ส่องเทรนด์ ‘Sephora Kid’ เมื่อ Gen Alpha หันมาคลั่งสกินแคร์ แต่คำถามคือจำเป็นแค่ไหน? - Forbes Thailand

ส่องเทรนด์ ‘Sephora Kid’ เมื่อ Gen Alpha หันมาคลั่งสกินแคร์ แต่คำถามคือจำเป็นแค่ไหน?

Sephora Kid เทรนด์มาแรงในหมู่ Gen Alpha ว่าด้วยการดูแลผิวพรรณและความงามของตัวเองโดยใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ทั้งยังมีการทำคอนเทนต์เผยแพร่เต็ม TikTok ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากสหรัฐอเมริกา แต่เทรนด์ดังกล่าวก็มีโอกาสแพร่ไปยังเยาวชนในประเทศอื่นผ่านสื่อโซเชียลที่เด็กๆ ยุคนี้เข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน นำมาสู่ความวิตกกังวลในวงการแพทย์ผิวหนังที่พยายามชี้ว่าสกินแคร์ไม่มีความจำเป็นสำหรับเด็กเลย


    Gen Alpha คือนิยามที่ใช้เรียกผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันก็มีอายุมากสุดเพียง 13-14 ปีเท่านั้น หรือก็คืออยู่ในวัยเด็กจนถึงวัยเปลี่ยนผ่านสู่วัยรุ่น จุดเด่นหนึ่งของชาว Gen Alpha คือการเกิดมาในยุคที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่รอบตัวจนอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้

    Sephora คือร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จและมีสาขาทั่วโลก โดย Sephora Kid ก็เป็นคำใช้เรียกเด็กๆ อายุน้อยอย่าง Gen Alpha ที่มักเข้าไปซื้อเครื่องสำอางและสกินแคร์ใน Sephora นั่นเอง



    “เทรนด์ Sephora Kid เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ได้เลยค่ะ” Dr. Lauren Penzi แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์กกล่าว

    Sephora Kid เหล่านี้ทำคอนเทนต์เผยแพร่มากมายบนแพลตฟอร์มยอดนิยมของยุคนี้อย่าง TikTok ซึ่งมีตั้งแต่การเข้าไปช็อปปิ้งในร้าน แบ่งปันวิธีการทาสกินแคร์ในแต่ละวัน ไปจนถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ อาจกล่าวได้ว่าเด็กๆ มีความสุขกับสินค้าความงามเหล่านี้ไม่ต่างจากที่เด็กๆ รุ่นก่อนสนุกกับของเล่น เป็นความนิยมของเด็กที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

    แต่จะมั่นใจได้อย่างไร ว่าชาว Gen Alpha เหล่านี้ไม่ได้กำลังตกเป็นเหยื่อการตลาด?


อิทธิพลโซเชียลและการตลาดดิจิทัล

    “นี่คือกลุ่มคนรุ่นแรกที่เติบโตในยุคดิจิทัลจริงๆ โดยที่ TikTok และ YouTube เข้ามาแทนที่การดูโทรทัศน์แบบเดิม พวกเขาจึงได้รับข้อมูลทั้งหมดนี้เพราะเหล่าบริษัทสื่อต่างๆ สามารถมุ่งเป้ามายังพวกเขาได้ง่าย” Dr. Marnie Nussbaum แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญการฟื้นฟูสภาพผิวเพื่อความงามโดยไม่ใช้ศัลยกรรมเผยแก่รายการ Today ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

    เธอกล่าวถึงพฤติกรรมการใช้สกินแคร์ของเด็กๆ Gen Alpha ว่า “พวกเขาต้องการลอกเลียนแบบวิดีโอที่เห็น ปัญหาคือพวกเขาตกเป็นเหยื่อการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เหมาะสมกับผิวของพวกเขาเลย”

    ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของเหล่าเซเลบริตี้วัยเยาว์ โดยเฉพาะเด็กๆ ตระกูล Kardashian ยกตัวอย่าง Noth West ลูกสาวของ Kim Kardashian เคยโพสต์วิดีโอบน TikTok ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้สกินแคร์ในตอนเช้าของเธอเมื่อปี 2022 ในตอนนั้นเธออายุเพียง 9 ขวบ แต่ใช้ทั้งแผ่นมาสก์หน้า มาสก์ริมฝีปาก และโทนเนอร์


North West กับวิดีโอเผยการใช้สกินแคร์บน TikTok


    หรือเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา Penelope ลูกสาวของ Kourtney Kardashian ก็แบ่งปันวิดีโอการใช้สกินแคร์ประจำวันของเธอซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมอย่าง Dior และ Charlotte Tilbury ก่อนจะกลายเป็นไวรัลบน TikTok และได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบจากบรรดาแพทย์ผิวหนังจำนวนมาก

    “ทำไมเด็กอายุ 11 ขวบแสนน่ารักคนนี้ถึงต้องใช้เครื่องสำอาง แล้วยังใช้สกินแคร์เป็นกิจวัตรที่มากขั้นตอนกว่าของฉันเสียอีก” Dr. Brooke Jeffy แพทย์ผิวหนังจากรัฐแอริโซนาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีของ Penelope

    นอกจากตระกูล Kardashian แล้ว ยังมีอินฟลูเอนเซอร์วัยเยาว์อีกจำนวนมากที่ทำคอนเทนต์แนวเดียวกันเผยแพร่บน TikTok ซึ่งหลายคนก็มองว่าน่ารัก เป็นการเรียนรู้และค้นหาตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก แต่หลายคนก็มองว่าน่าเป็นห่วงเสียมากกว่า

    จำนวนอินฟลูเอนเซอร์วัยเยาว์ที่มากขึ้น พาให้แบรนด์ต่างๆ หันมาเจาะกลุ่มลูกค้าอายุน้อยกันมากขึ้นตาม รวมถึงแบรนด์ความงาม เช่น Evereden, Sol de Janeiro, Elf Cosmetics และ Drunk Elephant ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ Gen Alpha



    พนักงาน Sephora ในนิวยอร์กซิตี้รายหนึ่งเผยกับ CNN ว่าเด็กๆ หลั่งไหลเข้ามาในร้านกันไม่ขาดสาย พวกเขาไม่ได้ขอคำแนะนำใดๆ จากพนักงานด้วยซ้ำ แต่กลับมุ่งตรงไปยังเชลฟ์สกินแคร์ที่กำลังเป็นกระแสด้วยฝีมือของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีราคาแพง

    นอกจากนี้ แบรนด์สกินแคร์หลายแบรนด์หันมาออกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลจาก Statista เผยว่าตลาดนี้จะมูลค่าถึง 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตราว 7.71% ต่อปี


สกินแคร์ จำเป็นสำหรับเด็กหรือไม่?

    เคยมีลูกค้าอายุน้อยถามแบรนด์ Drunk Elephant ว่า “เด็กสามารถใช้ได้ไหม?”

    คำตอบคือ “ได้ แต่ใช่ว่าทุกผลิตภัณฑ์ของเราจะเหมาะสำหรับผู้ใช้อายุตั้งแต่ 12 ปีลงไป” ตามด้วยคำแนะนำและการกำชับให้ผู้ปกครองช่วยดูแล

    Dr. Stacey Tull แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ความงามกังวลว่าเด็กๆ จะตกเป็นเหยื่อของเทรนด์โซเชียลโดยปราศจากซึ่งความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์จริงๆ เช่นเดียวกับแพทย์ผิวหนังอีกหลายรายที่ออกมาค้านการใช้สกินแคร์ของเด็กๆ พร้อมให้เหตุผลเรื่องของความจำเป็น และชี้ว่าส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้ผู้ใหญ่ใช้ ซึ่งแน่นอนว่าผิวของผู้ใหญ่และเด็กมีความต้องการที่ต่างกัน

    Dr. Stacey Tull ยกตัวอย่าง เรตินอล (Retinol) วิตามินเอรูปแบบหนึ่งที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของสกินแคร์ ด้วยคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย ซึ่ง “เด็กๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องใช้เรตินอล” และชี้ว่าผลิตภัณฑ์เรตินอลตามร้านนั้นมีไว้สำหรับผิวของผู้ใหญ่


Dr. Lauren Penzi และ Dr. Marnie Nussbaum


    ด้าน Dr. Marnie Nussbaum เผยว่า “คลีนเซอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมัน ลิปบาล์ม และ SPF คือทั้งหมดที่จำเป็น” สำหรับผิวของเด็กๆ

    ตรงกับที่ Dr. Lauren Penzi แนะนำ ว่าผลิตภัณฑ์ที่เด็กๆ ควรใช้ ได้แก่ คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดด

    Dr. Jeffry Jackson แพทย์ผิวหนังอีกรายกล่าวว่าผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของผู้ใหญ่เหล่านี้อาจไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวเด็กก็จริง แต่ “พวกมันก็ไม่จำเป็นสำหรับผิวที่ยังอ่อนเยาว์ ซึ่งแข็งแรงสุขภาพดีตามธรรมชาติอยู่แล้ว”

    หากเหล่าชาว Gen Alpha ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นมีปัญหาอย่างสิว ก็เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ความเครียด หรือความสะอาด ทางที่ดีควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงมากกว่าซื้อสกินแคร์ที่อินฟลูเอนเซอร์รีวิวมาใช้เอง

    อย่างไรก็ตาม Dr. Lauren Penzi เผยว่า เร็วๆ นี้มีคนไข้อายุน้อยมาหาเธอหลายคนเพราะอาการแพ้ “พวกเขามาพร้อมรอยแดง คล้ายไหม้ มีอาการคัน เป็นขุย และผื่น” เธอเล่า “อาจเพราะมีส่วนผสมที่พวกเขาแพ้หนักมาก หรือไม่มันก็อาจระคายเคืองปราการผิว”

    Dr. Lauren Penzi ยังบอกว่าคนไข้วัยเยาว์หลายคนมีสิวที่หนักกว่าปกติ “อาจเพราะใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากเกินไปจนอุดตันรูขุมขน ฉันเจอเคสแบบนี้บ่อยขึ้นในหมู่คนไข้อายุ 10-12 ปีมากกว่าที่เคยเจอในอดีต”

    คนไข้อายุน้อยเหล่านี้มักไม่เต็มใจเปิดเผยข้อมูลกับแพทย์ผิวหนังอย่างเธอ และมักจะเป็นบรรดาแม่ที่มาด้วยกันที่คอยบอกว่าลูกๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ควรใช้



    แล้วสกินแคร์สำหรับเด็กล่ะ?

    แน่นอนว่ามีแบรนด์สกินแคร์ที่ผลิตมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ แต่หากพิจารณาถึงประโยชน์แล้ว ก็ยังนับว่าเป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ เพราะสินค้าเหล่านี้มักมีราคาสูง อีกทั้งบรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่จำเป็น


ดูแลตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีความเข้าใจ

    กระนั้นก็มีผู้คนอีกส่วนที่มองว่าการแต่งหน้าและดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของเด็กๆ ถือเป็นการเรียนรู้เพื่อค้นหาตัวเองอย่างหนึ่ง เพราะความงามก็จัดเป็นหนึ่งในความสนใจอันหลากหลายในยุคสมัยนี้ วันหนึ่งเมื่อพวกเขาเติบโตก็จะได้ใช้อยู่แล้ว โดยสิ่งสำคัญคือการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่พวกเขา

    ไม่เพียงแค่เรื่องสกินแคร์เท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานความงาม เพื่อไม่ให้เยาวชนต้องตกเป็นเหยื่อของค่านิยมผิดๆ ที่เกิดขึ้นมาจากความพยายามทำการตลาดของแบรนด์ทั้งหลาย

    Sheryl Jorgensen Masowdi คุณแม่คนหนึ่งบอกกับ CNN ว่า เธอไม่ห้ามลูกสาววัย 11 ปีของเธอไปช็อปปิ้งที่ Sephora โดยเธอมีการจำกัดค่าใช้จ่าย เธอยังบอกด้วยว่าลูกสาวของเธอมีความรู้เกี่ยวกับสกินแคร์มากมาย แต่ในบางครั้งก็ยังหยิบผลิตภัณฑ์ผิดชิ้น

    “เธอมองสกินแคร์ยกกระชับผิวขวดนี้ ฉันเลยบอกเธอว่า สาวน้อย ฉันน่ะจำเป็นต้องยกกระชับผิวแล้ว แต่เธอยังไม่ต้องหรอกนะ”


แหล่งที่มา:

How young is too young for a skincare routine?

The ‘Sephora kid’ trend shows tweens are psyched about skincare

What's up with 10-year-old kids in Sephora? Why the question itself is driving controversy

‘Sephora kids’: Why obsession of tweens with skincare is concerning


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Erewhon ธุรกิจสุดปัง จาก ‘สินค้าออร์แกนิก’ และ ‘สมูทตี้แสนอร่อย’

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine