ญี่ปุ่นฮิตต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวมาเยือน ทุบสถิติ 31.19 ล้านคนในปี 2018 - Forbes Thailand

ญี่ปุ่นฮิตต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวมาเยือน ทุบสถิติ 31.19 ล้านคนในปี 2018

ท่องเที่ยวญี่ปุ่นบูม จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2018 มากสุดเป็นประวัติการณ์ ทำสถิติใหม่ 31.19 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.7 % เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เปิดเผยว่า ในปี 2018 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นมากถึง 31.19 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8.7% ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากชาติในเอเชีย โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 8 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 13.9%) นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ 7.5 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 5.6%) และนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน 4.8 ล้านคน

ส่งผลให้ญี่ปุ่นมีเงินสะพัดด้านการท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.5 ล้านล้านเยน (4.15 หมื่นล้านเหรียญ) นักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้ที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดที่ 1.54 ล้านล้านเยน คิดเป็น 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในญี่ปุ่นในปีดังกล่าว

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี ยกเว้นในเดือนกันยายน ที่มีนักท่องเที่ยวลดลงจากปีก่อน จากเหตุพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ต้องปิดทำการสนามบินใน Osaka และ Hokkaido ชั่วคราว

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวเติบโตสูงขึ้นทุกปีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการยกเลิกการขอวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย อินเดียและฟิลิปปินส์ รวมไปถึงโปรโมชั่นการส่งเสริมการขายภายในประเทศ

ความพยายามของรัฐบาลได้ผลตามที่ต้องการ เเละมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ถึง 40 ล้านคนให้ได้  Keiichi Ishii รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (MLIT) กล่าว

การท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ขณะที่กำลังเผชิญผลกระทบจากวิกฤตประชากรและการบริโภคที่ลดลง โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้ 40 ล้านคนในปี 2020 ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก

โดยเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ประกาศมาตรการเก็บภาษีขาออกสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทุกคน “ไม่ว่าจะถือสัญชาติใดก็ตาม” หรือที่เรียกกันว่า “ภาษีซาโยนาระ” ถือเป็นค่าธรรมเนียมการออกจากแผ่นดิน ในอัตราคนละ 1,000 เยน ( 9.22 เหรียญหรือราว 295 บาท) ให้มีผลบังคับใช้แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลจะนำรายได้ส่วนนี้ไปพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ

 

ที่มา

ภาพ Kazuhiro NOGI / AFP