่มีความเห็น)

ไม่ผิด กฎ

ผู้ออกกฎเกณฑ์เรื่องกัญชาของรัฐนิวยอร์กมองว่า Empire และร้านค้าอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ผุดขึ้นมาในเมืองแห่งนี้เป็นร้านขายยาที่ไม่มีใบอนุญาตและผิดกฎหมาย ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ New York State Office of Cannabis Management ส่งหนังสือเตือนให้หยุดการกระทำไปยังร้านค้าจำนวนมาก รวมไปถึง Empire ด้วย โดยขู่ว่าหากพวกเขาไม่ปิดตัวลง พวกเขาจะไม่มีสิทธิได้รับใบอนุญาต และอาจจะโดนคดีอีกด้วย

พวกคนแหกกฎเหล่านี้ต้องหยุดการกระทำของพวกเขาโดยทันที ไม่อย่างนั้นก็ต้องรับผลที่จะตามมา Tremaine Wright ประธานคณะกรรมการ Cannabis Control กล่าวในคำแถลงการณ์

แต่ Steve Zissou และ Sally Butler ทนายคู่ใจครอบครัว Elfand กล่าวว่า Empire ไม่ได้กำลังดำเนินธุรกิจอยู่ในโลกสีเทาหรือช่องว่างทางกฎหมาย แต่กำลังทำตามกฎหมายระบุไว้ในลายลักษณ์อักษรต่างหาก

Zissou อธิบายว่า Empire เป็นร้านขายยาไม่แสวงกำไร เขายอมรับว่า นี่เป็นโครงสร้างที่มโนขึ้นมา แต่เขาก็กล่าวว่า กฎหมายถูกเขียนไว้อย่างคลุมเครือ และลูกความของเขาก็ทำตามอย่างเต็มที่มันไม่ได้ซับซ้อนไปมากกว่านั้นเลย Zissou กล่าวกฎหมายก็อนุญาตแล้ว

กฎหมายกัญชาใหม่ของรัฐนิวยอร์กระบุว่า กัญชาไม่สามารถถูกจัดจำหน่ายได้โดยไม่มีใบอนุญาต กฎหมายนิยามการขายว่าเป็นการแลกเปลี่ยนบางอย่างเพื่อสิ่งตอบแทนแต่ไม่มีใครนิยามไว้ว่าสิ่งตอบแทนคืออะไรหากคุณดู Black's Law Dictionary คำว่าสิ่งตอบแทนไม่ได้เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้เลย Butler กล่าวหากมันจะเป็นอะไรล่ะก็ นี่คือ ความเห็นใจ มากกว่า

ควาแตกต่างดังกล่าว สำคัญมากในช่วงเวลานี้ เจ้าของกิจการกัญชาในรัฐนิวนอร์กยืนอยู่ด่านหน้าในสมรภูมิที่คาดว่าจะเป็นตลาดกัญชาเพื่อการนันทนาการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรองลงมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย (ซึ่งมียอดขายถึง 3.9 พันล้านเหรียญใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2021) และท่ามกลางคำขู่จากผู้ออกกฎเกณฑ์กัญชาในรัฐ Empire ก็ไม่มีท่าทีที่จะปิดตัวลง โดยพวกเขาได้เปิดสาขาที่ 2 ใน Lower East Side ที่ย่าน Manhattan เรียบร้อยแล้ว และจะเดินหน้าเปิดอีก 2 สาขาใน Brooklyn

ถ้าคุณต้องการความสงบจงเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม Zissou กล่าวภาษิตลาตินโบราณหากสงครามมา [ยังครอบครัว Elfands] พวกเขาก็พร้อม

แม้ว่ารัฐ 36 รัฐจะระบุให้กัญชาบางประเภทถูกกฎหมายแล้ว การค้าขายส่วนมากในสหรัฐอเมริกาก็ยังคงถือว่าผิดกฎหมายอยู่ จากการวิจัยของ Cowen พบว่า จากกัญชามูลค่า 6​.9 หมื่นล้านเหรียญที่ถูกซื้อในสหรัฐเมื่อปี 2020 ราว 5 หมื่นล้านเหรียญถูกขายในตลาดมืด ในปีที่แล้ว ตลาดสีเขียวนี้มีมูลค่า 7.2 หมื่นล้านเหรียญ โดยร้อยละ 65 ของยอดขายทั้งหมดเป็นการค้าขายที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้จากผลวิจัยของ Cowen คาดว่ากลไกนี้จะกลับตาลปัตรในปี 2026 และยอดขายแบบถูกกฎหมายจะเข้ามาเป็นตัวเลขหลักของตลาดแทน ภายในปี 2030 ตลาดกัญชาในสหรัฐจะมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านเหรียญ โดยธุรกิจที่ถูกกฎหมายจะกุมตลาดไว้ร้อยละ 65

Vivien Azer นักวิเคราะห์การวิจัยอาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเครื่องดื่ม, ยาสูบ และกัญชาประจำ Cowen กล่าวว่าในขณะที่ตลาดถูกกฎหมายจะเข้ามาครอบงำสิ่งที่ทุกคนเรียกว่า “legacy market” ได้แน่ๆ แต่ก็ฆ่าตลาดนี้ไม่ได้หรอก

ถอนรากถอนโคน? ฉันก็ไม่รู้ว่านั่นจะเป็นไปได้ขนาดไหนนะ Azer กล่าว

ปัญหาคือนโยบาย

แม้กระทั่งในอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเยอะอย่าง ยาสูบ ตลาดสีเทาก็ยังคงเติบโตได้อย่างสวยงามเนื่องมาจากภาษีที่สูงเฉียดฟ้า โดยตอนนี้ ในนครนิวยอร์ก บุหรี่ 1 แพ็คราคาราวๆ 15 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นภาษีไปแล้ว 5.85 เหรียญ ในตอนนี้ ราวๆ ร้อยละ 5 ของตลาดยาสูบสหรัฐมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญ คาดว่ามาจากยอดขายในตลาดสีเทา ซึ่งถูกนิยามว่าเป็นบุหรี่ที่ผลิตอย่างถูกกฎหมายแต่ขายอย่างผิดกฎหมายเพื่อเลี่ยงภาษี

บางทีอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดจากมุมมองการตั้งนโยบายยาคือตัวกฎหมายเองที่สร้างสีเทาหลากหลายเฉดขึ้นมา บ้างก็ถูกกฎหมาย บ้างก็ผิดเต็มๆ และยังมีตลาดที่แหกกฎกันเล็กๆ น้อยๆ อีก โดยขนาดของตลาดทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับภาษีและกฎเกณฑ์ ตัวอย่างเช่น หลังจากสิ้นสุดการห้ามสุราในปี 1933 จำนวนผู้ค้าเหล้าเถื่อน และบาร์ลับก็ลดลง แต่เมื่อรัฐบาลขึ้นภาษีแอลกอฮอล์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกผู้ค้าเหล้าเถื่อนก็กลับเฉิดฉายมาอีกครั้ง

คุณไม่มีตลาดสีขาว ตลาดสีเทา และตลาดมืดหรอก สิ่งที่คุณมีคือสเปคตรัมต่างหาก David Courtwright นักประวัติศาสตร์ด้านนโยบายยาและผู้เขียน The Age of Addiction กล่าวยิ่งคุณว่ากฎและภาษีไว้โหดมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเจอพฤติกรรมผิดกฎหมายหรือแหกกฎเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่แค่ความตายและภาษีนะที่เลี่ยงไม่ได้ ความตาย, ภาษี และตลาดสีเทาต่างหากล่ะ โดยข้อสองทำให้เกิดข้อสามอย่างเลี่ยงไม่ได้

ในขณะที่ตลาดกัญชาสีเทาแห่งนิวยอร์กกำลังไปได้สวย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆ รัฐในประเทศนี้มีปัญหาเรื่องตลาดสีเทาและตลาดผิดกฎหมาย แต่ในศูนย์กลางการผลูกัญชาที่มีคู่ประเทศนี้มายาวนาน และที่ที่มีภาษีสูงอย่างรัฐแคลิฟอร์เนียและออริกอนก็มีปัญหาดังกล่าวมีล้นมือเลยทีเดียว

ณ รัฐสีทอง ที่บางทีภาษีกัญชาก็สูงถึงร้อยละ 40 ตลาดสีเทาและตลาดมืดมันกว้างขวางมากเสียจนผู้ค้าอย่างถูกกฎหมายสู้แทบจะไม่ได้เลย โดยผู้บริหารระดับสูงในแวดวงสายเขียวผู้ที่ไม่อยากเปิดเผยชื่อกล่าวว่าบริษัทที่มีใบอนุญาตจำนวนมากมีขาข้างหนึ่งอยู่ในตลาดที่ถูกกฎหมาย และอีกข้างอยู่ในตลาดผิดกฎหมายเพื่อที่จะได้ไม่เจ๊ง ส่วนในรัฐออริกอนที่ภาษีกัญชาอยู่ที่ร้อยละ 20  ผู้ออกกฎใน Jackson County ประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากมีจำนวนผู้ปลูกกัญชาผิดกฎหมายจำนวนมาก

แม้กระทั่งเมืองหลวงของดินแดนแห่งนี้ก็หนีไม่พ้นปรากฏการณ์ตลาดสีเทา โดยใน Washington, D.C. กัญชาทางการแพทย์นั้นถูกกฎหมาย แต่กัญชาเพื่อการนันทนาการยังอยู่ในพื้นที่สีเทา โดยการขายกัญชาก็ยังคงผิดกฎหมายอยู่ ทำให้เจ้าของกิจการจำนวนมากทำธุรกิจขายเสื้อยืด หรือไม่ก็ไฟแช็คราคา 60 เหรียญและมอบผลิตภัณฑ์กัญชาที่ลูกค้าสามารถเลือกเองได้เป็นของขวัญร้านค้าที่ให้ของขวัญทั้งหลายนี้ถือว่าถูกกฎหมายตามที่ระบุไว้ในลายลักษณ์อักษร แต่ละเมิดเจตนาและจิตวิญญาณของกฎหมายนั้น Justin Strekal ผู้ก่อตั้ง Bowl PAC คณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมืองด้านกัญชากล่าว

เรากำลังพูดถึงเรื่องที่ผิดกฎหมายที่มีมากว่า 80 ปีซึ่งเป็นความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการผู้บริโภค Strekal กล่าวเราต้องค่อยๆ ปรับตัวกันไปจนกว่าผู้ออกกฎหมายและผู้ออกนโยบายจะมองเห็นปัญหาการเข้าถึงของผู้บริโภค ซึ่งนั่นก็หมายถึงการให้ใบอนุญาตมากขึ้นเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งการแข่งขันและความหลากหลาย

อนาคตสีเขียว

เมื่อตอนนี้ กัญชาถูกกฎหมายแล้วในนิวยอร์ก ผู้ประกอบการในตลาดสีเทาในเมืองนี้ก็ไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของผู้ประกอบการสายพันธุ์ใหม่นี้คือ The Green Truck หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Uncle Budd” โดยทางบริษัทมีรถตู้ดัดแปลงขนาดเล็ก 6 คนทั่วเมือง และผู้คนก็สามารถเดินไปอ่านเมนูที่รถ และบริจาคแล้วก็รับกัญชาเป็นของตอบแทนไป

Jimmy หนึ่งในเข้าของบริษัทผู้ไม่ยอมเผยนามสกุลกล่าวว่า บริษัทที่เกิดขึ้นที่ Harlem นี้เป็นบริษัทของชาวผิวสี และว่าจ้างพวกคนขายกัญชาในย่านนี้เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวเขาสู่ตลาดที่ถูกกฎหมายได้เมื่อไรก็ตามที่มีการให้ใบอนุญาต

คนค้ายาส่วนมากเป็นนักธุรกิจตัวยงเลย Jimmy กล่าวเราบอกกับพวกเขานี่ แทนที่คุณจะนั่งอยู่มุมตึกและขายกัญชา มาทำงานที่รถเรามาเราเองก็กำลังเข้าหาผู้คนที่เจ็บตัวเพราะกฎหมายกัญชา และเรากำลังพยายามที่จะพาเข้าเขาสู่อุตสาหกรรมนี้ด้วยความเข้าใจเรื่องแนวทางที่ทางรัฐบอกกับเราที่เรามีอยู่

Jimmy บอกว่าเขารู้ว่าพวกเขากำลังดำเนินธุรกิจอยู่ในบริเวณสีเทา แต่เขาคิดว่ามันก็สำคัญทีเดียวที่เราจะต้องมั่นใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยาจะได้รับผลประโยชน์จากการที่กัญชาถูกกฎหมาย “The Green Truck เนี่ย จากประชาชน เพื่อประชาชนเขากล่าวนี่แหละคือ Harlem นี่แหละคือ นิวยอร์ก

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Welcome To New York, The Wild West Of Weed เผยแพร่บน ​Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: Ghost Robotics สตาร์ทอัพ “หุ่นยนต์สุนัข” ที่อยู่เบื้องหลังการลาดตระเวนชายแดนของสหรัฐฯ


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine