HUBLOT เผยโฉมใหม่ Big Bang Unico Green SAXEM 'เขียวมรกตโปร่งแสง' ทนทาน หรูหรา ผลิตออกมาเพียง 100 เรือน - Forbes Thailand

HUBLOT เผยโฉมใหม่ Big Bang Unico Green SAXEM 'เขียวมรกตโปร่งแสง' ทนทาน หรูหรา ผลิตออกมาเพียง 100 เรือน

HUBLOT เปิดตัวนาฬิกา Big Bang Unico Green SAXEM สีเขียวมรกตโปร่งแสงผลิตจากวัสดุ SAXEM เวอร์ชันใหม่ ด้วยผิวสัมผัสแวววาวและดีไซน์หรูหรา มีความแข็งแกร่งทนทานใกล้เคียงกับแซฟไฟร์ เรือนเวลาสุดหรูรุ่นใหม่นี้จึงผลิตออกมาให้ควรค่าแก่การสะสมเพียง 100 เรือน


    “ด้วยแนวคิดไอเดียที่เรียบง่ายบางอย่างแต่กลับมีผลในทันที สำหรับคนอื่นอาจจะต้องใช้ทักษะความชำนาญ และเทคนิคต่างๆ เป็นอย่างมาก แต่สำหรับการผลิตวัสดุอย่าง SAXEM เราใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาราวๆ เกือบ 2 ปี จึงสามารถรังสรรค์วัสดุที่ประกอบขึ้นทางเคมีให้มีทนทานราวกับเนื้อวัสดุจากแซฟไฟร์ และยังมีโทนสีเขียวโปร่งแสงแบบสม่ำเสมอสวยงาม ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสมบูรณ์แบบที่เหล่าบรรดานักสะสมนาฬิกาเรือนหรูต่างมองหาเป็นอันดับแรกของแบรนด์ Hublot นั่นก็คือ เอกลักษณ์ และ ความแตกต่าง”  Ricardo Guadalupe ซีอีโอ ของ Hublot กล่าว

    

    ทั้งนี้ ความโดดเด่นของตัวเรือนที่ทำจาก SAXEM ที่มีความทนทานประหนึ่งแซฟไฟร์นั้น ถือเป็นการผลิตด้วยทักษะความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะจากทาง Hublot เพราะเป็นโลหะผสมจากอะลูมิเนียมออกไซด์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของแซฟไฟร์ และแร่ rare earth ที่หาได้ยาก


    ด้วยเฉดสีที่โปร่งแสง มีความแวววาวอย่างเห็นได้ชัด คือ นวัตกรรมแห่งกระบวนการผลิต SAXEM ที่สร้างความท้าทายแก่ Hublot เป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่เริ่มผลิตในปี 2019 จากการเปิดตัวครั้งแรกของรุ่น Big Bang MP-11 หลังจากนั้นจึงได้พัฒนาต่อเนื่องจนเกิดเป็นรุ่นสีเหลือง Neon Yellow และ สีเขียวมรกต Emerald

    สำหรับ Big Bang Unico Green SAXEM รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับตัวเครื่อง HUB1280 UNICO 2 โดยฟังก์ชันจับเวลานั้นได้รับการพัฒนาใหม่ให้เป็นระบบ Flyback หรือให้กดเริ่มจับเวลาครั้งใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องกดหยุดและรีเซ็ตเข็มก่อน ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันใหม่ล่าสุดสำหรับตระกูล Big Bang SAXEM ที่ผลิตออกมาเพียง 100 เรือนเท่านั้น สร้างความดึงดูดใจให้แก่เหล่านักสะสมที่นิยมความแตกต่างอย่างมีระดับได้ครอบครอง




​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : My Grand Seiko My Pride แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีระดับโลก ถ่ายทอดความภูมิใจผ่านรุ่นไอคอนิก Sakura

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine