จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถปลูกผักไว้ภายในอาคาร ด้วยระบบปิดที่มีแมลงรบกวนน้อยจึงไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง และยังไม่ต้องคาดเดากับปริมาณแสงแต่ละวันเพราะพืชผักโตได้ด้วยแสงเทียมจากไฟฟ้า
ธนิต ภักดีโสดา กรรมการผู้จัดการและหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท อินเทลอะโกร จำกัด ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่บังเอิญพบเห็นบนอินเทอร์เน็ต และเริ่มลงมือประดิษฐ์ตู้ปลูกผักในร่ม (Indoor Farming) ขึ้นมาเอง “เริ่มแรกคือผมทดลองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยชุด kit ที่ใช้ปลูกแบบกลางแจ้ง แต่ปรากฏว่ามันไม่สำเร็จ เพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะแสงแดดธรรมชาติ ที่ถ้าหากไม่สม่ำเสมอผักก็จะไม่แข็งแรง เมื่อศึกษาไปก็พบว่าในต่างประเทศมีการปลูกผักในร่มโดยใช้แสงหลอดไฟ เลยเริ่มสนใจลองทำเอง” ธนิตเล่าถึงที่มา เขาร่วมกับเพื่อน 5 คนประดิษฐ์ตู้ปลูกผักในอาคารขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว พวกเขาใช้ชื่อแบรนด์ว่า Grobot
โดยหลอดไฟที่ใช้ในตู้จะเป็นหลอดไฟแอลอีดีที่ผลิตเพื่อใช้ปลูกผักโดยเฉพาะ เนื่องจากให้สเปกตรัมที่เหมาะสม และต้องสั่งจากต่างประเทศเท่านั้นเพราะในไทยยังไม่มีจำหน่าย
ค่าแสงมีความสำคัญมาก เพราะถ้าผิดพลาดจะทำให้ผักไม่แข็งแรง เติบโตไม่ได้ขนาดที่ต้องการ และอินเทลอะโกรยังต่อยอดไปมากกว่านั้นคือกำหนดตัวแปรที่ทำให้ผัก “อร่อย”
“เรากำลังทดลองว่าทำอย่างไรให้อร่อย ซึ่งเกิดจากทุกอย่าง เช่น ปริมาณแสง ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากการหมุนเวียนอากาศ วันที่เก็บเกี่ยวนับจากลงปลูกวันแรก การเก็บเกี่ยวช้าหรือเร็วเกินไปอาจจะทำให้ผักมีรสขมได้"


ถึงแม้ว่าจะยังมีจุดอ่อนเรื่องต้นทุนสูง แต่ธนิตมองว่าผักที่ปลูกในร่มมีข้อได้เปรียบเรื่องการควบคุมสิ่งแวดล้อมได้เกือบ 100% นั่นทำให้ผักจะเป็นผักออร์กานิกส์/ปลอดสารจริง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาและมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทางอากาศได้ยาก
“เรามองลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม จนถึง Niche Market อย่างบ้านเรือน คอนโดฯ โฮสเทลเล็กๆ ของคนที่ใส่ใจสุขภาพจริงๆ ตลาดเหล่านี้เชื่อว่ามี แต่อยู่ที่ว่าเขารับราคาเราได้แค่ไหน” ธนิตกล่าว
ปัจจุบันธนิตอยู่ในวัย 45 ปี ก่อนที่จะเริ่มทดลองตู้ปลูกผักในร่ม เขาลาออกจากงานสายอาชีพธนาคารที่ทำมากว่า 20 ปีด้วยความรู้สึกอิ่มตัว แต่เนื่องจากธนิตเรียนจบปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ทำให้มีพื้นฐานอยู่บ้าง
แม้จะถนัดงานวิจัยและประดิษฐ์กลไก แต่เขายอมรับว่ายังขาดเรื่องเงินทุนที่จะขยายธุรกิจและการหาตลาด ทำให้บริษัทค่อนข้างเปิดกว้างหากใครต้องการเข้ามาร่วมทุน
“เรากำลังมองหาลู่ทางที่จะขยายธุรกิจโดยการทำฟาร์มผักในร่มเอง ขายผักเอง เพื่อทดลองตลาดผู้บริโภค และให้ทุกคนได้เห็นว่าตู้ปลูกผักในร่มของเราใช้ได้จริง” ธนิตกล่าว

