ชุดตรวจหาเชื้อโควิดทำให้ Stefania Triva ก้าวขึ้นสู่เศรษฐีพันล้าน แต่นวัตกรรมที่บริษัทคิดค้นนี้ก็มาพร้อมกับคู่อริ และการเสนอเข้าซื้อบริษัทอันน่าปวดหัวมากมาย
ในวันหมอกหนาวันหนึ่งต้นเดือนมกราคม ณ เมือง Brescia ทางตอนเหนือของอิตาลี สถานที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากไว้รัสโควิด-19 ระลอกแรก เมื่อปี 2020 Stefania Triva วัย 57 ได้นำชุดตรวจแบบสวอบ 2 ชุดมาวางไว้ข้างๆ กัน บนโต๊ะของเธอ อันหนึ่งเป็นปลายแบบสำลีก้านธรรมดา ส่วนอีกอันเป็นตัวสวอบ “flocked” แบบพิเศษ อัดแน่นไปด้วยเส้นใยสังเคราะห์ขนาดจิ๋ว คล้ายกับผมแตกปลาย
ปลายสวอบแบบพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นโดย Copan บริษัทอายุ 43 ปีของครอบครัวเธอ เป็นส่วนสำคัญในชุดตรวจโควิด-19 แบบ PCR จำนวนนับร้อยล้านชุดที่กำลังถูกแหย่เข้าไปในจมูกผู้คนทั่วโลก
Triva ที่นั่งอยู่หน้ารูปภาพแนวนามธรรมสีเหลืองแดง และกระดานไม้ก๊อกที่มีรูปลูกๆ ของเธอทั้ง 3 คนเต็มไปหมด เจาะลึกเรื่องความแตกต่างที่แทบจะไม่สังเกตเห็นที่ทำให้สวอบแบบ flocked ได้รับมาตรฐานสูงสุด
“ก้านสวอบ จะมีเส้นใยที่พันไว้โดยรอบเพื่อดักจับเก็บตัวอย่างเชื้อเอาไว้” เธอกล่าว พลางชี้ไปที่สำลีก้านปลายกลมหนา “แต่มันกลับเก็บตัวอย่างออกมาเพียงร้อยละ 20 แต่ในสวอบแบบ flocked ด้วยกลไกที่เราใช้ในการนำเส้นใยไปติดไว้ที่ก้าน คุณจะได้สิ่งที่ตรงกันข้าม ร้อยละ 80 จะถูกปล่อยออกมา”
ปลายสวอบเหล่านั้นที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Copan ในปี 2003 ตกเป็นประเด็นในการฟ้องร้องที่ยังคงยืดเยื้ออยู่ระหว่างทางบริษัท และ Puritan Medical Products บริษัทคู่แข่งแนวหน้าจาก Maine ที่ให้ทางบริษัทโตขึ้นอย่างมหาศาล โดยพวกเขาผลิตสิ่งๆ นี้ ถึง 415 ล้านชิ้นในปี 2020 เป็นจำนวนเยอะกว่าจำนวนการผลิตในปี 2019 ถึง 2 เท่า
หลังจากเร่งเครื่องการผลิต ตอนนี้ Copan สามารถที่จะผลิตได้ถึง 1 ร้อยล้านชิ้นต่อปี กำไรสุทธิพุ่งขึ้นแทบจะ 5 เท่าตัวในปี 2020 โดยทำเงินไปได้ถึง 79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายได้รวมที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายถึง 372 ล้านเหรียญ ในปี 2021 ตัวเลขรายได้ของพวกเขาลอยไกลพร้อมๆ กับรายได้รวมที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเป็น 445 ล้านเหรียญ (ยังไม่มีข้อมูลกำไรสุทธิ ณ ปัจจุบัน) ซึ่งรายได้หลักของบริษัทร้อยละ 84 มาจากตัวสวอบแบบ flocked ที่ถูกใช้ในการตรวจการตรวจวิเคราะห์โมเลกุลอย่างน้อยพันล้านครั้งในห้องตรวจแพทย์ และคลินิกทั่วโลก ตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดในช่วงแรก (ตัวเลขนี้ไม่รวมตัวสวอบในชุดตรวจแบบ Rapid Test หรือชุดตรวจที่ตรวจเองได้ที่บ้าน ซึ่งเป็นสัดส่วนเล็กน้อยของธุรกิจของ Copan)
ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ Stefania ผู้ถือหุ้นใน Copan อยู่ร้อยละ 48 เข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้าน พร้อมกับทรัพย์สินสุทธิราว 1.2 พันล้านเหรียญ สมาชิกในครอบครัวอีก 5 คนเป็นผู้ถือหุ้นที่เหลือในบริษัท ซึ่ง Forbes ตีมูลค่ารวมของพวกเขาไว้ที่ 1.3 พันล้านเหรียญ
ความสำเร็จแบบกระทันหันของ Copan ดึงดูดกองทุนลงทุนมากมายที่เธอไม่เผยชื่อ แต่ลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทคนนี้ก็ไม่มีเจตนาที่จะขาย “เราได้ข้อเสนอมากมายทุกวัน” เธอยอมรับ และยืนยันโดย Giorgio Triva หลานชายของเธอและทายาทผู้สืบทอด Copan วัย 32 “เรามีขนาดธุรกิจไม่ต่างกับบริษัทอื่นๆ ที่ทุนเหล่านี้กำลังวิ่งหา”
แต่แม้ SPAC จะมาแรง และ IPOs ผุดเป็นดอกเห็ดทั้งในบ้านเกิดของเธอและต่างประเทศ รวมไปถึงการที่ Stevanato Group บริษัทครอบครัวสัญชาติอิตาลีอีกแห่งที่เติบโตในสถานการณ์โควิดด้วยการผลิตขวดวัคซีนจะเข้าสู่ตลาด New York Stock Exchange เมื่อเดือนกรกฎาคม เธอก็ไม่มีแผนการที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นใดๆ ทั้งนั้น
“เมื่อคุณเป็นบริษัทมหาชน . . . นั่นมันก็ตีกรอบกลยุทธ์และการตัดสินใจของคุณ” เธอกล่าว “เราแข็งแกร่งและสามารถพึ่งพาตัวเองทางการเงินได้ และสิ่งนี้ช่วยให้เราโตโดยที่ไม่ต้องไปสอดส่องหาทุนจากข้างนอก”
การเติบโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หมายความว่า Copan สามารถโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความเป็นเจ้าของบริษัทก็ยังอยู่ในมือครอบครัวนี้ “เรารักความอิสระ, สรรหาสิ่งที่ดีจากหลากหลาย และก็รวดเร็ว อีกทั้งรู้ว่าบางทีเราก็ต้องกล้าที่จะทำตามแผนเสี่ยงๆ” เธอกล่าว
นั่นหมายถึงการลงทุนในอนาคตนอกเหนือจากสถานการณ์โลกระบาดนี้ โดยนอกจากชุดตรวจทางการแพทย์แล้ว ทางบริษัทก็ยังผลิตชุดสวอบเฉพาะทางเพื่อใช้ในการเก็บตัวอย่าง DNA ทางนิติเวชตามสถานที่เกิดเหตุ ผู้พึ่งพาชุดตรวจเหล่านี้มีตั้งแต่ Scotland Yard จนไปถึง French Gendarmerie
ชุดตรวจสวอบที่ทาง Copan ผลิตเคยช่วยในการระบุตัวคนร้ายในเหตุโจมตีในปารีสในปี 2015 โดยตัวไมโครสวอบที่ทาง Copan และ Gendarmerie พัฒนาขึ้นมาด้วยกันทำให้เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์ DNA จากของเหลวในร่างกายหรือแม้กระทั่งรอยนิ้วมือ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
นอกจากชุดสวอบแล้ว Copan เองก็มีผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยที่สร้างผลตอบแทนกำไรที่ดีงามด้วย เครื่องจักรครบเซ็ต ซอฟต์แวร์ที่ทำให้การประมวลผลในห้องปฏิบัติการเป็นอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นการตรวจปัสสาวะ หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่ซับซ้อน ห้องปฏิบัติการอัตโนมัติสร้างรายได้ 5 พันล้านเหรียญต่อปี มีศักยภาพที่จะเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าตลาดสวอบ
นวัตกรรมเปลี่ยนโลก
“เราได้สร้างนวัตกรรมบางอย่างในโลกระบบอัตโนมัติที่พลิกโฉมวงการจุลชีววิทยา” Triva กล่าวขณะที่ชายตามองโกดังสินค้าและโรงงานอันกว้างนอกหน้าต่างห้องทำงานของเธอชั่วครู่
Daniele Triva เข้ามาดูแลบริษัทหลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตเมื่อปี 2000 และโชคชะตาของ Copan เปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเขาคิดค้นตัวสวอบแบบ flocked ที่ตอนนี้มีอยู่ทุกหนแห่งเมื่อปี 2003 ระหว่างที่ไปเดินช็อปปิ้งหาเสื้อโค้ตกันหนาว Daniele สังเกตเห็นว่าเส้นใยไนลอนบนไม้แขวนเสื้อติดกับผ้าได้ดี และเขาก็สงสัยว่าจะทำแบบนี้กับตัวสวอบได้หรือไม่
หนังสือเกี่ยวกับ Copan ที่เขียนโดย Elisa Erriu และ Mario Mazzoleni ตอนหนึ่งเล่าถึงเรื่องราวที่ Triva ไปท้าช่างเทคนิคให้ออกแบบตัวสวอบที่มีเส้นใยที่ตอดแน่นที่สามารถทำหน้าที่เหมือนเป็นฟองน้ำ และสามารถปล่อยสสารตัวอย่างออกมาได้มากกว่าสำลีก้านธรรมดา โดยสัญญาว่าจะให้พิซซ่าฟรีหากทำสำเร็จ
Copan ยังคงบอกว่าคอนเซ็ปต์และการคิดค้นตัวสวอบแบบ flocked เป็นผลงานของ Daniele Triva คนเดียวเท่านั้น และความจริงแล้วเขา “นำทีมงานเข้ามาร่วมด้วยเพื่อกระบวนการในการผลักเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรมหลังจดสิทธิบัตรแล้วเท่านั้น”
เทคโนโลยีใหม่นี้เปลี่ยนโฉมการวินิจฉัยโรค ทำให้การตรวจหาการติดเชื้อเนื่องจากไวรัสและแบคทีเรียเป็นประจำทำได้ง่ายขึ้น “ก่อนที่จะมีตัวสวอบแบบ flocked พวกเขาใช้สายอลูมิเนียมในการเอาตัวอย่างทางจมูก” เธอกล่าวพร้อมทำหน้าบูดบึ้ง
ในช่วงศตวรรษต่อมา Copan ขยายฐานโรงงานที่รัฐ California และเปิดสำนักงานในเซี่ยงไฮ้ พร้อมเริ่มลงทุนการผลิตแบบอัตโนมัติเมื่อปี 2007 และสร้างเครื่องจักรที่ถือกรรมสิทธิ์ที่เรียกว่า “เครื่องประเมินตัวอย่างแบบเดินออกไปเลย” ซึ่งสามารถประมวลผลตัวอย่างได้เป็นหลักพันตัวอย่างต่อวัน อีกทั้งยังสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
ตั้งแต่ปี 2012 Copan ได้เข้าไปพัวพันในสมรภูมิเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรกับคู่แข่งตัวฉกาจที่สุดอย่าง Puritan Medical Products หลังจากที่บริษัทสัญชาติอเมริกันนี้เริ่มผลิตตัวสวอบแบบ flocked ของตัวอง Copan กล่าวหา Puritan ว่าพวกเขากำลังละเมิดสิทธิบัตรของทางบริษัทจำนวนหนึ่ง สงครามกฎหมายนี้มีมานับศตวรรษ และไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุด โดยชัยชนะและธงขาวถูกปักไว้ทั้งที่ Maine ตอนเหนือของสหรัฐ จนไปถึงเยอรมนี และสวีเดน
“พวกเขาเป็นคู่แข่งอย่าง ‘ผิดกฎหมาย’ ของเรามาโดยตลอด” Triva กล่าว คดีกับ Puritanในศาลแขวงแห่งสหรัฐอเมริกาประจำแขวงกลาง Maine ถูกพักไว้เมื่อพฤษภาคมปี 2020 เพื่อที่ทั้งสองบริษัทจะได้มุ่งผลิตตัวสวอบได้อย่างเต็มเวลาในสถานการณ์โรคระบาดนี้ แต่ปัจจุบันคดีกลับมาเป็นปกติแล้ว Puritan ปฏิเสธข้อกล่าวหา และปฏิเสธที่จะออกความเห็นใดๆ สำหรับบทความนี้
แต่ก็เกิดเรื่องใจสลายขึ้นในปี 2014 เมื่อ Daniele วัย 54 เสียชีวิตลงหลังจากต่อสู้กับมะเร็งมา 7 เดือน Stefania ที่มาทำงานให้กับบริษัทตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย ผู้ถือตำแหน่งกรรมการฝ่ายประกันคุณภาพและการขึ้นทะเบียน ก็ก้าวขึ้นมาแทน
“มันเป็นช่วงเวลาอันน่าสลดมากๆ. . .แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้” เธอกล่าว และพักหายใจครู่หนึ่ง “สิ่งเดียวที่ฉันติดใจคือ เราจะสามารถไปต่อได้หรือไม่ เพราะว่าพี่ชายของฉันเป็นผู้นำคนสำคัญมากๆ ดังนั้น ฉันเลยไปพบปะกับพนักงานเก่าแก่ของเราทั้งหมดและก็เรียกเตรียมรบ ฉันบอกกับพวกเขา ‘เราจะทำมันได้หากเราทำด้วยกัน’ ”
โศกนาฏกรรมโควิด
ภายใต้การนำทีมของเธอ Copan ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน ทางบริษัทได้ก่อตั้งโรงงานด้านวิศวกรรมใหม่ใกล้ๆ กับสำนักงานใหญ่ในปี 2016 และต่อมา ก็ได้เปิดสำนักงานและโรงงานใหม่จำนวนหนึ่งในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และปวยร์โตรีโก
แต่ก็ไม่มีสิ่งใดช่วยเตรียม Triva หรือบริษัทเองในการต้องเผชิญกับโควิด-19 ระลอกแรกที่แพร่พิษร้ายแรงไปทั่วอิตาลีเมื่อต้นปี 2020 เคสแรกในประเทศถูกตรวจพบเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ในเมืองเล็กๆ อย่าง Codogno ซึ่งห่างจาก Brescia ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 50 ไมล์ แน่นอนว่า ตรวจโดยใช้ชุดตรวจสวอบแบบ flocked ของ Copan
Copan ก่อตั้งขึ้นในเมือง Mantua ที่อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีในปี 1979 โดย Giorgio Triva พ่อของ Triva และทำเพียงแค่กระจายเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องทดลองอย่าง หลอดทดลอง ในช่วงแรกเท่านั้น ทางบริษัทเริ่มผลิตชุดสวอบในปี 1982 ซึ่งเป็นปีที่ Daniele พี่ชายของ Stefania ผู้เป็นวิศวกรเคมีเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัวในฐานะผู้จัดการทั่วไป
ยอดขายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งทำให้พวกเขาลอยตัวอยู่ได้ รวมไปถึงเครื่องที่มีถ้วยเก็บเลือดเพื่อนำไปวิเคราะห์ซึ่งกำลังไปได้สวยที่ญี่ปุ่นด้วย Copan จึงเริ่มแผ่ปีกออกไปนอกประเทศ โดยเปิดสำนักงานสาขาในรัฐ California เมื่อปี 1995 และอีก 3 ปีให้หลังก็ย้ายมาสู่ที่ปัจจุบันอย่าง Brescia ซึ่งเป็นฮับการผลิตอันสำคัญ
เมื่อต้องประจันหน้ากับภาวะฉุกเฉินระดับชาติ พนักงานของ Copan ก็ทำงานกัน 7 วันเต็มๆ เพื่อที่ตอบสนองความต้องการชุดตรวจแบบสวอบของรัฐบาลอิตาลี อีกทั้งยังต้องเร่งเครื่องผลิตเต็มที่เพื่อส่งให้กับทางสหรัฐอเมริกา โดยทางเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ลงจอดในเมือง Brescia ในช่วงมีนาคมเกือบๆ เข้าเมษายนเพื่อที่จะมารับชุดตรวจแบบสวอบ 4 ล้านชุดกลับบ้าน
“Brescia ถูกโควิด-19 กลืนกินเข้าไปเลย แต่พนักงานของเราก็ยังคงอยู่ตรงนั้นเสมอ” Triva กล่าวนึกย้อนไปยังช่วงเวลาที่เมืองที่มีคนอยู่ 200,000 คนและจังหวัดรายล้อมที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดหลายต่อหลายสิบคนต่อวัน “สิ่งเดียวที่คุณได้ยินคือเสียงไซเรนรถฉุกเฉิน แต่พวกเขาก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ แม้จะเป็นช่วงสุดสัปดาห์ หรือวันหยุด”
ทางบริษัทได้จ้างพนักงานใหม่นับร้อยเพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการตลาดที่พุ่งขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ พวกเขายังได้เงินช่วยเหลือจำนวน 10 ล้านเหรียญถึง 2 ก้อนด้วยกัน ก้อนแรกมาจาก Advanced Manufacturing Fund ของทาง Apple เพื่อใช้ในการสร้างฐานผลิตใหม่ในรัฐ California ส่วนอีกก้อนมาจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐเพื่อใช้ในการเพิ่มศักยภาพการผลิตของโรงงานที่ Puerto Rico
อีกทั้ง ยังเดินหน้าธุรกิจหุ่นยนต์ต่อด้วยการเปิดตัวเครื่องจักรที่เรียกว่า UniVerse ที่จะทำให้การจัดเตรียมตัวอย่างในการตรวจทางการแพทย์ในกรณีของโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ เช่น วัณโรคกลายเป็นระบบอัตโนมัติได้ ทำให้นักเทคนิคห้องปฏิบัติการที่งานล้นมือไม่ต้องไปจดจ่อกับงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะเยอะ
นวัตกรรมล่าสุดจาก Copan คือเครื่องจักรที่สามารถตัดเวลาในการวินิจฉัยโรคไปได้ถึงร้อยละ 80 สำหรับการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียดื้อยา โดยมีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในตัวคอยช่วยให้ระบบไม่ติดขัด การตรวจสามารถได้ผลภายในประมาณ 4 ชั่วโมง และหากตัวอย่างเป็นผลลบ ตัวอย่างเหล่านั้นก็จะถูกทิ้งโดยอัตโนมัติ
และกลยุทธ์นี้ก็ดูท่าทีจะไปได้สวย โดย Copan WASP ฝ่ายระบบอัตโนมัติของทางบริษัทรายงานว่ามีรายได้รวมถึง 54 ล้านเหรียญในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและทำได้ได้เกินกว่าเป้าสำหรับปี 2020 ทั้งนี้ โดยทางบริษัทกล่าว่า ปัจจุบันเป็นยอดขายอันดับ 5 ของบริษัทแล้ว
Triva ให้เครดิตแก่ทีมงานและสิ่งที่พี่ชายของเธอทิ้งไว้ โดยด้วยความสำเร็จนี้ “[Daniele] ได้หว่านเมล็ดวัฒนธรรมความเป็นเจ้าของกิจการไว้” เธอกล่าว “ไม่ใช่แค่ที่ฉัน แต่กับทั้งบริษัท” และตราบใดที่เธอยังกุมบังเหียนยู่ วัฒนธรรมความเป็นเจ้าของและตัวบริษัท Copan เอง ก็จะยังคงอยู่คู่กับครอบครัวต่อไป
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Meet The Family-Owned Company That Invented Swabs For Covid Tests เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: G Train รถไฟส่วนตัวสุดหรูขบวนแรกของโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine