Tim Kentley Klay เปิดตัว "HYPR" สตาร์ทอัพรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งใหม่ - Forbes Thailand

Tim Kentley Klay เปิดตัว "HYPR" สตาร์ทอัพรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งใหม่

Tim Kentley Klay ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Zoox บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีแท็กซี่ไร้คนขับ ที่ Amazon เข้าควบรวมกิจการ เปิดตัว "HYPR" สตาร์ทอัพรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งใหม่ มุ่งมั่นพัฒนาซอฟแวร์ปัญญาประดิษฐ์ให้ "รถยนต์สามารถเรียนรู้ที่จะขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง"

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ยานยนต์ของ HYPR ถูกพัฒนาขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยี Reinforcement Learning หนึ่งในเทคนิคการทำปัญญาประดิษฐ์ ที่ใช้วิธีการให้รางวัลหรือการลงโทษ เพื่อที่จะขับเคลื่อนรถยนต์คันนั้นๆ ไปยังทิศทางเป้าหมายที่ระบุไว้ โดยไม่ต้องใช้การสั่งการหรือการควบคุมจากมนุษย์เลย ก่อนที่จะต่อยอดสู่การพัฒนาซอฟแวร์ให้รถยนต์สามารถเรียนรู้ที่จะขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง

ล่าสุด สตาร์ทอัพจากเมือง Alamada, California แห่งใหม่นี้ สามารถระดมทุนมากถึง 10 ล้านเหรียญในรอบแรกจากธุรกิจร่วมลงทุนอย่าง R7 Ventures และมหาเศรษฐีพันล้านชาวออสเตรเลีย Andrew Forrest เพื่อใช้ในการทดสอบระบบปฏิบัติงาน

Tim Kentley Klay
Tim Kentley Klay ผู้ก่อตั้ง HYPR

“HYPR กำลังพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่เหนือความคาดหมาย โดยตอนนี้เรากำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Machine Learning สำหรับการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ ที่มนุษย์มีหน้าที่เพียงการเขียนโปรแกรม แล้วให้หุ่นยนต์เรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับมา และนำไปปฏิบัติในส่วนต่อๆ ไปด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อไรที่เราทำในส่วนนี้สำเร็จ เราก็พร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลดังกล่าว Kentley Klay กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Forbes

Zoox ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดย Kentley Klay นักออกแบบชาวออสเตรเลีย และ Jesse Levinson นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ บุตรชายของประธานบริษัท Apple อย่าง Arthur Levinson และผู้พัฒนายานยนต์ไร้คนขับจากมหาวิทยาลัย Standford University ภายใต้โมเดลธุรกิจที่มุ่งเน้นผลิตรถยนต์เพื่อให้องค์กรนำไปใช้งานเป็นหลัก ไม่ใช่การผลิตเพื่อให้บริการเอง โดยในช่วงแรก ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองสามารถระดมทุนได้มากถึง 1 พันล้านเหรียญ สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีแท็กซี่ไร้คนขับให้กับกลุ่มลูกค้าในเมืองใหญ่ โดยเริ่มจากใน San Francisco เป็นที่แรก ก่อนที่จะขยายออกไปยังเมืองอื่นๆ

สำหรับการเข้าสู่วงการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นมาจากความสนใจของ Kentley Klay ที่ต้องการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร โดยที่ไม่ต้องแม้แต่บังคับทิศทาง เบรก หรือสตาร์ทเครื่องยนต์เลยทีเดียว

ถึงกระนั้น ในช่วงปลายปี 2018 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขององค์กร เมื่อ Kentley Klay ถูกให้ออกจากบริษัท เพราะความเห็นต่างในกลยุทธ์การบริหารงานของ Zoox ก่อนที่สตาร์ทอัพจากเมือง Foster City, California แห่งนี้จะถูกควบรวมกิจการโดย Amazon ที่มูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญ ในปี 2019 ที่ผ่านมา โดยมี Levinson ผู้ร่วมก่อตั้งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายเทคโนโลยี

ทั้งนี้ ท่ามกลางความสนใจในศักยภาพของนวัตกรรมแห่งอนาคตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การจัดการปัญหาที่เป็นข้อท้าทายในเชิงเทคนิคกลับต้องใช้ระยะเวลายาวนานเกินกว่าใครจะคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในทุกอุตสาหกรรม จนทำให้โครงการรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทชั้นนำอย่าง Waymo ของ Alphabet, Cruise ของ General Motor  หรือ Motional ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Hyundai Motor และ Aptiv สามารถทดลองให้บริการรถยนต์อัจฉริยะในปริมาณที่จำกัด และในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ต่างมองว่า อาจจะใช้เวลาถึง 3-4 ปีกว่าอุปสงค์ในแท็กซี่ไร้คนขับจะขยายสู่วงกว้างมากขึ้น

Tim Kentley Klay
ผู้ร่วมก่อตั้ง Zoox (ซ้าย) Tim Kentley-Klay (ขวา) Jesse Levison ในปี 2018

ในส่วนของ Zoox นั้น ล่าสุดทางบริษัทได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังพัฒนา "แท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ 2 ทิศทาง (bi-directional robotaxi)" โมเดลที่บริษัทเป็นผู้ออกแบบเอง และวางแผนจะเริ่มทำการผลิตที่โรงงานในเมือง Fremont, California ภายในเดือนธันวาคม 2020 ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดี Aicha Evans ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทยังไม่ได้กล่าวถึงกำหนดการอื่นๆของรถยนต์รุ่นดังกล่าว

สำหรับแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ 2 ทิศทางนี้ จะไม่มีการติดตั้งพวงมาลัย ทั้งยังไม่มีการบอกว่าส่วนไหนคือด้านหน้าหรือด้านหลังของรถ ทำให้สามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางใดก็ได้ ตลอดจนสามารถย้อนทิศได้เลยถ้าหากว่าติดอยู่บนถนนที่คับแคบหรือรถติด เป็นต้น ดังนั้นจึงคาดว่าจะมีประโยชน์อย่างมากในเมืองที่มีบริการเรียกยานพาหนะรับส่งโดยสารและส่งสินค้า

ขณะที่ทาง HYPR ของ Kentley Kley กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ใหม่ๆที่รวดเร็วกว่าการปฏิบัติงานที่ใช้กันอยู่ในบริษัทยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งอื่นๆ

ผมเชื่อในกระบวนการเรียนรู้แบบครบวงจร ที่การประมวลผลบนระบบคลาวด์จะเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างและกระจายสู่การเรียนรู้บนโลกออนไลน์ ซึ่งคล้ายกับการทำงานของเครือข่ายระบบประสาทของมนุษย์ ที่สามารถเห็นภาพบางส่วนแล้วเข้าใจได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆในสมอง ซึ่งในอนาคตอันไม่ไกลนี้ ระบบหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก็จะทำงานในลักษณะเดียวกัน Kentley Kley กล่าว พร้อมทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า “โปรดติดตาม! เพราะผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะเป็นสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงและไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Creator Of Amazon’s Zoox Robotaxi Unit Has A New Self-Driving Startup เผยแพร่บน forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Hyundai ร่วมกับ Ineos ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่จากอังกฤษ พัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนสำหรับยานยนต์