ด้วยดัชนี S&P 500 ที่ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในปีนี้ สวนทางกับสถานการณ์อันยากลำบากของตลาดในจีนและฮ่องกง ทำเนียบ Global 2000 หรือการจัดอันดับบริษัทมหาชนใหญ่ที่สุดในโลกครั้งที่ 22 จึงมีบริษัทจากสหรัฐอเมริกาปรากฏชื่อเป็นจำนวนมากกว่าเมื่อครั้งก่อนเกิดวิกฤตการเงินในปี 2008 เสียอีก
จากบริษัทสัญชาติอเมริกันทั้งหมด 621 แห่งบนทำเนียบ JPMorgan Chase ครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 5.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และสินทรัพย์กว่า 4 ล้านล้านเหรียญ ตามมาด้วย Berkshire Hathaway ภายใต้การนำของมหาเศรษฐีนักลงทุน Warren Buffett ที่อันดับ 2
รายชื่อบริษัทใหญ่ 10 อันดับแรกยังคงเดิม แต่อิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มีผลต่ออันดับที่ต่ำลงไปอย่างชัดเจน ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ Nvidia ที่เติบโตมหาศาลด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3 ล้านล้านเหรียญแซงขึ้นมากว่า 100 อันดับ โดยอยู่ที่อันดับ 110 ในปีนี้
อีกทั้งยังมี Super Micro Computer บริษัทจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตบเท้าเข้าร่วมทำเนียบเป็นครั้งแรกที่อันดับ 856 ส่วนบริษัทผลิตวัคซีนย่าง Pfizer และ Moderna ต่างมีอันดับตกลงหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
Global 2000 คือ การจัดอันดับบริษัทมหาชนใหญ่ที่สุดในโลก 2,000 แห่ง โดยอ้างอิงเกณฑ์ทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่ รายได้ กำไร สินทรัพย์ และมูลค่าตลาด
บริษัททั้งหมดบนทำเนียบปีนี้มาจาก 61 ประเทศทั่วโลก มีรายได้รวม 51.7 ล้านล้านเหรียญ, กำไร 4.5 ล้านล้านเหรียญ, สินทรัพย์รวม 238 ล้านล้านเหรียญ และมูลค่าตลาดรวม 88 ล้านล้านเหรียญ ทีมงาน Forbes อ้างอิงข้อมูลทางการเงินสืบย้อนกลับไป 12 เดือนโดยสิ้นสุด ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เพื่อคำนวณปัจจัยต่างๆ ในการจัดอันดับ
สำหรับ 10 อันดับแรกของบริษัทมหาชนบนทำเนียบ Global 2000 ประจำปี 2024 ได้แก่
อันดับ 1
JPMorgan Chase
รายได้: 252,910 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 50,050 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 4,090,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 588,090 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 2
Berkshire Hathaway
รายได้: 368,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 73,420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 1,070,040 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 899,140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 3
Saudi Arabian Oil Company (Saudi Aramco)
รายได้: 489,070 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 116,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 661,540 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 1,919,260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 4
ICBC
รายได้: 223,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 50,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 6,586,010 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 215,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 5
Bank Of America
รายได้: 183,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 25,030 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 3,273,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 307,260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 6
Amazon
รายได้: 590,740 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 37,680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 530,970 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 1,922,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 7
China Construction Bank
รายได้: 199,840 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 47,010 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 5,403,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 187,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 8
Microsoft
รายได้: 236,580 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 86,180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 484,270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 3,123,130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 9
Agricultural Bank Of China
รายได้: 193,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 37,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 5,832,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 170,940 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 10
Alphabet
รายได้: 317,920 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร: 82,410 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์: 407,350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด: 2,177,680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แปลและเรียบเรียงจาก The Global 2000 2024
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Nvidia แซงหน้า Microsoft เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในโลกแล้ว
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine