Generative AI Chatbot เทคโนโลยีช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ - Forbes Thailand

Generative AI Chatbot เทคโนโลยีช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Jan 2024 | 09:00 AM
READ 2830

​เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี AI ส่วนใหญ่มักจะนึกถึง ChatGPT แต่ในความเป็นจริงวันนี้ AI มีทางเลือกที่คล้ายกันหรือโดดเด่นกว่า ChatGPT บางเรื่องอีกหลายตัวเลือก โดยสามารถเรียกรวมกันว่า Generative AI Chatbot หรือแชทบอท ซึ่งสามารถสร้างคำตอบในรูปแบบต่างๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านการเรียนรู้ข้อมูลในปริมาณมหาศาลและใช้ทรัพยากรการประมวลผลในระดับที่กระทบถึงปริมาณการใช้น้ำและแกระแสไฟฟ้าภายในเมืองที่ศูนย์ประมวลผลตั้งอยู่อย่างมีนัยสำคัญได้เลยทีเดียว


​    สิ่งที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนความเข้าใจในวันนี้เมื่อพูดถึง Generative AI Chatbot ก็คือ AI Chatbot ประเภทนี้ไม่ได้มีความสามารถในการถามตอบในรูปแบบ messaging conversation หรือข้อความสนทนาเหมือนอย่างในสิบปีที่ผ่านมาเท่านั้น  

    แต่ Generative AI Chatbot ยังทำหน้าที่เป็นช่องทางในการรับคำสั่งจากมนุษย์ในรูปแบบภาษาง่ายๆ และนำไปสั่งการระบบหรือเครื่องมือต่างๆ ให้ทำงานที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องมีทักษะหรือความรู้เชิงเทคนิคเหมือนในอดีตอีกต่อไป เช่น คนที่วาดรูปไม่เป็นสามารถสั่งงานให้แชทบอท ช่วงสร้างรูปที่ตนเองต้องการได้  AI Chatbot วันนี้ทำได้ถึงขนาดที่ให้คนที่ไม่มีความรู้ทางโปรแกรมมิ่งสั่งให้แชทบอทสร้างโปรแกรมการแชทขึ้นมายังได้

    สำหรับจุดเริ่มต้นในการที่แต่ละองค์กรจะนำ Generative AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงควรเริ่มจากการที่แต่ละองค์กรเข้าใจ use case หรือรูปแบบการนำไปใช้ว่ามีกี่ด้าน ซึ่งสามารถสรุปเป็นหัวข้อกว้างๆ เพื่อให้เห็นศักยภาพที่หลากหลายของ Generative AI Chatbot ดังนี้


Knowledge Discovery

    Generative AI สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการให้องค์กรนำข้อมูลสินค้า ระเบียบการทำงาน เงื่อนไขการรับประกัน เอกสารแนวทางการปฎิบัติงาน หรือแม้แต่ตารางการคำนวนราคาเพื่อเสนอขายลูกค้าไปสร้างเป็นฐานข้อมูลแล้วให้ AI Chatbot นำข้อมูลเหล่านี้มาเป็นข้อมูลในการตอบคำถามจากหน่วยงานต่างๆ ขององค์กรหรือบุคคลภายนอกได้โดย AI Chatbot นั้นจะสามารถช่วยแนะนำ สรุปใจความ หรือแม้แต่ช่วยเลือกตัวเลือกให้กับผู้ที่ถามโดยใช้ฐานข้อมูลของบริษัทมาเป็นข้อมูลในการนำเสนอแก่ผู้สอบถามได้

Program Coding

    สำหรับองค์กรที่มีฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ในองค์กรเองนั้น  AI Chatbot สามารถที่จะช่วยในการเขียนโปรแกรม ตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม เสนอวิธีการแก้ปัญหา หรือแม้แต่ช่วยทำ โค้ดดิ้งที่ทำค้างไว้ให้เสร็จได้ ซึ่งสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และเพิ่มเวลาว่างเพื่อไปพัฒนาตนเองให้สร้างโค้ดที่ซับซ้อนเกินกว่าแชทบอทจะทำได้

Work Productivity

    องค์กรสามารถใช้ AI Chatbot ช่วยสรุปเนื้อหาการประชุมจากไฟล์ recording การประชุมที่ไม่ได้เข้าฟัง โดยสามารถช่วยออกบันทึกการประชุมเพื่อประหยัดเวลาทำงานได้  และสามารถช่วยแนะนำการทำพรีเซนเทชั่น คิดเนื้อหา สร้างกราฟและตาราง รวมถึงการช่วยแปลทั้งเอกสารหรือไฟล์ได้ ทำให้การแต่งจดหมายทางธุรกิจสักฉบับในวันนี้อาจใช้เวลาทำได้ภายในไม่ถึง 3 นาที และช่วยให้สามารถสร้างผลงานได้มากขึ้นใน 1 วัน 

Marketing and Insight

    วันนี้วงการเอเจนซี่โฆษณาตื่นตัวในการนำ Generative AI Chatbot มาใช้ในการช่วยสร้าง tagline สร้างคอนเทนต์ สร้างโฆษณา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่องค์กรที่มีการทำการตลาดด้วยตนเองก็สามารถนำ AI Chatbot มาใช้ในวัตถุประสงค์เดียวกันได้ โดยสามารถใช้ Chatbot AI ช่วยหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและช่วยอ่านรีวิวสินค้า รวมทั้งสรุปเป็นข้อมูลเปรียบเทียบหรือแม้แต่ช่วยแนะนำในการทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็นของเว็บไซต์

Textual and Audiovisual Application

    Generative AI Chatbot บางตัวอย่าง ChatGPT มาพร้อมกับความสามารถในการวิเคราะห์ภาพและเสียง ดังนั้น จึงสามารถให้ Chatbot วิเคราะห์สิ่งที่อยู่ในภาพและดึงตัวอักษรออกมาจากภาพ หรือให้สรุปพอดแคสต์ให้ฟังได้ โดย Chatbot AI ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพจากคำสั่งตัวอักษรได้ หรือทำให้สร้างเสียงการพูดจากข้อความที่พิมพ์ได้ ซึ่งประโยชน์ในเชิงการทำงานหรือการวิเคราะห์นั้นสามารถไปประยุกต์ให้กับหลายบริบททางธุรกิจได้

    อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่ Generative AI Chatbot จะได้รับการนำไปใช้สร้างประโยชน์ในเชิงธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจยุคดิจิทัลได้ 

    ขณะที่จุดอ่อน (pain point) ในการพยายามนำ Generative AI Chatbot ไปใช้งานจริง ได้แก่ ราคา ผู้เชี่ยวชาญ และความแม่นยำของ AI โดยหลายธุรกิจที่พยายามจะนำ Genreative AI Chatbot ไปใช้ในเชิงธุรกิจมักพบว่าการใช้งานระดับองค์กรที่มีความต้องการหลากหลายด้านข้อมูลมากกว่าระดับบุคคลมีราคาสูงกว่าที่ประเมินไว้มาก เนื่องจากผู้ให้บริการมีราคาที่แยกชัดเจนระหว่างแบบบุคคลและองค์กร และที่สำคัญเมื่อ AI ต้องมีการประมวลผลข้อมูลระดับองค์กรที่มีปริมาณมากค่าใช้จ่ายก็ยิ่งมากตามไปด้วย

    นอกจากนี้ การใช้ Chatbot AI ให้ได้ประสิทธิผลยังถือว่าเป็นสกิลแบบใหม่ที่ยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน ดังนั้น จึงยังเป็นการยากที่องค์กรจะเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาในองค์กร  ส่วนการที่จะเอาต์ซอร์สหรือจ้างคอนซัลต์ภายนอกเข้ามาช่วยก็ยังขาดวิธีการคัดเลือกที่ชัดเจนว่าคุณสมบัติของการเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ นั้นต้องประกอบด้วยเรื่องใดบ้าง

    สุดท้ายในด้านความแม่นยำการทำงานของ AI ยังมีความสามารถด้านภาษาไม่เท่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาไทย ซึ่งก่อนจะนำมาใช้งานองค์กรต้องมีการตรวจสอบก่อนและแน่นอนว่าเมื่อการหาผู้เชี่ยวชาญยังคงเป็นปัญหา การตรวจสอบก็ยิ่งเป็นไปอย่างระบบได้ยาก


ก้าวข้ามปัญหายกระดับธุรกิจ

    สำหรับการนำ Generative Chatbot AI มาใช้ในการยกศักยภาพธุรกิจประกอบด้วย Start Small, Be Specific และ Choose the Right AI ซึ่งเริ่มต้นด้วยการหาโครงการที่มีประโยชน์แต่ควบคุมความเสี่ยงได้ง่าย เช่น หากองค์กรมองว่า AI Chatbot น่าจะมาช่วยในการเป็นแนวหน้า ของ customer service ก็อาจเริ่มต้นด้วยการนำ AI Chatbot มาเป็นผู้ช่วย customer service agent ก่อน เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณการใช้งานได้ง่ายและที่สำคัญมีมนุษย์กรองผลการทำงานของ AI ก่อนนำไปเสนอลูกค้า

    นอกจากนั้น แม้ AI จะมีความสามารถหลายอย่าง แต่การเริ่มใช้งาน AI ที่ดีที่สุดคือ การที่มีโจทย์ที่ต้องการที่ชัดเจนและใช้ AI ในการทำโจทย์นั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น ต้องการให้ Generative AI Chatbot มาช่วยทำคอนเทนต์ด้านการตลาด บริษัทควรเริ่มจากคอนเทนต์บางประเภทก่อนแทนที่จะให้เริ่มด้วยการทำคอนเทนต์ทุกประเภท เช่น เริ่มจากแนวให้ความรู้ก่อนจนมีความเชี่ยวชาญในการสั่งให้ AI Chatbot สร้างในสิ่งที่ต้องการอย่างแม่นยำ และขยับขยายเป็นการสร้างคอนเทนต์แนวอื่น

    ขณะที่วันนี้ทางเลือกของ Generative AI มีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT  Microsoft Open AI หรือ Google Bard AI ซึ่งแต่ละตัวเลือกมีจุดเด่น จุดด้อย แตกต่างกันตั้งแต่ราคา ความเชี่ยวชาญ ไปจนถึงการต่อเชื่อม  เช่น หากองค์กรใช้ office suit ของ Microsoft อยู่ การเลือกใช้ Microsoft Open AI ก็เป็นทางเลือกที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับทีมทำงานในองค์กรได้ง่าย แต่ถ้าใช้ Gmail หรือเครื่องมือของ Google เป็นหลัก  Google Bard AI ก็มีหลายความสามารถที่พร้อมให้ผู้ใช้งานนำไปใช้งานต่อได้โดยง่าย

    สุดท้ายจุดตั้งต้นที่สำคัญในการนำ Generative Chatbot AI มาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรที่สำคัญคือ การเปิดรับและเริ่มทดลองใช้ เพราะหากไม่ใช่คนแรกที่นำ Generative AI มาใช้ในการติดปีกให้กับองค์กร คู่แข่งก็จะเป็นคนเริ่มทำ 



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปรับกลยุทธ์รถเช่ารับเทรนด์อนาคต

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine