SABINA โชว์คอลเลคชั่นรักษ์โลก รีไซเคิล ‘อวนประมง’ เป็นชุดชั้นใน เฉลิมฉลอง Earth Day - Forbes Thailand

SABINA โชว์คอลเลคชั่นรักษ์โลก รีไซเคิล ‘อวนประมง’ เป็นชุดชั้นใน เฉลิมฉลอง Earth Day

SABINA ประเดิมไตรมาส 2 ของปีด้วยคอลเลคชั่นเฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ร่วมโครงการ “Nets Up” โมเดลการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อทะเลยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) บริษัท นิล-วัน โปรเจ็ค จำกัด กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน จ.ระยอง พันธมิตรธุรกิจ และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อเปลี่ยนอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วให้กลายเป็นวัตถุดิบจากท้องทะเล (Marine Materials) ที่นำมาผลิตสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก”


    พิชชา ธนาลงกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า SABINA ตระหนักถึงปัญหาขยะทะเลที่เกิดจากการทิ้งอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว ที่มีมากถึงประมาณ 64,000 ตันต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าวและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ภายใต้โครงการ “Nets Up” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) บริษัท นิล-วัน โปรเจ็ค จำกัด กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน จ.ระยอง พันธมิตรธุรกิจ และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่ได้สร้างระบบจัดเก็บอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วจากชาวประมงท้องถิ่น

    “จากอวนที่ไม่ใช้แล้วจำนวนมหาศาล ได้กลายเป็นวัตถุดิบจากท้องทะเลหรือ Marine Materials ที่ SABINA มองเห็นโอกาส จึงได้เข้าร่วมโครงการ Nets Up ที่นำอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วมาพัฒนาและแปรรูปเป็นนวัตกรรมเส้นด้ายรีไซเคิล ก่อนจะนำไปทอเป็นผืน โดย SABINA นำมาตัดเย็บเป็นชุดชั้นในและเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นใหม่ ‘From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก’ ซึ่ง SABINA นับเป็นแบรนด์แรกและเป็นผู้นำที่ได้ริเริ่มการสร้างผลิตภัณฑ์จากอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่” พิชชากล่าว


    สำหรับสินค้าในคอลเลคชั่น “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” จะประกอบด้วย เสื้อชั้นใน กางเกงชั้นใน เสื้อ กางเกงขาสั้น และเสื้อกล้ามเสริมบรา โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2567 ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลก (Earth Day) เป็นต้นไป

    พิชชายังกล่าวด้วยว่า SABINA ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในแวดวงแฟชั่น และเดินหน้าตอกย้ำการเป็นแบรนด์ชุดชั้นในที่ยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยการเข้าร่วมต่อยอดนวัตกรรมในโครงการ Nets Up ครั้งนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาขยะทะเลตั้งแต่ต้นน้ำ ที่เริ่มจากการจัดเก็บอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วของชาวประมง ส่งต่อให้ SABINA ที่นำมาต่อยอดจากการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการผลิตชุดชั้นในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังความสวยงามและสวมใส่สบาย ซึ่งเป็นจุดเด่นด้านนวัตกรรมของชุดชั้นในและผลิตภัณฑ์ SABINA

    ขณะเดียวกัน คอลเลคชั่น “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” ยังจะทำให้ลูกค้าของ SABINA ได้มีร่วมส่วนสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยคอลเลคชั่นนี้จะช่วยลดปริมาณขยะอวนประมงใช้แล้วได้ทั้งหมดประมาณ 620 กิโลกรัม และช่วยชดเชยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4 ตัน



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ เดินหน้า Green Logistics ทุ่ม 40 ล้านบาท ใช้รถ EV ขนส่งสินค้า

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine