ดาราและนางแบบคนดังของไทยเปลี่ยนความหลงใหลใน 'ธรรมชาติ' และ 'สปาบำบัด' เป็นธุรกิจ แม้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่ความฝันของศรีริต้า เจนเซ่น ยิ่งใหญ่ หลังออกเดินก้าวแรกได้อย่างมั่นคง ก้าวถัดไปของออกานิก้าคือการสร้างรีสอร์ตและสปารีทรีตครบวงจร
คาเฟ่สีขาวตกแต่งในสไตล์ยุโรปแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าเต็มทุกโต๊ะแม้เป็นช่วงบ่ายวันธรรมดา นักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากนั่งรอคิวอยู่ด้านนอกร้าน
Organika House บนชั้น 6โครงการพิมาน 49 ย่านทองหล่อ ชื่อเสียงของคาเฟ่แห่งนี้ที่ได้รับการบอกปากต่อปากมาจากบรรยากาศเสมือนได้นั่งละเมียดชาอุ่นๆ กลางเรือนกระจกในต่างประเทศ
ถัดไปด้านล่างอีก 1 ชั้น คือ
Organika Secret Spa สปาระดับลักชัวรี่ขนาด 5 ห้องที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของออกานิก้า เฮ้าส์ในการบริการ ไม่ว่าจะเป็นเทียนนวดสปา สครับขัดผิว โลชั่นบำรุงผิวกาย ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดเป็นการรังสรรค์โดยดาราและนางแบบวัย 36 ปี
ศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหอม สปาบำบัด ที่มีเอกลักษณ์ด้านส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ 95% เป็นวัตถุดิบออร์แกนิกส์ปลอดสารเคมี
“ก่อนอื่นคือเราอยากทำธุรกิจอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ธุรกิจอะไรก็ได้ที่โกยเงิน เราอยากจะทำธุรกิจจริงๆ ที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน” ศรีริต้ากล่าวถึงที่มาของแบรนด์ออกานิก้าซึ่งเธอศึกษามานาน 2 ปี ก่อนที่จะเริ่มลงมือก่อตั้งเมื่อปี 2557
ธรรมชาติและเรือนกระจก
ศรีริต้าฉายภาพนิยามของออกานิก้า เฮ้าส์ก่อนว่า มาจากความรักธรรมชาติและมองว่ามนุษย์กับธรรมชาติเติบโตมาจากรากเดียวกันทำให้ออกานิก้าเป็นแบรนด์ที่ต้องการสร้างสถานที่ซึ่งเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง
จากนิยามดังกล่าวเธอจึงพัฒนาแฟล็กชิปสโตร์ขึ้นที่โครงการพิมาน สุขุมวิท 49 ซึ่งมีการบริการครบวงจรคือสปา ร้านอาหาร และมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาออร์แกนิกส์โดยสร้างสรรค์ทุกส่วนประกอบให้ตอบสนองประสาทสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์ ได้แก่
1. การมองเห็น ผ่านการออกแบบร้านที่สวยงามในสไตล์เรือนกระจกด้วยโทนสีขาว-เขียว ซึ่งช่วยให้รู้สึกสดชื่น 2. การลิ้มรส ผ่านอาหารและเครื่องดื่มในคาเฟ่ที่คัดสรรวัตถุดิบออร์แกนิกส์ชั้นดี 3. การฟัง ผ่านดนตรีภายในร้านอาหารที่ช่วยให้รู้สึกรื่นรมย์ 4. การสัมผัส ผ่านการนวดในสปาบำบัดที่ Secret Spa และ 5. กลิ่น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของออกานิก้า เฮ้าส์ เนื่องจากกลิ่นมีอิทธิพลต่อความรู้สึกสูง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นในสปาหรือกลิ่นของชาในคาเฟ่ สามารถช่วยให้มนุษย์รู้สึกสงบผ่อนคลายได้
นั่นทำให้ปัจจุบันออกานิก้ายังคงมีแฟล็กชิปสโตร์เฉพาะที่สุขุมวิท 49 นอกจากนั้นมีร้านสาขาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพียง 3 แห่ง คือ สยามพารากอน คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ และคิง เพาเวอร์ ศรีวารีคอมเพล็กซ์ บางนา-ตราด เนื่องจากเป้าหมายของแบรนด์ต้องการสร้างสถานที่ให้บริการเพื่อผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจมนุษย์ มากกว่าการขยายสาขาเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ได้รายได้และกำไรสูงสุดเท่านั้น
จุดขายคือสไตล์ที่แตกต่าง
เอ็มดีหญิงของออกานิก้า เฮ้าส์กล่าวต่อว่าปัจจุบัน 90% ของลูกค้าทั้งส่วนผลิตภัณฑ์ สปา และคาเฟ่ เป็นชาวต่างชาติ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และอาหรับ ซึ่งเป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้นที่จะเจาะตลาดนักท่องเที่ยว มุ่งมั่นให้ออกานิก้าซึ่งเป็นแบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติก่อนแล้วจึงขยายมาเจาะกลุ่มชาวไทยในอนาคต
ศรีริต้าวิเคราะห์แบรนด์ของตนเองว่าเหตุที่สามารถประสบความสำเร็จได้แม้เป็นแบรนด์รุ่นน้องที่มาทีหลังนั้น เกิดจากความกล้าที่จะแตกต่าง โดย 2 ปีก่อนที่จะเริ่มก่อตั้งบริษัทเธอได้ศึกษาคู่แข่งในตลาดและพบว่าผลิตภัณฑ์สปาเมืองไทยยี่ห้อดังที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติล้วนเลือกใช้ความเป็นไทยในการออกแบบ โดยใช้สีดำ-ทองหรือลายไทยเป็นเอกลักษณ์แบรนด์
“เราตั้งใจอาศัยจุดนี้แหละ ช่องว่างที่ไม่มีแบรนด์สปาไหนในเมืองไทยทำมาตีตลาด เราใช้สีสันที่แตกต่างออกไป เราหยิบความเป็นฝรั่งของตัวริต้าและคอนเซปท์เรือนกระจกมาใช้ ซึ่งคนอื่นไม่กล้าจับต้องเพราะเขาคิดว่าต่างชาติไม่ซื้อแน่ๆ เราใช้ความแตกต่างโดยสิ้นเชิงเลยมาเป็นกลยุทธ์”
สำหรับก้าวที่ 2 ของออกานิก้า เฮ้าส์ ศรีริต้ากล่าวว่าเธอจะเปิดสาขาใหม่ในเดือนตุลาคม 2561 ที่ศูนย์การค้าทาคาชิมาย่า โครงการไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร โดยสาขานี้จะประกอบด้วยร้านอาหารและร้านค้าผลิตภัณฑ์
นอกจากนั้นยังมีความร่วมมือระหว่างแบรนด์ต่อยอดจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะนี้ออกานิก้ามีความร่วมมือกับ
โรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต ในการใช้ผลิตภัณฑ์ Home Diffuser ของบริษัทในห้องพัก และใน
โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์เทียนน้ำมันนวดในสปาของโรงแรม ส่วนปีนี้ออกานิก้าจะมีความร่วมมือกับ
สวารอฟสกี้ ในแง่ของการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
และในปี 2563 ศรีริต้าจะเปิดตัวโครงการที่ขยายใหญ่ขึ้นอีกระดับ นั่นคือรีสอร์ต สปา แอนด์ รีทรีต ซึ่งมีโปรแกรมเพื่อบำบัดรักษาสุขภาพ ผ่านการพักผ่อนในรีสอร์ต อาหาร เครื่องดื่ม สปา และกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น โยคะ นั่งสมาธิ เป็นต้น ทั้งนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดโครงการหรือทำเลที่จะพัฒนาได้
“เราจะทำ sanctuary ของตนเอง ที่ที่มนุษย์ไปแล้วจะผ่อนคลายได้อย่างเต็มรูปแบบ มีพลังของการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจจากภายในถึงภายนอก”
ศรีริต้ายังกล่าวด้วยว่า เธอวางเป้าการเติบโตของรายได้บริษัทในปี 2561 ไว้ที่ 20% โดยขอไม่เปิดเผยรายได้ล่าสุด ในขณะที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารายงานข้อมูล บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด เมื่อปี 2560 มีรายได้ 24.38 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 25% สะท้อนความก้าวหน้าที่ดีของบริษัท
ส่งแบรนด์ไกลระดับโลก
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใต้แบรนด์ออกานิก้า ดาราสาวยืนยันว่าตนเองเป็นผู้ลงมือทำเองทุกขั้นตอน “ออกานิก้าไม่มีหุ้นส่วนค่ะ เงินทุกบาทเป็นเงินของริต้าเอง และไม่มีคนช่วยคิด ออกานิก้าคือศรีริต้า เจนเซ่น 100%”
เธอยังกล่าวด้วยว่า การวางระบบภายในควบคู่กับการรักษาเอกลักษณ์แบรนด์คือการสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเตรียมตนเองสำหรับความฝันที่ยิ่งใหญ่ขึ้นของศรีริต้า คือความต้องการที่จะเป็น global brand ขยายสาขาไปยังภูมิภาคอื่น อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีบริษัทหลายรายติดต่อเข้ามาเพื่อขอร่วมเป็นพันธมิตร แต่ศรีริต้าบอกว่าเธอไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบรับคำเชิญ เพราะมองว่าความพร้อมของบริษัทแม่ในไทยสำคัญกว่าการเร่งขยายตัว
“เราไม่มีเงินมากพอที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในคราวเดียว ริต้าก็ต้องสร้างจากสิ่งเล็กๆ ก่อน ทำให้ทุกก้าวต้องระวังตัวมาก เรามีทุนน้อย หยาดเหงื่อแรงงานของเราจึงต้องนำมาใช้ให้ครบทุกขั้นตอนการทำงาน” เอ็มดีหญิงแห่งออกานิก้า เฮ้าส์กล่าวปิดท้าย
https://www.youtube.com/watch?v=zP0yBahPNbU&t=47s
ภาพ: กิตติเดช เจริญพร และออกานิก้า เฮ้าส์